🌈 10 เคล็ด (ไม่) ลับ ทานขนมหวานยังไง❓ไม่ทำให้อ้วน‼️ EP.2

เชื่อว่าหลายคนชอบทาน "ขนมหวาน" อย่างแน่นอน‼️ ใครที่ชอบมากๆ ก็อย่าทานเพลินจนลืมเอวเล็กๆที่เคยมีนะ 😂 เพราะเวลาน้ำหนักขึ้นมาทีไร❓ตอนขึ้นง่ายมากๆ 🥹 แต่ตอนลงนี่กว่าจะได้แต่ละขีดเหนื่อยสุด (ปาดเหงื่อค่ะ 💧) สำหรับใครที่ชอบทานขนมหวานมากๆ วันนี้เรามีเคล็ดลับการทานขนมหวานยังไง📌 ไม่ให้อ้วนมากฝากกันค่ะ ✅

📍พิกัด 🍓 ขนมพายสตอเบอร์รี่(คลีน)

1. ทานหลังมื้ออาหาร 🍴

การทานตอนท้องว่างจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่าอินซูลิน มีผลต่อการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดค่ะ และยังไปกักตุนคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ถูกใช้เปลี่ยนพลังงานไปเป็นไขมันได้ค่ะ 🥹

2. ทานเป็นของว่าง (บ่าย 2-4 โมงเย็น) ☁️

ถ้าต้องการทานขนมหวานเป็นของว่าง 🍧 ควรทานหลังมื้อหลัก ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ⏰ เพราะในช่วงเวลานั้น น้ำตาลในเลือดได้กลับมาระดับปกติแล้ว (ถือว่าเป็นวิธีการที่เหมาะมากๆ) สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักค่ะ แต่การทานขนมหวานในช่วงเวลานั้น ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของหวานที่ทานด้วยนะคะ 😊

3. ทานในปริมาณที่เหมาะสม ✅

บางคนที่อยากทานขนมหวาน แต่พอได้ทานแล้วไม่ได้ทานแค่ชิ้นเดียวค่ะ 😅 หรือเอามาแค่ถ่ายรูปเก๋ๆ อวดเพื่อนเท่านั้นนะ 😂 พอได้เข้าไปร้านขนมหวานทีไร❓อย่างแรกที่เราควรทำเลยคือ ตั้งสติ สั่งมาแล้วก็ให้แบ่งทานค่ะ เช่น เค้ก 1 ชิ้น อาจจะแบ่งทานเป็น 2 ครั้ง หรือแบ่งให้คนอื่นด้วยก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ลดแคลได้ และได้ทานขนมหวานในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไปค่ะ (เราทำบ่อยค่ะ) ได้ผลน้าาา 💕

4. ลดแคลอรี่ 🌈

การตัดน้ำตาล ครีม ออกจากขนมก่อนทาน 🍰 ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดแคลอรี่ที่เกิดจากขนมหวานที่เราทานเข้าไปค่ะ เช่น เกลี่ยน้ำตาลไอซิ่งที่โรยหน้าขนมปังออก 🧁 หรือไม่ใส่กะทิในของหวาน จะช่วยลดพลังงานได้ถึง 80-150 แคลอรี่ หรือเกลี่ยครีมหน้าขนมเค้กออก จะช่วยลดพลังงานได้ถึง 160 แคลอรี่เลยทีเดียวค่ะ‼️

5.ใช้ช้อนชาตักขนมหวาน 🥄

เพื่อให้เราทานขนมหวานในคำที่เล็กลงค่ะ และช้าลง ✅ เมื่อเราตักขนมเข้าปากแต่ละคำให้เคี้ยวช้าๆ และเคี้ยวให้นานที่สุด 😂 เพื่อให้กระเพาะและตับไตไส้พุงทำงานน้อยที่สุด อิอิ ให้ย่อยสลายได้เร็วที่สุด‼️ ไม่ต้องทานรีบร้อน ชิวๆไปเลย และถ้าได้ทานพร้อมกับนมหรือน้ำชาก็จะดี ทำให้เรารู้สึกว่าอิ่มเร็วขึ้นด้วยค่ะ 🌈

6. ชาร้อนๆดีต่อหุ่น 🍵

เมื่อเราทานขนมหวานเรียบร้อยแล้ว ให้สั่งเครื่องดื่ม อย่างชาร้อน มาจิบหลังมื้อขนมหวาน 🧁 หรือมื้อว่างระหว่างวัน ชาจะช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยลดคอเรสเตอรอลในร่างกาย 🫖 ได้อย่างดี‼️ และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายท้องอีกด้วยค่ะ

7. ทานผลไม้แทนขนมหวานก็ได้นะ 😊

วิธีนี้เชื่อว่าหลายคนได้ทำแล้ว 🍊 เพราะผลไม้บางชนิดมีความหวานไม่แพ้กับขนมหวานเลย เราควรทานผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ความอยากของหวานลดลงค่ะ และยังดีต่อสุขภาพของเราด้วยค่ะ

8. ลดแป้งและน้ำตาลในวันรุ่งขึ้น 🌥️🌈

ถ้าวันนี้เราทานขนมหวานไปแล้ว วันรุ่งขึ้นเราควรลดแป้งและน้ำตาลให้เหลือน้อยที่สุดค่ะ 🥯 เพื่อชดเชยของหวานที่เราทานไป เช่น มื้อเช้าและกลางวัน ควรเน้นทานผักและผลไม้ประมาณ 80% และโปรตีนอีก 20% ส่วนมื้อเย็นก็ให้เน้นทานผักมากกว่า และดื่มน้ำเปล่าแทนค่ะ 💦

9. เดินเล่นหลังทานขนมหวาน 10-15 นาที 🚶🏻‍♀️

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ หลังเราทานขนมหวานเสร็จแล้ว อย่านั่งอยู่กับที่เฉยๆ เราควรออกไปเดินเล่นรอบๆบ้านบ้าง วิธีนี้นอกจากจะช่วยย่อยแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ไขมันมาสะสมที่หน้าท้อง ต้นขา และสะโพกได้อีกด้วยน้า 😊 (เดินไปเกรงพุงไปด้วยก็ได้ค่ะ)

10. ออกกำลังกาย 💪🏻

หลังทานขนมหวาน 2-3 ชั่วโมง ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เพื่อกำจัดแป้งและน้ำตาลก่อนกลายเป็นไขมันสะสม ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยที่ก่อนและหลังออกกำลังกายควรดื่มชาร้อนหรือน้ำอุ่น เพื่อให้มีระบบเผาผลาญควบคู่ไปด้วยค่ะ ✅

🌈 ส่วนใครที่น้ำตาลตกบ่อยๆ 😋 แล้วต้องทานขนมหวานเพิ่มน้ำตาล 💕 เพื่อสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย ควรนำเคล็ดลับที่เล่าให้ฟังไปปรับใช้นะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีและพุงไม่ย้อยตามมาค่ะ

•

•

#ขนมหวาน #ของหวาน #ขนมคลีน #เฮลท์ตี้กับLemon8 #ขนมไม่อ้วน #ADayWithLemon8 #ลดน้ําหนัก #ลดความอ้วน #หุ่นดี #ไม่อ้วน