น้ำพริกแกงเขียวหวาน

ชวนคุณมาโขลกน้ำพริกแกงเขียวหวาน

วันนี้อยากจะชวนคุณผู้อ่านมาตำนำพริกแกงเขียวหวาน

"ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าใครใคร่จะใช้ครกหินหรือเครื่องปั่นก็ตามสะดวกนะคะ ไม่ว่าไม่ค่อนขอดกันแต่อย่างใด เพราะคนเรามีความสะดวกต่างกัน "

เราเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ!

ส่วนผสม

ลูกผักชี 4 กรัม

ยี่หร่า 3 กรัม

พริกไทยขาว 3 กรัม

ผิวมะกรูด 6 กรัม

รากผักชี 12 กรัม

ข่า 20 กรัม

ตะไคร้ 30 กรัม

ขมิ้น ( เล็กน้อย)

พริกขี้หนูเขียว 20 กรัม

พริกจินดาสีเขียว 70 กรัม

เกลือป่น 2 กรัม

กระเทียม 40 กรัม

หัวหอมแดง 30 กรัม

กะปิ 10 กรัม

-----

วิธีทำ

1. คั่วเครื่องเทศ ลูกผักชี, ยี่หร่า, และพริกไทยขาวด้วยไฟอ่อนให้หอม พักไว้ ( ฉันคั่วทีละอย่างหรือคุณจะคั่วไปพร้อมกันก็ตามใจค่ะ )

2. หั่นเครื่องสมุนไพรทุกอย่างให้ชิ้นเล็กๆที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะช่วยให้โขลกง่ายและละเอียดเร็ว

* พริกเอาเม็ดออกถ้าไม่ชอบเผ็ด

* จะใช้พริกขี้หนูเขียวล้วนเลยก็ได้ แต่ฉันผสมสีแดงเข้าไปหน่อยเพื่อสีสัน

* ผิวมะกรูดปอกออกอย่าให้มีเนื้อสีขาวปน เพราะจะทำให้ขม ( ติดมานิดหน่อยไม่เป็นไรน่าาา...)

* ใส่ขมิ้นสดเล็กน้อยเพื่อให้สีเขียวอมเหลืองนิดๆ สวยดีค่ะ

-----

" ต่อไปก็ขั้นตอนการตำน้ำพริกแกง

เรามาตำไปคุยกันไปนะคะ "

1.อันดับแรกเราจะโขลกเครื่องเทศที่เป็นเม็ดก่อนได้แก่ พริกไทยขาว ,ลูกผักชี และยี่หร่า

ใส่มาเลยค่ะ!...จากนั้นโขลกให้ละเอียดจนเป็นผงแป้ง

2. เมื่อเครื่องเทศละเอียดดีแล้ว ใส่ผิวมะกรูดลงไป

ผิวมะกรูดนี่เนื้อเหนียวโขลกละเอียดยากมาก

โขลกเข้าไปค่ะ!...โขลกจนกว่าละเอียด

3. เมื่อละเอียดดีแล้ว ตามด้วย รากผักชี ,ข่า ,ตะไคร้,

และขมิ้นสด ...ขอเน้นย้ำว่า !...โขลกให้ละเอียดทีละอย่างนะคะถึงจะใส่สิ่งใหม่ลงไป ไม่อย่างนั้นน้ำพริกแกงครกนี้ ตำกันถึงค่ำก็ไม่ละเอียด

4. เมื่อโขลกไปสักพักเครื่องแกงเริ่มจะมีความชื้นแฉะ ทำให้โขลกยากขึ้น เราจะใส่เกลือป่นลงไปเพื่อดูดความชื้น จากนั้นนำพริกจินดาและพริกขี้หนูใส่ลงมาทีละน้อย โขลกให้ละเอียดจนหมด

เกลือป่น นอกจากจะช่วยดูดความชื้นแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยรักษาสีธรรมชาติให้คงความเขียวสด และยังช่วยเป็นสารกันบูดไม่ให้น้ำพริกเสียเร็วด้วย

...**สำหรับใครที่ยังโสด...

การโขลกน้ำพริกนี่ถือเป็นการโชว์ความสามารถด้านงานครัวเลยนะคะ คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าสมัยก่อนจะหาลูกสะใภ้เข้าบ้านก็ฟังจากเสียงโขลกน้ำพริกนี่ล่ะค่ะ

เค้าดูจากอะไร?

"เสียงและจังหวะการโขลกสม่ำเสมอ แรงดีไม่มีตก

ไม่โขลกไปเหนื่อบหอบไป หรือหยุดพักเปลี่ยนมือบ่อยๆ "

ฉันคงสอบไม่ผ่านสำหรับเป็นสะใภ้บ้านไหนแน่ๆ

เพราะโขลกไปเหนื่อยไป พักดูดน้ำอัดลมไป...วันนี้อากาศร้อนอบอ้าว ยังกะอยู่ในเตาอบ

-----

5. สิ่งที่จะใส่เป็นอันดับต่อมาได้แก่ ...กระเทียมและหัวหอมแดง และสิ่งที่จะใส่เป็นอันดับสุดท้ายก็คือ กะปิ....โขลกต่อไปค่ะ อย่าแผ่ว...จนในที่สุดก็ละเอียดใช้ได้

ใครมีแรงเยอะก็โขลกให้ละเอียดยิบเลยนะคะ...ยิ่งดี ส่วนฉันหมดแรง ณ ตรงนี้

รวมๆแล้วตั้งแต่ขั้นตอนการชั่ง ตวง วัด การหั่น

การซอยและการโขลกใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

สูตรนี้ได้น้ำพริกแกงเขียวหวาน 240 กรัม

-----

ปัจจุบันการซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จรูป ทำให้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาในการทำอาหารไปมาก

(เลือกร้านดีๆมีเยอะแยะ)

การโขลกน้ำพริกแกงด้วยครกหินแบบนี้ จะใช้เวลาและแรงงานค่อนข้างมาก การโขลกจะทำให้มีน้ำมันหอมระเหยจากเครื่องเทศและสมุนไพรออกมา เมื่อนำมาประกอบอาหารจะส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ไหนจะความสดใหม่ของวัตถุดิบอีกล่ะ คุณประโยชน์ล้วนๆ

การทำน้ำพริกแกงเองด้วยเครื่องบด เหมาะกับการใช้ในธุรกิจอาหารและแม่บ้านสมัยใหม่ที่มีเวลาน้อยแต่อยากปรุงเอง ไม่เปลืองแรงและเวลา แถมได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

อย่างไรก็ตามแล้วแต่คุณเลือกเลยค่ะ !

ฉันขอสารภาพว่า...ฉันทำมาทุกอย่างเลยแหละ

ซื้อจากแม่ค้าอยู่บ่อยๆ ถ้าวันไหนมีเวลามากก็โขลกเองบ้างอะไรบ้าง บางครั้งเวลามีน้อยแต่อยากใส่เครื่องเทศและสมุนไพรให้หอมฉุย ก็ใช้เครื่องปั่น

..ปรู๊ดดดเดียว

-----

โปรดติดตามตอนต่อไป

"มดดี้"

-----

ถ้าชอบบทความแนวๆนี้ ช่วยกระหน่ำกดไลค์

กดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ😉

-----

#ทำอาหาร

#อาหาร

#น้ำพริก

#แกงเขียวหวาน