ความแตกต่างของมัธยม VS มหาลัย 🧤✨⸝⸝🏫ꕀ

หลังจากที่เปิดเทอม ปีหนึ่งแบบเราก็ต้องปรับตัวว ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน สังคม สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เราเห็นว่าแตกต่างแบบชัดเจนเลยก็คือ การเรียน มันแบบโอ้มายก้อดมากทุกคน 🥹

⌗ การเรียน

ต่างจากมัธยมที่เรารักอย่างสิ้นเชิง555555 มัธยมเราเรียนคาบละ50นาที แต่มหาลัยเรียนสามชั่วโมง แล้วบางวิชาอาจารย์ไม่ได้ให้พัก ( แต่เราสามารถไปห้องน้ำหรือทำธุระได้นะแต่อาจารย์ก็สอนต่อ ทำให้อาจพลาดเนื้อหาได้ ) บางวิชาก็มีพัก5-15นาที ซึ่งดีมากๆสำหรับเรา แล้วด้านเนื้อหาเรารู้สึกว่ามหาลัยเปิดกว้างกว่า รับฟังความเห็นกัน แต่เรารู้สึกว่าบางทีมันก็ออกนอกเนื้อหาไปไกลจนจับจุดไม่ได้ แล้วก็หลุด เราเรียนไม่รู้เรื่องเลยแบบนี้ 555555 แต่ก็มีวิชาโปรดอยู่วิชานึง เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์หน่อยๆ เราว่าอันนี้สอนโอเคสุด มีการยกตัวอย่างแต่ก็อยู่ในเนื้อหา ที่สำคัญอาจารย์สอนดีมาก เป็นวิชาเดียวที่เราเลคเชอร์ตลอดสามชั่วโมง 🌟🌟🌟 อ๋อแล้วอีกอย่างคือ มหาลัยเค้าจะไม่ถามว่าเราเรียนทันไหม ไม่เหมือนมัธยมที่สอนช้า แต่ก็ยังถามนักเรียนอยู่เสมอ แต่มหาลัยคือไปไวมาไว 55555 จดไม่ทันจริงๆบางทีอจ.เหมือนคุยๆอยู่แล้วเข้าเนื้อหาเลย อันนี้ก็🥹🥹🥲 culture shock ที่สุดแล้ว

⌗ บรรยากาศ

มหาวิทยาลัยใหญ่กว่าโรงเรียนมากเป็นหลายเท่า อย่างที่เราเล่าไปว่าไม่เคยเดินเจอคนรู้จักเลยถ้าไม่ได้เจอในห้องหรือมีกิจกรรมร่วมกันแบบรับน้อง ทำให้เราไม่รู้สึกอุ่นใจเหมือนมัธยม (เรามีเพื่อนที่รรเก่าติดคณะนี้ด้วย7คน แต่เจอกันน้อยมาก 555) เดินไปไหนก็ไม่ค่อยเจอคนรู้จัก มันก็แอบเหงาๆในใจนิดนึงง 🍂

⌗ สังคม

ร้อยพ่อพันแม่ที่เราจะเจอ เราเคยเจอคำพูดมากมายว่ามหาลัยอย่าไว้ใจใครง่ายๆ เราว่าก็จริงตามนั้นเพราะเราจะเจอคนเยอะมากกก บางคนเจอแค่ในคลาสเรียนก็พอ หรือบางคนก็เหมาะกับไปhang outด้วยมากกว่า มหาลัยเราสามารถมีหลายกลุ่มได้เป็นปกติ อันนี้เราไม่ค่อยCSเท่าไหร่เพราะมัธยมเราก็คล้ายๆแบบนี้ แต่รู้สึกว่ามัธยมจะมีความสนิทกันมากกว่า อาจจะเพราะรู้จักกันมานานด้วยส่วนนึง

ก็ประมาณนี้เลยย 2สัปดาห์ที่เราไปมอมาา ถ้าเจออะไรน่าสนใจจะเก็บไว้มาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะะ 🤍🤍

#ติดเทรนด์ #lemon8ไดอารี่ #ชีวิตมหาลัย #ชีวิตมัธยม #ชีวิตนักศึกษา #มหาลัย #รีวิว #รีวิวมหาลัย #การเรียน