จะเลือกกินแก้วมังกรสีไหนดีนะ🤔✨✨น้ำตาลน้อย ไฟเบอร์สูง ลดน้ำหนัก✨✨

จริงๆแล้ว แก้วมังกรมีกี่สีกันนะ…??

แก้วมังกรสีแดง กับ แก้วมังกรสีขาว ชอบทานสีไหนมากกว่ากัน…..???

สาวๆทราบกันมั้ยคะว่าผลไม้อย่างแก้วมังกรเนี่ย ข้อดีเยอะมาก ใครที่ต้องการลดน้ำตาล ลดน้ำหนัก ต้องนึกถึง เพราะแก้วมังกรนอกจากแคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย ไฟเบอร์ยังสูงอีกด้วยค่ะ

จริงๆแล้ว แก้วมังกรมีทั้งหมด 3 ชนิด นะคะนอกจากแก้วมังกรสีขาว กับสีแดงแล้ว ยังมีสีเหลืองด้วยค่ะ

แก้วมังกรสีเหลือง

- แก้วมังกรเหลือง มีเนื้อสีขาว เปลือกสีเหลืองสด

- มีรสหวานพอดี ๆ

- มีเมล็ดเล็ก ๆ สีดำ ขนาดจะใหญ่กว่าชนิดสีขาวและสีแดง

- มีสารฟลาโวนอยด์ สารต้านอนุมูลอิสระ และพรีไบโอติกส์

แก้วมังกรสีแดง

- มีผิวสีชมพูถึงสีแดงเข้ม มีเกล็ดหรือหนามสีเขียว

- เนื้อมีสีแดงหรือม่วงแดงสดใส

- มีรสหวานเล็กน้อย

- มีรสคล้ายๆกับกีวีและลูกแพร์ผสมกัน

- แก้วมังกรสีแดง หายากและแพงกว่า มีสารไลโคปีน และเบต้าไซยานิน

- เหมาะกับคนชอบรสหวานจัด หอม สดชื่น ได้สารต้านอนุมูลอิสระสูง

แก้วมังกรสีขาว

- แก้วมังกรสีขาวมีหนังเหนียว ผิวสีขาวมีเกล็ดสีเขียว

- เนื้อเป็นสีขาว มีเมล็ดสีดำเล็กๆ กระจายตัวเท่าๆ กัน

- มีรสหวานน้อยกว่าแก้วมังกรสีแดงเล็กน้อย

- มีรสชาติคล้ายลูกแพร์และแตงโม ผสมกัน

- เหมาะกับคนชอบรสหวานละมุน ทานง่าย

คุณค่าทางโภชนาการ ของแก้วมังกร

- เนื้อแก้วมังกร 100 กรัม

- ให้พลังงาน 66 กิโลแคลอรี่

- ไฟเบอร์หรือเส้นใย 2.6 กรัม

- โปรตีน 1.4 กรัม

- วิตามินซี 7 มก.

ประโยชน์ของแก้วมังกร

- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและต้านเซลล์มะเร็ง

- มีไฟเบอร์สูง ช่วยลดการกินของว่างหวาน ๆ

- มีพรีไบโอติก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายดี

- มีธาตุเหล็ก และวิตามินซี ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ป้องกันโรคโลหิตจาง

- เมล็ดเล็ก ๆ สีดำในแก้วมังกร มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวช่วยป้องกันคอเลสเตอรอลสะสมที่ผนังหลอดเลือด ช่วยบำรุงผิวและเส้นผม

- แก้วมังกรควรทานวันละไม่เกิน 1 ลูก 

การเลือกทานระหว่างแก้วมังกรสีแดงและสีขาวมักขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและการหาซื้อที่ง่ายในแต่ละที่ ซึ่ง ในกลุ่มที่รักษาสุขภาพ ที่ต้องการเพิ่มไฟเบอร์ แต่ไม่อยากเพิ่มน้ำตาล ก็ต้องนึกถึง แก้วมังกรใช่มั้ยล่ะคะ

#healthyfood #homemadestylebyano #healthly #ผลไม้หวานน้อย #ผลไม้ไฟเบอร์สูง

#สาระดีมีประโยชน์ #สาระสุขภาพ #สาระน่ารู้ #สาระสุขภาพดี