บอกต่อ 🎤 วิธีคุมน้ำหนักคุณแม่ขณะท้องไม่ให้น้ำหนักเยอะเกินไป 🙆🏻‍♀️

สวัสดีค่าาาา~ คุมแม่ที่กำลังมีแพลนหรือว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ วันนี้อยากมาแชร์วิธีการทานอาหารที่ทำให้อาหารถึงเจ้าตัวเล็กของเรามากที่สุด และน้ำหนักของคุณแม่ไม่มากจนเกินไป ทำให้เดินเหินลำบาก ไปไหนก็ยาก แถมปวดหลังอีกด้วย

ตอนที่ท้องทั้งท้องแรกและท้องสอง

ส่วนมากเราจะเน้นอาหาร ไปทางโปรตีน

อย่างเช่นไข่ เนื้อสัตว์ ปลา เป็นส่วนใหญ่

ทานข้าวไม่เยอะ เพราะจะเป็นแป้งทำให้อ้วนได้ง่าย

พวกน้ำตาล ก็จะทานแต่ว่าไม่มาก เพราะถ้าน้ำตาลตกก็จะหงุดหงิด😂 ต้องอย่าตามใจมากเกินไป เพราะเวลาไปหาคุณหมอ ต้องโดนบ่นแน่ๆค่ะ

พวกนมก็ต้องสลับทานนะคะอย่าทานแค่ยี่ห้อเดียวแบบเดียว

เพราะถ้าไม่อย่างนั้นลูกจะเป็นคนแพ้นมได้ง่าย

สลับไประหว่างพวกน้ำเต้าหู้ นมกล่อง นมพิตาชิโอ

โดยปกติแม่เป็นคนแพ้แล็กโตสอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยทานเยอะค่ะ ทานทีไรท้องปั่นป่วนทุกที ก็เลยจะทานช่วงที่ท้องผูกเป็นพิเศษ ตอนท้องนี้ท้องผูกง่าย ดังนั้นก็เลยต้องเน้นผักและโปรตีนเยอะหน่อย อย่าลืมทานยาที่คุณหมอให้มาด้วยนะคะ

หากเลือดจาง จะมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าค่ะ

ท้องที่สองค่อนข้างตามใจตัวเอง

และน้องใกล้คลอดตอนช่วงหน้าทุเรียน

คุณหมอถึงกับกำชับ ’ลดทุเรียนให้น้อยนะคะ‘

บอกเลยว่าตอนที่ตรวจน้ำตาลเบาหวานสำหรับคนท้องนั้น

เหมือนเป็นฝันร้ายของคุณแม่

เพราะต้องกินน้ำตาลเป็นขวดๆ

แถมต้องงดข้าวตั้งนาน เวียนหัวไปหมดเลยค่ะ

ถ้าตามใจตัวเอง นอกจากน้ำหนักของลูกจะไม่ขึ้น

แถมน้ำหนักของแม่ก็จะลงยากด้วย 🥲

พอเวลาคลอดแล้ว ค่อยไปกินเยอะๆ

เพื่อให้น้ำนมมีความอุดมสมบูรณ์ และคุณแม่ต้องใช้พลังงานอย่างมากในช่วงนั้น ถึงเวลาคลอดแล้วอยากกินอะไรก็จะจัดเต็มได้เลยค่ะ 🥹 เพราะตอนนั้นกินอะไรก็จะลง ลูก ไหนจะต้องตื่นมาปั๊มนมด้วย let’s eat !

ลูกคนแรก น้ำหนักก่อนท้อง 45 กิโล

ก่อนคลอดน้ำหนัก 52 กิโล

คลอดแล้วน้ำหนักเหลือ 48 กิโล

น้ำหนักลูก 3,175 กรัม

————————-

ลูกคนที่สอง น้ำหนักก่อนท้อง 43 กิโล

ก่อนคลอด น้ำหนัก 55 กิโล

คลอดแล้วน้ำหนักเหลือ 45 กิโล

น้ำหนักลูกอยู่ที่ 3,430 กรัม

โพสต์หน้าจะมาแชร์วิธีการแม่ตัวเล็กคลอดลูกเองทั้งสองท้องนะคะ บอกเลยว่าโหด มัน ฮาสุดๆ 😆

#ประสบการณ์ชีวิต #คุณแม่มือใหม่ #คุณแม่ขอแชร์

#ไดอารี่มนุษย์แม่