กอดกันดีอย่างไร? และช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

มีใครเคยเห็น content ”Free hug หรือ กอดฟรี“ ที่ชาวต่างชาติทำมั้ยคะ ที่เขามักจะแปะป้ายที่หน้าและหลังของตัวเอง หรือวางป้ายไว้ และมีหลายๆคนเข้าไปกอดเค้า จนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์บ่อยๆ

,

ในไทยก็มีพี่เขื่อน ภัทรดนัย ที่ทำ “จุดพักใจ” ในลักษณะรับฟังเรื่องราว และโอบกอดคนที่เข้ามาปรึกษาเช่นกัน

.

💚นักจิตบำบัด Virginia Satir ได้กล่าวว่า

“เราต้องการ 4 กอดต่อวันเพื่อความอยู่รอด

เราต้องการ 8 กอดต่อวันสำหรับการบำรุงรักษา

เราต้องการกอด 12 กอดต่อวันเพื่อการเติบโต”

.

🩵แล้วทำไมต้องกอด !?

การกอดไม่ได้เป็นเพียงแค่การสัมผัสร่างกายของคนๆหนึ่งอย่างเดียวเท่านั้น แต่การกอดเป็นการแสดงความรักและความห่วงใย ความเห็นอกเห็นใจรูปแบบหนึ่ง ที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกอบอุ่นใจและรู้สึกดีแล้ว การกอดยังมีประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจอีกด้วย โดยมีงานวิจัยที่รองรับการค้นพบประโยชน์ของการกอดนี้

.

💕1. การกอดจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน Oxytocin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพัน ช่วยเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดและเชื่อใจกัน ช่วยรักษาความรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และความรู้สึกโกรธได้ มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การกอดหรือการสัมผัสกับคนรักบ่อยๆ จะช่วยให้เกิดความรู้สึกดีและผูกพันกันมากขึ้น และการกอดก็ยังแสดงถึงการให้กำลังใจ การสนับสนุน ช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวด้วย

💕2. ช่วยลดความดันโลหิต

ฮอร์โมนอ๊อกซี่โทซิน (Oxytocin) ที่ถูกหลั่งออกมาเมื่อกอดกันยังส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้ดียิ่งขึ้น โดยช่วยลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลง ช่วยให้หัวใจไม่ทำงานหนักและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ด้วยค่ะ

💕 3. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีงานวิจัยที่ชี้ว่า หากคนที่มีความเครียดแล้วได้รับกำลังใจและการสนับสนุนรวมถึงได้รับการกอดจากผู้อื่นบ่อยขึ้น ก็จะทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆน้อยลง

💕 4. เป็นวิธีในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ เช่น

• ลดอาการซึมเศร้า

การกอดจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ยกระดับอารมณ์และสร้างความสุข

• ลดความเครียด

เมื่อกล้ามเนื้อของเราถูกกอด จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายการไหลเวียนของเลือดก็จะดีขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตสารเอนโดฟิน (Endorphin) เพื่อลดความเครียดและช่วยลดอาการปวดได้ด้วย

• ลดความกลัว

การก่อจะช่วยให้ความรู้สึกไม่สบายใจ ความรู้สึกกลัวหรือโกรธลดลง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทดลองให้เด็กผู้หญิงอายุ 7-12 ปี เผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดโดยไม่ได้ตั้งตัว ผลพบว่า เด็กที่ได้รับการกอดหรือคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อนสถานการณ์ จะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อมีความเครียดน้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ

,

หากคนที่อ่านบทความนี้แล้วคิดว่า ก็ไม่มีใครให้กอดนี่ แต่อย่าลืมว่า อย่างน้อยเรายังมีตัวเองให้กอดนะคะ

.

อย่าลืมกอดตัวเองกันเยอะๆน้า

💕

📚แหล่งที่มา :

-https://www.thrivewellnessth.com/post/__hug

-https://resourcecenter.thaihealth.or.th/media-webview/2xOW

-https://www.pobpad.com/

-https://sistacafe.com/summaries/6-

✏️รวบรวมโดย :

ครูอู๋ นักจิตวิทยา

#กอดตัวเอง #กอด #จิตวิทยาความรัก #จิตวิทยา #ความรู้สุขภาพ #แชร์ความรู้สุขภาพ #สุขภาพใจ