Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝

ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝 JPEG Download
ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝 JPEG Download
ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝 JPEG Download
ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝 JPEG Download
ความเเตกต่างระหว่างการเรียนในมัธยม&มหาวิทยาลัย ✨📝 JPEG Download

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะมาบอกต่อเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการเรียน การใช้ชีวิตในช่วงมัธยม เเละมหาวิทยาลัย ว่ามีความเเตกต่างกันยังไง ต้องปรับตัวอย่างไร การเรียนต่าง กิจกรรมเยอะไหม วันนี้เราจะมาสรุปความต่าง ตามรูปแบบความคิดเห็นของเรามาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

ความเเตกต่างในการเรียน

✨ช่วงมัธยม ถ้าโดยทั่วไปเราเรียนกันวันละ7-10วิชา เรียนอัดทุกวัน ไม่มีวิชาที่ตัวเองชอบแต่ก็ต้องเรียน หนังสือเยอะมาก แบกไปเรียนทุกวัน

•ข้อดี ในช่วงม.ปลาย อาจจะได้เรียนรู้ในหลายวิชา สำหรับบางคนที่มีความชอบหลากหลายก็สามารถเข้าใจและนำใปใช้เเละสอบได้

•ข้อเสีย ในช่วงม.ปลาย สำหรับบางคนที่ไม่ได้มีความชอบในวิชานั้นๆ ก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องทนเรียนเพื่อการสอบและคะเเนน เเละการเรียนมากเกินไปจะไม่ค่อยโฟกัสในความชอบของตัวเองได้เต็มที่

✨มหาวิทยาลัย รายวิชาการเรียนจะเเบ่งอยู่ในตามแผนการศึกษาเฉลี่ยต่อวันเเล้วเรียนยังไม่ถึง4วิชา หรืออาจจะแค่วันละ1-2วิชาสลับกันไปแลตา หน่วยกิตด้วย เเละเราจะต้องลงทะเบียนเรียนเองหรือในช่วงแรกทางมอ.จะเป็นคนลงให้เเละเรียงวิชาไว้ให้แล้ว เราก็จะได้เรียนตามวิชาที่สาขาลงไว้ ตรงตามแผน

•ข้อดี ในช่วง ม.วิทยาลัย เราได้เลือกเรียนตามสาขาที่ต้องการหรือเลือกสาขาที่ตัวเองคิดว่าจะได้ใช้ในอนาคต เป็นข้อดีในการโฟกัสในการเรียนแบบโดยตรงในด้านนี้ ได้โฟกัสเนื้อหาและทำเต็มที่ แถมมีวิชาเลือกเสรีที่สามารถเปิดให้ลงได้ เลือกความชอบลงเรียนเพิ่มเติม ตามที่ตนเองต้องการได้เลย

•ข้อเสีย ถึงเเม้จะสามารถลงรายวิชาตามเเผน แต่ก็จะมีวิชาเพิ่มเติมที่เป็นพื้นฐานเล็กน้อย ที่ต้องเรียนเป็นภาคบังคับ(ขึ้นอยู่กับสาขา หรืออาจจะได้เรียนเหมือนกัน) เช่น วิชาจิตวิทยา ภาษาไทย คนิต การบริหารธุรกิจเบื้องต้น การใช้คอมฯ หรืออื่นๆ ซึ่งวิชาเหล่านี้จะได้เรียนเเค่ในช่วงปีต้นๆ และเรียนแค่1เทอม ตามแผน ซึ่งเป็นการเรียนแค่พื้นฐานเพื่อที่จะสามารถนำไปเป็นความรู้ในการทำงานได้

✨การให้คะแนน - เกรด

• มัธยม จะแบ่งคะแนนมาจากการทำงาน ส่งงาน มากกว่าคะแนนสอบกลางภาค ปลายภาค หรือควิซ

• มหาวิทยาลัย จะแบ่งคะแนนจากการสอบเก็บคะแนนหรือสอบกลางภาค ปลายภาคและควิซ มากกว่าคะแนนเก็บในชั้นเรียนและการทำงาน และคะแนนจากการทำงานบางวิชาจะแบ่งหลายสัดส่วนมาก

××××การตัดเกรด ก็ต่างกัน ××××

โรงเรียน ตัดจาก0-4 ติด0ติด ร ได้เกรด4 แต่มหาวิทยาลัยตัดจากA-F ถ้าหากขาดสอบหรือสอบไม่ผ่านคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ก็ติดFทันที

✨การแต่งตัว

มหาวิทยาลัยส่วนมากก็ยังอยู่ในยูนิฟอร์มของชุดนศษหรือบางรายวิชาก็ใส่ชุดไปรเวทไปเรียนได้ชิวๆ จะมีอิสระเรื่งการเเต่งตัว แต่งหน้า สีผม รองเท้า ตามสไตล์ที่ชอบได้เวลาไปเรียน ไม่ได้เคร่งหนักมากเท่ารร. เพียงเเค่หากเขาร่วมกิจกรรมทางการต้องเเต่งกายถูกระเบียบ

และส่วนโรงเรียนส่วนมากก็ยังคงต้องเเต่งกายถูกระเบียบ ทั้งผม ชุด และการเเต่งตัวแต่งหน้า

✨ต้องเจออะไร - ปรับตัวอะไรบ้าง?

สำหรับเราก่อนเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยมีการเตรียมตัวเรื่องเรียนนิดหน่อย ส่วนปรับตัวการใช้ชีวิตจะมีเรื่องการเจอสังคมในมหาวิทยาลัย เพื่อนที่ต่างถิ่น สภาพเเวดล้อมที่กว้างเเละแตกต่าง อาจจะไม่ได้ปรับมากแต่ต้องทำตัวให้ชินเเละเลือกเข้าสังคมที่เหมาะกับตัวเอง ส่วนการทำงานในมหาวิทยาลัยก็จะมีความเป็นทีมเเละใช้ความคิดในการทำงานแบบร่วมกับคนอื่นมากขึ้น หรือบางกิจกรรมจะทำให้เราทำงานได้ดีขึ้น

#งบน้อยก็ปังได้ #Lemon8สายเกา #ไอเดียของขวัญ #ติดเทรนด์ #ชีวิตมหาลัย #รักนะตัวเอง #เช็คลิสต์มหาลัย #เด็กหอ #ชีวิตมัธยม #ความรู้