รักษาสิวแพงแต่ดี ไปต่อมั้ย?

จะบอกว่าจุดเริ่มต้นของการไปเข้าคลินิกรักษาสิวเกิดจาก เราเริ่มเป็นสิวเห่อมากๆช่วงม.4 แบบเป็นสิวทั้งอักเสบ ทั้งผดต่างๆ และได้ใช้ skincare เยอะมาก ตามที่มีคนรีวิว ซึ่งบางครั้งก็เหมือนใช้แล้วจะดีขึ้น แต่พอช่วงเมนมาสิวก็กลับมาเห่อเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรที่ใช้แล้วทำให้รู้สึกว่าหายแบบหน้าใสขึ้นขนาดนั้น แล้วก็เป็นแบบนั้นมา 3 ปี

จนช่วงเริ่มขึ้นมหาลัย มันก็เกิดเป็นความไม่มั่นใจโดยเฉพาะถ้าต้องหน้าสด เพราะ มันดูไม่สวยเลย ในความคิดเรา แล้วก็ได้เสิร์จหาเยอะมากเกี่ยวกับการเข้าคลินิกรักษาสิว จนมีคนแนะนำที่พรเกษมคลินิก

จริงๆอันนี้ก็รักษามาเป็นปีแล้ว รายละเอียดที่จำได้อาจจะมีถูกบ้างผิดบ้าง ขออภัย แต่หลักๆที่จะได้ประมาณนี้ค่ะ

เริ่มแรกหมอก็จะทำการตรวจผิวหน้าของเราว่าเป็นสิวหนักแค่ไหน เป็นแบบไหนบ้าง (ประเมินเบื้องต้น) + เอาเชื้อสิวของเราไปตรวจ หมอพูดประมาณว่า สิวมีเกิดจากเครื่องสำอางที่ใช้ทำให้อุดตันด้วย และพวกเหงื่อต่างๆ

จะบอกว่าหมอสิวคือไม่ค่อยอยากให้แต่งหน้า และโดยเฉพาะการใช้คุชชั่น ซึ่งตอนได้ยินครั้งแรกคืออยากกรี๊ดเลย และก็บอกว่าถ้าสมมุติไปทำกิจกรรมที่มีเหงื่อกลับมาเยอะก็ให้ล้างหน้าทันที

ตอนนั้นเรามีสิวอักเสบเยอะมาก เขาก็เริ่มด้วยการฉีดสิวเพื่อฆ่าเชื้อ ตามด้วยกดสิว ซึ่งบอกได้เลยว่าโคตรเจ็บแบบน้ำตาจะไหล ไม่คิดว่าอยากสวยต้องเจ็บขนาดนี้ แต่ก็ทน เพราะอยากให้มันหาย พอกดเสร็จ หน้าจะมีรอยแดงช่วงแรกๆ แต่ไม่นานก็หาย

จากนั้นหมอก็จะให้ยามา ซึ่งมีทั้งยากินและยาทา ยาจะเป็นพวกยาฆ่าเชื้อสิวต่างๆ ส่วนยาที่มีเยอะมาก ตั้งแต่โฟมล้างหน้าแบบเจล ฆ่าเชื้อ ลดรอย moisturizer พร้อมวิธีการทาก่อนหลัง (ต้องทายาเช้าเย็น 5-6 ตัว) แล้วหมอก็จะนัดดูอาการ 1 สัปดาห์ต่อมา

ซึ่งในแต่ละครั้งที่ไป ก็จะมีขั้นตอนไม่ต่างกันมาก ก็เริ่มจากดูความดีขึ้นของสิว ไปกดสิว แล้วก็มีการแนะนำเรื่องการทำเลเซอร์ลดรอยต่างๆ (จำชื่อไม่ได้) ตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากทำ เพราะ มันแพง แต่สุดท้ายก็ยอม เพราะ สิวอักเสบมันก็เริ่มยุบลง แต่ที่ยังไม่หายเลย คือ รอยจากการอักเสบ (เลเซอร์ไม่เจ็บเท่าฉีดสิว แต่เหมือนโดนอะไรดีดที่หน้า) แล้วการจ่ายยาของหมอก็จะดูตามความหายของสิวเรา ถ้าเขามองว่าดีขึ้น จากเดิมต้องกินยาฆ่าเชื้อ 2 เม็ด เช้าเย็น อาจจะเหลือ เม็ดเดียว อะไรประมาณนี้

พอผ่านไปหลังสัปดาห์หลังการไปหา มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เขาก็จะนัดถี่น้อยลงเป็น 2 อาทิตย์ หรือเป็นเดือนละครั้ง ของเราตอนผ่านไป สัก 1-2 เดือน มันดีขึ้นเยอะ หมอก็เลยเปลี่ยนเป็นวิตามินแทนยาฆ่าเชื้อ แต่ยาทาใช้เหมือนเดิม

จะบอกว่าโดยรวมการรักษาสิวที่พรเกษม คือ เห็นผลไวมาก ไปประมาณ 3-4 ครั้งแรก ก็น่าจะเห็นผลอย่างชัดเจน แต่แลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างแรก จำได้ว่าครั้งแรกเราเสียไปประมาณ 3,××× และเขาก็ชอบพูดว่าครั้งแรกมันต้องซื้อยาเยอะ แต่ครั้งต่อไปมันจะถูกลง ซึ่งก็ไม่เคยถูกลง (มีบ้าง แต่น้อย) เขาก็จะมีแนะนำการทำเลเซอร์หรืออื่นๆ ไม่ได้ถึงกับ hard sell ใช้วิธี convince มากกว่า เช่นแบบ ถ้าเราไม่เลเซอร์ตอนนี้มันจะเป็นรอยหายช้านะ ต่างๆ

พอถึงจุดนึง เราก็รู้สึกว่า เราเสียค่าใช้จ่ายต่อเดือนไปกับพรเกษมค่อนข้างเยอะ แล้วช่วงนึงสิวมันก็เริ่มไม่ค่อยขึ้นแล้ว ก็เลยเลิกไป แล้วไม่ได้ไปซื้อยาต่อด้วย แล้วก็แอบไปใช้คุชชั่นที่หมอไม่แนะนำ จนผ่านไปประมาณเกือบครึ่งปีหลังจากไม่ไป สิวก็แอบขึ้นอีกรอบ (ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อน แต่ก็เห็นชัดเจน) เลยกลับไปพรเกษมอีกรอบ หมอก็แอบกึ่งแซวนิดๆว่าหายไปเลยนะ แล้วเหมือนวน process เดิม ในการรักษา และก็ยังดีขึ้นไวเหมือนเดิม แต่ก็แพงเหมือนเดิม

โดยสรุปคือ มันไม่ได้ทางที่สิวจะหายได้ถาวร เพราะ เรายังมีฮอร์โมนอยู่ แต่สิวของเราก็แทบจะไม่มีเพราะรักษาสิวที่พรเกษม จึงอยากชวนทุกคนมาพูดคุยกันในท็อปปิค แพงแต่ดีไปต่อกันมั้ยคะ?

#พรเกษมคลินิก #รักษารอยสิว #lemon8boxchallenge #ดูแลตัวเอง #ถามตอบบิวตี้ #Lemon8ฟอรั่ม #เรื่องเล่าบิวตี้ #สิว