จุดเปลี่ยนที่ทำให้ลดน้ำหนักสำเร็จในวัย 30+

ผมพึ่งจะหัดเขียนนะครับ ถ้าเขียนไม่ดี วกไปวนมาก็ขออภัยด้วยจริงๆ😅 แต่อยากจะแชร์จริงๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่เจอเหตุการณ์แบบผม

เหตุการณ์ที่ทำให้ลดน้ำหนักสำเร็จในวัย 30+ ก็คือ

อาการ”ป่วย“นั่นเอง

ผมเป็นเด็กอ้วนมาตลอดชีวิตแต่ก็มีช่วงผอมบ้างคือช่วงม.ปลายถึงมหาลัยเพราะอยากดูดีตามประสาวัยรุ่น

(ตอนช่วงนั้นลดจาก88>65kg. แบบผิดวิธี ไว้จะมาแชร์ให้ฟังว่าไม่ควรทำตามยังไง)

หลังจากที่ผมจบมหาลัยมาน้ำหนักก็ทำสถิติใหม่ทุกปี เพราะว่ากินรัวๆ เอาแต่คิดว่าสมัยก่อนเคยลดสำเร็จมาแล้ว เดี๋ยวค่อยลดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอจะลดอีกที ท้อ เบื่อ เลิกตลอด😩

แรกๆนน.มันก็ค่อยๆขึ้น แต่พอเข้าวัย 30 เริ่มหยุดไม่อยู่ จนน้ำหนักมาถึงจุดพีค 100kg. และแล้วเมื่อ2ปีที่แล้ว เช้าวันนึงหลังจากกินบุฟเฟต์ทะเลเผา อยู่ดีๆก็ปวดที่ข้อนิ้วเท้าข้างขวา ความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่เคยเจอมาในชีวิต แค่แตะก็ดิ้นทรมานแล้ว ใครเคยเป็นจะเข้าใจเลย ก็เลยรีบไปหาหมอ โดนจับตรวจเลือด และขอหมอฉีดยาแก้ปวดทันที สุดท้ายหมอบอกว่า กรดยูริคเกือบ 12 (ค่าปกติของผู้ชายคือไม่เกิน7) หมอบอกว่ามีโอกาสเป็นโรค ”เก๊าท์“ ต้องกินยาลดกรดยูริค ไว้ให้กลับมาตรวจว่าแพ้ยาตัวนี้มั้ย เพราะผลข้างเคียงแรงมาก

ผมก็คิดว่าอะไรเนี่ยยย พึ่งจะเข้าเลข3จะตุยแล้วหรอ🤣หลังจากกลับมาก็หาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับโรค,วิธีรักษาโดยไม่กินยา ดูยันคลิปหมอyoutubeฝรั่ง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอน แต่เห็นหลายๆคนที่หายจากโรค เบาหวาน,ความดัน สุขภาพดีขึ้น โดยการลดน้ำหนัก

ผมเลยเริ่มเปลี่ยนตัวเอง ด้วยการสมัครฟิตเนส ออกกำลังกายด้วยการ Weight Trainingกับ Cardio วันละ 2ชม. และเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการกิน IF / Keto ทำควบคู่กันไป ใช้เวลาประมาณ1ปีจนตอนนี้น้ำหนักลดเหลือ 77kg. เป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 65-68kg. ตอนนี้ค่ากรดยูริคกลับมาเข้าเกณฑ์ปกติแล้วดีใจมากๆ🥹

ไว้โพสหน้าจะมาแชร์เกี่ยวกับ สิ่งที่ผมทำในช่วงเวลา1ปีอย่างละเอียด และจะแชร์เกี่ยว "Mindset" ที่ช่วยผมประเปลี่ยนพฤติกรรมทำให้ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ไม่ล้มเลิกก่อน

#ติดเทรนด์ #ลดน้ำหนัก #ลดความอ้วน #วิธีลดน้ำหนัก #ลดพุง