จากใจคนนอนกรนหนักมากกกก ✌️

จากใจคนที่คิดว่าเรื่องสุขภาพเเมร่งโคตรไกลตัว

เเชร์นี้ยาวหน่อยนะ เเต่อยากเล่าความรู้สึกจากใจจริงๆ

ขอเริ่มด้วยเเนะนำชีวิตของเราก่อน

เราเป็นเเค่พนักงานบริษัทตัวน้อยๆแต่เวลาทำงานไม่เคยน้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันเลย

ทั้งงานราช งานหลวง งานนอก บลาๆๆ

เล่นซะ เเต่ละวันนอนเฉลี่ยไม่เกิน 5 ชั่วโมง

เเละด้วยสปิริตเด็กจบใหม่ไฟเเรงไม่เคยคิดว่าที่ทำอยู่ในเเต่ละวันจะส่งผลเสียอะไร

คิดเเค่วันนี้กูมีเเรงก็เอาหน่อยสิว่ะ

จะทำก็ทำให้สุด ลุยงานไม่พักต่อเนื่องเเบบนี้เกือบปี

สุดท้ายสิ่งที่ทำไว้ก็ผลิดอกออกผล

“ร่างกายพังครับ”

พังในทีนี้หมายถึงพังจนมันรู้สึกได้

รู้เลยว่าร่างกายแย่มาก ทั้งภายนอกและภายใน

• ตื่นเช้ามาก็เเบบเพลียๆ คอเเห้ง รู้สึกเหมือนไม่ได้นอน ทั้งที่นอนแล้ว

• ช่วงบ่ายๆ คือง่วงหนักมาก อยากงีบสักหลายๆตื่น ซึ่งทำได้เเค่โดปกาเเฟอัดๆไป

• ขอบตาคล้ำเเบบเห็นได้ชัดมากกกก หน้าโทรมมากช่วงนั้น (ตามรูป)

• ที่สำคัญอ้วนขึ้น !!! เอาจริง ส่วนนี้ไม่ได้รู้สึกเองแต่พี่สาวบอกมา ซึ่งเราก็ไม่เชื่อ เพราะเรามองว่าตัวเราเองก็หุ่นดีนะ เเถมหล่อเหมือนเดิมอ่ะ ไม่เห็นจะอ้วน5555

เเต่ด้วยทั้งหมดที่เล่ามา

มันเป็นแค่อาการภายนอก ซึ่งเราก็พอทนได้

แค่คิดว่าทำไมเพลีย และเหนื่อยง่ายจังวะ

แต่ลาสบอส จริงๆคือ ภูมิเเพ้

อาการภูมิแพ้กลับมาหนักมาก

จนต้องยอมไปหาหมอเเละตรวจร่างกาย

สุดท้ายผลก็ออกมาตามที่คิด

ภูมิเเพ้กำเริบหนักจนต้องพกยาพ่นติดตัว

เเต่ที่งงกว่านั้นคือหมอบอกว่าเรามี

“อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย”

ขอเท้าความเรื่องของโรคนี้สักหน่อย

อาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะนี้

เกิดได้หลากหลายสาเหตุมาก

เเต่ที่เกี่ยวกับเราโดยตรงมันเกิดจากการนอนของเรา

ที่ไม่มีคุณภาพในเเต่ละคืน

นอนน้อย นอนไม่มีคุณภาพ นอนหลับไม่สนิท

และที่สำคัญ “นอนกรน”

สรุปง่ายๆนะ

ทำงานหนัก

v

เครียด

v

ไม่ดูแลตัวเอง

v

นอนน้อย แถม นอนกรนอีก

v

หัวใจเต้นผิดจังหวะ

เเล้วหมอดันทิ้งท้ายว่ายังปล่อยนะ

อาการมันจะ “หนักขึ้น”

โดยที่เรากลัวที่สุดจากโรคนี้คือ “การไหลตาย”

เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะนอนกรน

จนหยุดหายใจไปเมื่อไหร่

เราไม่รู้เลยว่าคืนนี้ที่นอนไป

พรุ่งนี้เราจะได้ตื่นมาในเช้าวันถัดไปมั้ย

ซึ่งมันรุนแรงมากๆสำหรับเรา

เเบบกูเพิ่งจบใหม่นะเว้ยยยยย

เพิ่งเข้าชีวิตทำงาน ชีวิตพึ่งเริ่มต้น

ยังมีอีกหลายอย่างยังไม่ทำเลย มึงจะรีบตายไม่ได้นะ

เเล้วหมอก็ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าอยากรักษามี 3 วิธี

1. ใช้เครื่อง CPAP ที่ราคาหลัก 50k++

2. ผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้เราเคยทำช่วงผ่าต่อมทอลซิน

ให้หมอจี้จมูก ตัดลิ้นไก่ให้สั้นเพื่อลดการนอนกรน

ซึ่งสุดท้ายมันก็กรนดังเหมือนเดิม เเถมรู้สึกคอเเห้งหนักขึ้นอี้กกก

3. ลดความอ้วน ซึ่งจากที่เกริ่นมาว่าเราก็ไม่ได้คิดว่าเราอ้วน

จาก 3 วิธี ทุกคนเลือกวิธีไหนกันครับ

เราเลือกข้อ 3

เพราะเป็นทางเลือกที่ดูง่ายสุดเเละถูกสุดด้วย 55555555555555

“ลดความอ้วน” เป็นคำที่พูดง่ายเเต่เเมร่งยากจริ้งงงง

คือเราออกกำลังกายหนักมาก

ทั้งวิ่ง ทั้งฟิตเนส ว่ายน้ำ

(ปล.ช่วงหลังเลิกงาน เเละเวลาที่ว่างไป)

เเบบเหนื่อยจัด+ต้องสู้กับความขี้เกียจหลายรอบ

กว่าจะออกจากห้องเเต่ละที

สุดท้ายเเบบเรารู้สึกได้เลยว่าเเข็งเเรงขึ้นนะ

เเต่น้ำหนักมันไม่ลงเลย น้ำหนักมันคงที่ที่จุดเดิม

เเถมนอนกรน ตื่นมาเพลีย

ทุกอย่างเหมือนเดิมเลยยย ทำไมวะ

จนเริ่มมาคิดว่าถ้ายังใช้วิธีนี้น่าจะได้ตายก่อนผอมแน่ ยังไม่ทันผอม ไหลตายก่อน

แต่สงสัยนรกยังไม่อยากรับเราไป

โชคดี ได้แฟนมาช่วยดูแลครับ 5555

เปลี่ยนจากเดิมที่สนใจแค่การออกกำลังกายหนักๆ

มาเพิ่มเรื่องการปรับการกินในเเต่ละมื้อของเรา

เริ่มต้นด้วยการคุมอาหารก่อน

คุมแบบที่ทุกคนรู้กันแหละครับ

งดของหวาน ของทอด อาหารรสจัด

แต่คุมอาหารรอบนี้แตกต่าง

เพราะแฟนมาช่วยดูเรื่องของสารอาหารให้ด้วย

พึ่งรู้ว่าการลดความอ้วน สารอาหารสำคัญมากๆ

เพราะมันเป็นวัตถุดิบ ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้

ตอนแฟนพูดถึง #สารอาหาร

เราว่าเราก็กินครบนะ โปรตีนเราก็กิน กินเยอะด้วย

แต่เปิดโลกมาว่าสารอาหารไม่ใช่แค่โปรตีนอย่างเดียว ไม่ใช่แค่กินอกไก่ กินเวย์เยอะๆแล้วมันจบ

แม่งมีวิตามิน เกลือแร่ ไขมันดี อีกเยอะแยะ

หัวจะปวดครับ ก็ให้แฟนเค้ามาช่วยดูแลไปละกัน 5555555555555

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอยู่ 8 วีค

นน.ลดลงมาประมาณ 7.7 โล โอ้วววแม่เจ้า !!!!!

งงมาก ลดไปเกือบ 8 โลได้ไงวะ

เพราะรอบนี้ไม่ได้ออกกำลังกายเลย

อยากออกนะแต่งานยุ่งมาก

เลยทำได้แค่ #ปรับการกินล้วนๆ

เลือกๆกิน ไม่ได้อดกิน แฟนไม่ให้อดอาหาร 5555

เอาจริงป้ะ ความรู้สึกคือ เห้ยย มันดี แบบดีมากจริงๆ

รู้เลยว่าร่างกายเราฟื้นฟูแล้ว

ไม่เพลีย ไม่ง่วงช่วงบ่าย หน้าไม่โทรม

เดินขึ้นลงสะพานลอยไม่เหนื่อยเหมือนเดิม

คนทักว่าดูดีขึ้น ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่าเราหล่อ

เเละสิ่งที่ได้มากกว่านั้นคืออาการ #นอนกรน มันลดลงไปเลยเว้ย หายเเทบ 100% เลย!!!

ตื่นเช้ามาสดใสมาก ไม่คอเเห้ง ไม่เพลีย

นอน 6 ชั่วโมงคือได้นอน 6 ชั่วโมงจริงๆสักที

ไม่ต้องมาเสียสุขภาพกับการนอนไม่เต็มอิ่ม

คืออันนี้เเหละที่ต้องการมานาน

พอนอนดีขึ้น สุขภาพต่างๆดีขึ้น

อาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะก็หายไปด้วย

น้ำตาจะไหล ไม่ต้องกังวลแล้ว

ว่านอนหลับไปแล้วจะได้ตื่นมามั้ยในทุกๆคืน

อันนี้น่ากลัวจริงๆนะ

ขอบคุณตัวเองมากๆที่ตัดสินใจกลับมาดูแลตัวเอง

ขอบคุณแฟนด้วยนะครับ ที่มาช่วยดูแล

ขอบคุณพี่หมอที่คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดมาตลอด

ขอบคุณทุกๆคนมากๆ ที่คอยให้กำลังใจตลอดมา

แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ 55555

สุดท้ายนี้เราก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน

ที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

อย่าลืมหันกลับมา #ดูแลสุขภาพ ตัวเองกันด้วยนะครับ อย่าปล่อย อย่าละเลย จนวันที่มันสายเกินไป

เพราะเรามีแค่ร่างกายเดียวที่ต้องใช้ไปตลอดชีวิต

เราต้องดูแลมันให้ดีครับ

รถพังยังซื้อใหม่ได้ แต่ร่างกายพังซื้อใหม่ไม่ได้นะครับ

แถมค่ารักษาก็แพงกว่าค่าดูแลร่างกายแน่นอนครับ เราคอนเฟิร์ม 55555555

อีกอย่างที่เราได้ตกตะกอนจากเหตุการณ์นี้เลยก็คือ

เราคือคนสำคัญสำหรับคนที่บ้าน

เพราะสำหรับเค้า เรามีแค่คนเดียว

อย่าหักโหมทำงานหนักมากเกินไป

จนลืมดูแลตัวเองนะครับ

เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป

คนที่เสียใจมากๆคือครอบครัวเรานั่นแหละครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ทุกคนเลยที่กำลังเริ่มต้นดูแลสุขภาพตัวเอง

สู้ๆๆๆๆ

🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥🔥

#ติดเทรนด์ #สุขภาพ #สุขภาพดี #สุขภาพดีจากภายใน #ลดความอ้วน #หุ่นดี