"เจ้านายที่ชอบตั้งเป้าหมายยากๆ"

"เจ้านายที่ชอบตั้งเป้าหมายยากๆ แต่ไม่เคยช่วยห่าอะไรเลยสักอย่าง"

เราทนกับเจ้านายที่สั่งงานที่โง่เขลา ยอมให้เรามี Performance ที่ห่วย เป็นเรื่องที่ควรจริงเหรอ?

1) บอยเจอประเด็นนี้ในเพจที่เกี่ยวข้องกับชีวิตการทำงาน แต่บอยรู้สึกว่า มันเหมือนเป็นการบ่นระบายของลูกน้อง มากกว่าการมองหาทางออกเพื่อรับมือกับเจ้านายที่ทำงานลักษณะนี้กับเรา 'วิสัยทัศน์กว้างไกล แต่ไร้ action แล้วชีวิตฉันจะทำอย่างไร?'

2) ก่อนอื่นเลย เราจะบอกว่า เจ้านายมีหลาย Type มากๆ ถ้าเราต้องทน และเขาก็ไม่ได้ลาออกไปไหน สิ่งที่เราทำได้คือหาทางรับมือ เขามีจุดแข็งที่ดี และในขณะเดียวกัน เขาก็มีจุดอ่อน ที่ทำให้เราต้องเรียนรู้ที่จะทำงานด้วยว่าจะทำยังไงให้เราอยู่รอด ไม่ตายเสียก่อนในการทำงานกับเจ้านายช่างฝัน

3) เจ้านายมีหน้าที่กระตุ้น และ motivate ลูกน้องให้เกิดการทำงานสร้างสรรค์ และ challenge สร้างความท้าทายใหม่ๆ ด้วยโจทย์ที่ยาก เพื่อสร้างการพัฒนาในงาน และดึงศักยภาพลูกน้องไปสู่การทำงานบนเป้าหมาย เพื่อสร้างความสำเร็จให้องค์กร แต่ปัญหาคือ "จะ Challenge อย่างไร ก็ต้องไม่ลืมอยู่บนโลกแห่งความจริงว่าต้องทำได้"

4) ปัญหาของหลายๆบริษัทคือ เจ้านายที่ไม่เคยลงทำเอง ทำให้เขาสั่งเป็นอย่างเดียว แต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานโดยตรง ซึ่งคนแบบนี้ ยิ่งไม่ควร promote มาเป็นเจ้านาย เพราะเขาไม่ได้ผ่านการทำงานบน process / production เอง เขามองแต่ผลลัพธ์ที่อยากได้เท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะได้มา เลยมองว่าทุกอย่างต้องได้ ต้องทำได้ แต่ไม่เคยทำ ก็เลยไม่เห็นภาพความฉิบหาย ว่าจริงๆ ถ้าลองมาทำเอง มันไม่รอดหรอกนะ

5) สิ่งที่หลายคนคิด และชอบทำกันในมุมลูกน้อง คือ เอาเวลาไปนินทาเจ้านาย ด้วยความโกรธ ไม่พอใจ และก็ทนทำๆไป ให้มันผ่านๆไป สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จตามเป้าหมาย แค่คิดว่าต้องอดทนนะ เพื่อให้เจ้านายพึงพอใจ เพื่อเอาใจเจ้านาย เราจะบอกว่าคิดผิดมาก ที่เลือกจะทำตามสั่ง แต่กลับไม่ปกป้องความคิดของตัวเอง และ discuss กับเจ้านายในเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ว่า มันมีปัญหา และเพ้อฝันอย่างไรในมุมของเรา

6) คนมองว่าการก้มหน้าก้มตาทำงาน และไม่เถียงเจ้านาย เอาใจเขาดีกว่า จะได้เติบโตก้าวหน้า แต่คุณกลับลืมว่าระหว่างเส้นทาง คุณต้องแบกรับการทำงานที่แย่ต่อสุขภาพจิตตัวเอง ฝืนทำในสิ่งที่เรามองไม่เห็นความสำเร็จ และสุดท้ายเราต้องยอมรับผลลัพธ์ว่า ตัวเรามี performance ห่วยแตก มันมีผลกระทบต่อความก้าวหน้า และผลงานนั้นก็เป็น Branding ของเราเองในการทำงาน เป็น profile ของเราเองว่าเราล้มเหลว ถ้าเรายอมให้เขาสร้างเป้าหมายที่ล้มเหลว ก็เท่ากับเรายอมรับความล้มเหลวตั้งแต่ต้นแล้วนะ

7) การมอง Challenge ให้เป็นความท้าทายที่น่าทำได้ ต้องรู้เสมอว่ามี How-to จะไปถึง ไม่ใช่กะทำมั่วๆเอาฟลุ้ค ส้มหล่นโชคดี เลยปัง การที่เจ้านายไม่มีแผน เราเองไม่เห็นความเป็นไปได้ แล้วมีแต่เป้า “If you fail to plan, you plan to fail.” ถ้าไม่วางแผนก็ล้มเหลวตั้งแต่ต้น ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือ การกลับไปให้เจ้านายร่วมตกผลึกว่า อะไรคือแผนของความสำเร็จ ให้เขาช่วยแนะนำ push idea และความชาญฉลาดของเขาออกมา เราเองก็มีหน้าที่รีดศักยภาพเจ้านายกลับไปเช่นกัน

8 ) หลายคนที่หัวเก่ามากๆ จะมองเรื่องนี้ว่า คนรุ่นใหม่ ไม่ได้เรื่อง ไม่สู้งาน ทำอะไรก็บ่ายเบี่ยง เรื่องมาก ทำไมไม่รับมาทำดูก่อน อะไรๆก็บอกว่าทำไม่ได้ แต่...ในความเป็นจริง คนเรามี limit ในการแบกรับความล้มเหลวได้ไม่เท่ากัน และเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตบนความเสี่ยง เราสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าการไปลองมั่ว แต่เกิดการนั่งคุยแผนกับเจ้านาย และลองสื่อสารความเป็นไปได้ สุดท้ายมันจะเกิดเป้าหมาย และแนวทางการทำงานที่ฉลาดขึ้น

9) การทำงานที่ดีคือการสื่อสารกันไปสู่แนวทางแบบ think win-win solution เธอ happy จะไป way นี้ และฉันพึงพอใจกับสิ่งที่จะทำ มันถึงจะทำให้การทำงานออกมาบนความสุข และเป็นงานที่เกิดการเจรจาต่อรองที่คนทำงานทุกคนโอเคกับมันจริงๆ ไม่ใช่การฝืนทำอย่างไม่มีความสุข รับเป้าหมายที่ตนเกลียด และทนทำงานที่ไม่ยอมรับอยู่ในใจ งานที่ดีต้องทำให้คนทำงานคุยกันได้ ปรับเป้าหมายที่สร้างสรรค์ เป็นไปได้ แต่ยังคงท้าทายอยู่ มันต้องคุยกัน ไม่ใช่ความเพ้อฝันจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

10) การที่คุณพยายามเอาใจเจ้านาย ที่ไม่อยู่บนความเป็นจริง แต่ข้างในคุณไม่โอเค แล้วฝืนทำงาน สุดท้ายมันเป็นแรงกดทับทางสุขภาพจิต ที่วันหนึ่ง คุณจะทนไม่ได้อีกต่อไป คุณไม่สามารถทนอยู่ในงานนั้นได้นานมากพอ และจากองค์กรนั้นไปอย่างน่าเสียดาย วัฒนธรรมองค์กรที่สร้างเจ้านายห่วยๆ คือ ปัญหาที่ทำให้คนลาออกสูงสุด เพราะเจ้านายนี่แหละ ดังนั้น HR ที่ดี ต้องลองสังเกตว่า ปัจจุบันองค์กรของตนเองมีคนระดับ management level ที่เป็น toxic people กับคนทำงานหรือไม่ แล้วต้องหาทางจัดการซะ มิฉะนั้น คนไม่ดี จะทำร้ายคนดีๆให้ไปจากองค์กรเสียหมด ผลัดใบไปอย่างน่าเสียดาย เป็นน่าที่ของ HR ที่ต้องหมั่นสังเกตความฉิบหายของพนักงานให้มากขึ้นด้วยครับ

11) การบอกให้เจ้านายรู้ อย่างน้อยเขาจะได้ไปปรับปรุงตัวให้ตัวเองเป็นเจ้านายที่ดีขึ้น แต่การไม่พูดอะไรเลยแล้วทน คุณต้องทรมานทำงานกับคนเดิมๆ ด้วยวิธีเดิม ที่ทำร้ายคุณในทุกวัน จน Burnout แล้วทำให้คุณเกลียด office เพียงเพราะการไม่ยอมสื่อสาร เขาสั่งงานแย่ ต้องบอกให้เขารู้ว่าความล้มเหลวเป็นของเขา เราอย่าแบกรับความล้มเหลวนั้นด้วยความเงียบ แล้วกลับไปทำในงภาระบนความรู้สึกเกลียด และไม่มีคุณค่าอยู่เลยนะ

เราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เขาตั้งโปรแกรมให้ทำตามสั่ง คุณเป็นมนุษย์ สุขภาพจิตคุณมีค่าเสมอ อย่าเอามันไปแลกกับงานที่เป็นมลพิษเลยนะ สื่อสารดูก่อน เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น

#ตุ๊ดส์review

======

FACEBOOK POST :

bit.ly/3KW8g17

======

ฝากช่องทางต่างๆของบอย ตุ๊ดส์review :

facebook.com/tootsyreview/

twitter.com/tootsyreview

instagram.com/tootsyreview/

youtube.com/@tootsyreview

tiktok.com/@tootsy_review

lemon8-app.com/tootsyreview