Самый простой способ скачать видео и галерею из приложения Lemon8
Компьютер: щелкните правой кнопкой мыши и выберите "Сохранить ссылку как..." для загрузки.
PHOTOS | |||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать |
ถ้าถามว่าเราเคยมีความทุกข์ไหม ทุกคนคงตอบว่า ใช่ ในชีวิตนี้เรามีความทุกมากมาย วันนี้มามู จะพาไปดู บุคคลใน ศาสนาทั้ง2 ที่ เผชิญกับความทุกข์สุดแสนสาหัส แต่เพราะความเชื่อ และศรัทธา ที่พวกเขาเชื่อ เลยนำไปสู่ความสุขที่สุดของชีวิต
🖍️ 1.นางปฏาจารา หรือภายหลังคือ พระปฏาจาราเถรี
นางปฏาจาราเถรีเป็นลูกของเศรษฐีในกรุงสาวัตถี
เป็นคนสวย ทำให้พ่อแม่หวงมาก จึงให้อยู่แต่ในบ้านชั้นที่ 7
ไม่ให้ติดต่อกับใคร คนรอบข้างนางมีแต่เพียง ข้าทาส คนรับใช้เท่านั้น
และเนื่องจากนางอยู่แต่บ้านชั้น 7 คลุกึลีกับคนรับใช้ จนทำให้วันหนึ่ง นางก็ได้ รักกับคนรับใช้ และแอบมีอะไรกันมาโดยตลอด จนวันหนึ่ง พ่อแท่ได้หมั้นหมายกับชาย คหนึ่งที่มีฐานะดี รวยเหมือนกับบ้านของนาง เมื่อนางรู้จึงเอาเรื่องไปบอกสามีที่เป็นคนรับใช้ และขอให้พาหนีออกไปจากบ้าน และจากนั้นทั้งสองจึงหลบหนีออกจากบ้าน
โดยนางปลอมตัวเป็นคนทาสีเอารำข้าวทาตามตัว แล้วทำผมยุ่งและนุ่งห่มผ้าปอนๆ พอคนใช้เผลอ นางจึงออกมาแล้วรีบเดินตรงไปที่ประตูเมืองเป็นที่ๆ นางนัดกับคนรักไว้ พอเศรษฐีได้รู้ว่าลูกตนเองหนีไปกับคนรักก็ได้แต่เศร้าโศกเสียใจ ชายหนุ่มได้พานางไปอาศัยอยู่ชายแดนแคว้นโกศลประกอบอาชีพทำไร่ไถ่นา นางปฏาจารา ทำงานทุกอย่างที่แม่บ้านที่ต้องทำอย่างไม่ย่อท้อ
ต่อมานางตั้งท้องจึงบอกสามีว่าไปคลอดที่บ้านพ่อแม่
(เพราะเป็นธรรมเนียบอินเดีย) เราจะเห็นได้จากตอนที่พระนางสิริมหามายา จะคลอดพระพุทธเจ้าก็เสด็จกลับไปคลอดที่เมืองตนเอง แต่ไม่ทัน
แต่สามีค้านเพราะกลัวว่าบิดามารดาของนางจะโกรธและสั่งให้คนโบยจนตายก็ได้ เมื่อนางรู้ว่าสามีไม่ให้ไป เมื่อสบโอกาสพอสามีออกไปทำงานในป่า จึงบอกกับเพื่อนบ้านว่า ถ้าสามีกลับมาให้บอกว่าตนไปคลอดลูกที่บ้านบิดามารดา ฝ่ายสามีพอทราบข่าวก็ออกไปตามนาง ในที่สุดก็ตามไปพบและอ้อนว้อนให้นางกลับมา ให้ขณะนั้นนางก็ปวดท้องคลอดลูก ในที่สุดนางก็คลอดบุตรแล้วนางก็คิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องกลับบ้านแล้ว จึงกลับมาบ้านป่า ผ่านไปอีก 1 ปี นางก็ตั้งครรภ์เป็นครั้งที่ 2 และได้อ้อนวอนสามีให้พากลับไปบ้านบิดามารดา แต่สามีนางไม่ยอม นางจึงเอาลูกย้อยหนีกลับไปบ้านบิดามารดาเมื่อสามีกลับมาไม่เห็นลูกและภรรยาจึงออกตามหา เมื่อได้พบนางจึงอ้อนวอนให้กับบ้าน
📍ขณะนั้นเองนางก็เกิดเจ็บท้องคลอดลูกออกมาขณะเดีนวกันก็เกิดฝนตกลงมาอย่างแรง เนื่องจากพายุเข้า สามีจึงบอกกับภรรยาว่า จะไปตัดไม้ที่จอมปลวกเพราะมีใบดกหนาสามารถกันฝนได้ดีให้นางรออยู่ตรงนี้กับลูก พอสามีของนางกำลังตัดจอมปลวกอยู่นั้นก็มีงูมากัดสามีของนางตาย (☠️1)
นางได้คลอดอย่างทุลักทุเล พอฝนหยุดตกนางกับลูกๆ จึงออกไปตามสามีพบว่าสามีนอนตายตัวเขียว นางตัดสินเดินทางไปบ้านพ่อแม่ พอไปถึงแม่น้ำขวางกั้นระหว่างทาง นางไม่มีกำลังเพียงพอที่จะเอาลูกสองคนไปพร้อมกันได้เพราะนางเพิ่งคลอดลูกและกระแสน้ำอันเชี่ยวจึงบอกให้ลูกคนโต รอก่อนแล้วนางก็พอลูกคนเล็กข้ามไปก่อนพอถึงฝั่งนางเอาลูกวางไว้ที่ริมตลิ่ง พอถึงกลางแม่น้ำมีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินผ่านมาพอเห็นลูกของนางนึกว่าเป็นเนื้อจึงโฉบเอาลูกของนางไป (เด็กที่พึ่งคบอดได้ไม่ถึงวันตัวแดง ๆ เล็ก ๆ เหมือนเนื้อ) (☠️2) นางเห็นดังนั้นจึงตบมือตะโกนไล่เหยี่ยว ลูกคนโตเห็นแม่ตบมือนึกว่าเรียกจึงเดินลงน้ำแล้วถูกกระแสน้ำพัดไป(☠️3)
นางร้องไห้เสียใจหมดแรงกายแรงใจ นางเดินโซเซแบบหมดอาลัยตายอยากมุ่งหน้าไป เมืองสาวัตถี จุดมุ่งหมายคือบ้านบิดามารดาพอใกล้ถึงบ้าบิดมารดานางจึงถามคนที่เดินสวนมาว่า คุณลุงค่ะรู้จักบ้านเศรษฐีไหม ลุงคนนั้นจึงตอบว่า รู้สิรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อคืนมีฝนตกหนักมากและพายุก็แรงทำให้ปราสาทของเศรษฐีถล่มลงมาทับเศรษฐีภรรยาและลูกชายตายพร้อมกันทั้งครอบครัว (☠️3)
เมื่อนางได้ยินดังนั้นจึงช๊อก สยายผมให้ฟู ถอดเสื้อผ้า เดินไแตามถนน คนจึงด่าว่า นางบ้า นางกลายเป็นคนวิกลจริต
และนางก็เดินมาถึง 💧 พระวิหารเชตวัน ขณะนั้นพระศาสดากำลังแสดงธรรมอยู่ เมื่อนางจะเข้ามา คนก็ไม่ใก้นางเข้ามากลังจะมากวน เมื่อพระศาสดาทราบความ จึงอนุญาติให้นางเข้ามา จากนั้น เมื่อนางเข้ามาอยู่ใกล้พระศาสดา พระศาสดาตรัสว่า ”จงได้สติเถิดน้องหญิง“ เมื่อนางได้สติก็เดิดความละอาย และจากตั้นจึฃให้คนหาผ้ามาปกปิดร่างกาย
และนางก็พูดกับพระพุมธเจ้าว่า ขอพระองค์เป็นที่พึ่งให้แก่หม่อทฉันด้วยเถิด
พระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่นางว่า ปฏาจาราเถรี เธอมาสู่สำนักของผู้ที่สามารถเป็นที่พึ่งพาอาศัยให้เธอได้แล้ว
จากนั้นนางได้บวช และตั้งใจปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรม
🔎 สรุป ☠️ ในวันนั้น นางได้เสีย สามี ลูกชายทั้ง 2 คน พ่อ แม่ และน้องชาย เท่ากับว่า คนที่รักที่สำคัญที่สุดของชีวิต 6 คนตายภายในวันเดียวกัน
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
🖍️2.โยบ บุคคลที่โศกเศร้าที่สุดในศาสนาคริสต์
พระพระคัมภีร์สัญญาเก่า หนังสือโยบ ได้เล่าว่า
โยบได้ถูกอธิบายว่า เป็นคนฐานะดี ทำอะไรก็เจริญ ที่แผ่นดินอูส ทางตอนเหนือของอาหารับ
โยบชอบช่วยเหลือคนจน และโยบก็เป็นคนที่มั่นคงในพระเจ้า คือพระยาห์เวย์ เขาได้สรรเสริญ ถวายเครื่องบูชาอย่างสม่ำเสมอ พระเจ้าได้ให้พร ให้มีลูก 10 คน
📌 ซึ่งต่อมา ซาตานได้ขึ้นไปบนสวรรค์ ไปหาพระเจ้า และพระเจ้าก็เรียกให้ดูโยบผู้ซื่อสัตย์ แต่ซาตานบอกว่าที่โยบภักดีในพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงให้ทุกอย่างแก่โยบ แต่ถ้าพระองค์ทรงพรากทุกอย่างไปจากโยบ โยบยังจะเคารพพระองค์อยู่ไหม : เมื่อคสามเห็นไม่ตรงกัน การทดลองจึงเกิดขึ้น
🌚 ซาตานจึงเริ่มเล่นงานโยบอย่างหนัก ภายในวันเดียว เรื่องร้าย ๆ มากมายก็เกิดขึ้นกับโยบ
1.เขาสูญเสียฝูงสัตว์ทั้งหมดแทบจะพร้อม ๆ กัน
วัวกับลา ต่อด้วยแกะ แล้วก็อูฐ แย่ยิ่งกว่านั้น คนรับใช้ที่ดูแลฝูงสัตว์ก็ถูกฆ่าตายด้วย
2.คนรับใช้คนหนึ่งมาบอกโยบว่ามี “ไฟของพระเจ้า” ซึ่งอาจหมายถึงฟ้าผ่า ลงมาเผาแกะและคนเลี้ยง ก่อนที่โยบจะทำใจได้กับการสูญเสียคนรับใช้และกลายเป็นคนจนในชั่วพริบตา 3.เขาก็ได้ข่าวที่เลวร้ายที่สุดว่า ขณะที่ลูกของเขาทั้ง 10 คนกำลังกินเลี้ยงอยู่ในบ้านพี่ชายคนโต จู่ ๆ ก็มีพายุพัดมาถล่มจนบ้านพังทับลูก ๆ ของเขาตายหมด!
โยบฉีกเสื้อ โกนผมจนหมด และนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่กับพื้น
โยบสรุปเองว่าพระเจ้าให้ทุกสิ่งกับเขา แล้วพระองค์ก็เอาคืนไป (โยบไม่รู้สึกอะไรเพราะเขารู้สึกว่า เขามีก็เพราะพระเจ้า เขาไม่ได้คิดว่าเป็นความสามารถ แต่เป็นพระพร จึงไม่ได้โกรธ)
🌙 ซาตานที่ทำให้ดูเหมือนว่าพระเจ้าเป็นต้นเหตุของเรื่องเลวร้ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับโยบ แต่โยบก็ไม่ได้แช่งด่าพระเจ้าอย่างที่ซาตานคาดไว้ โยบกลับพูดว่า “ขอให้ชื่อของพระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญต่อ ๆ ไป”
🤬 ซาตานโกรธมากแต่ก็ยังไม่ยอมหยุด เ
มื่อทูตสวรรค์มาประชุมกันต่อหน้าพระยะโฮวาอีก
มันก็มาด้วย คราวนี้พระยะโฮวาก็ชมโยบอีกว่าเขายังซื่อสัตย์ต่อพระองค์อยู่ทั้ง ๆ ที่ซาตานเล่นงานเขาสารพัด แต่ซาตานเถียงว่า
“หนังแทนหนัง มนุษย์ยอมสละได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด แต่ลองทำร้ายตัวเขาดูสิ เขาจะแช่งด่าพระองค์แน่ ๆ!” ซาตานมั่นใจว่าถ้าโยบป่วยหนัก เขาจะแช่งด่าพระเจ้าแน่นอน
🤢โยบก็เป็นโรคร้ายโดยที่เมียของโยบเห็นเหตุการมาโดยตลอดแถมเธอก็พึ่งเสียลูกทั้ง 10 คนไป เธอร้องออกมาว่า “ยังจะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าอยู่อีกหรือ? แช่งด่าพระเจ้าแล้วตาย ๆ ไปเถอะ!” แต่โยบไม่พูดอะไรที่ไม่ดีออกมาเลย
👨🏻มีเพือ่นผู้ชาย 3 คนมาหาโยบ พวกเขาได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นกับโยบ ก็เดินทางมาเพื่อจะปลอบโยนเขา พวกเขาเห็นโยบแต่ไกลแต่จำโยบไม่ได้ ตอนนี้โยบเจ็บปวดทั้งตัวเพราะโรคร้าย ผิวหนังของเขาดำคล้ำ ดูทรุดโทรมเหมือนเป็นคนละคน ผู้ชายทั้งสามคือเอลีฟัส บิลดัด และโศฟาร์ ทำเหมือนกับว่าเสียใจมากที่โยบอยู่ในสภาพนี้ พวกเขาร้องไห้เสียงดัง เอาฝุ่นซัดใส่หัว แล้วก็นั่งลงกับพื้นใกล้ ๆ โยบ 7 วัน 7 คืนโดยไม่พูดอะไรเลย การอยู่เงียบ ๆ แบบนี้ไม่ใช่การปลอบโยน เพราะพวกเขาไม่ถามอะไรโยบสักคำ พวกเขาแค่รู้ว่าโยบกำลังเจ็บปวดทรมานมาก ในที่สุด โยบก็แช่งวันที่ตัวเองเกิดมา และบอกว่าสิ่งที่ทำให้เสียใจที่สุดคือ เขาคิดว่าพระเจ้าทำให้เขาเป็นแบบนี้!
เพื่อคนแรก และคนที่ 2 พูดว่า พระเจ้าสูงส่ง พระองค์อวยพรคนดี ลงโทษคนชั่ว แต่คำพูดของพวกเขาแสดงให้เห็นตั้งแต่แรกว่าไม่ได้เป็นห่วงโยบจริง ๆ เรื่องที่เอลีฟัสพูดฟังเผิน ๆ ก็เหมือนจะมีเหตุผล เขาบอกว่าพระเจ้าดีไม่มีที่ติและพระองค์จะลงโทษคนชั่ว แล้วตอนนี้โยบก็กำลังถูกลงโทษ แสดงว่าเขาต้องทำอะไรไม่ดีมาแน่ ๆ
แต่โยบคัดค้าน โยบรับไม่ได้กับเหตุผลแบบนั้น
เพื่อคนหนึ่งของโยบกล่าวหาว่าโยบทำตัวเหนือพระเจ้า เป็นคนชั่ว และไม่ได้เลื่อมใสพระเจ้าจริง ยังบอกให้โยบเลิกทำชั่วและอย่าสนุกกับการทำบาป ยิ่งตอกย้ำให้โยบเจ็บปวดเข้าไปอีก เขาบอกว่าลูกของโยบต้องทำบาปแน่ ๆ และที่ตายก็สมควรแล้ว !
🔥🧨 ทั้งสามคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นอีก
พวกเขาบอกว่าซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์!
แม้แต่ผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ยังไม่ไว้ใจ ขนาดทูตสวรรค์ พระองค์ยังคอยจับผิด ถึงโยบจะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพระองค์มองว่าเขามีค่าเท่ากับหนอนตัวหนึ่งเท่านั้น!
จากนั้นโยบเริ่มกล่าวโทษพระเจ้าว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทำผิดบาปมากเพียงใด
📌หลังจากนั้นพระเจ้าทรงปรากฏแก่โยบ แล้วพระเจ้าก็ตรัสกับโยบออกมาจากลมพายุ พระองค์ถามเขาว่า
1.ผู้นี้เป็นใครที่ใช้ถ้อยคำไร้ความรู้ ทำแผนการของเราผิดไป จงคาดสะเอวอย่างชายฉกรรจ์เถิด เราจะถามท่าน ท่านจะต้องตอบเรา
2.ท่านอยู่ที่ไหนเมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดิน จงบอกมาซิถ้าท่านมีความรู้มากจริง
3.ท่านสามารถแยกแผ่นดินออกจากน้ำได้ไหม?
4.ท่านให้มีเวลากลางวันและกลางคืนหรือ กำหนดเวลาได้ไหม?
5.ท่านทำให้ดวงดาวเกิดขึ้นบนท้องฟ้าได้ไหม?
6.ท่านเป็นคนจัดหาอาหารให้สำหรับสัตว์บนโลกนี้หรือ?” โยบได้ฟังคำถามของพระเจ้าแต่เขาไม่มีคำตอบให้พระเจ้า และแล้วเขาก็ได้เข้าใจว่าพระเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าการเข้าใจได้ ดังนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เขามีความวางใจในพระองค์ แม้ว่าแผนการของพระองค์จะไม่สามารถเข้าใจได้ก็ตาม
🌾 โยบทูลตอบพระเจ้าว่า
ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่าพระองค์ทรงกระทำได้ทุกสิ่ง ไม่มีผู้ใดขัดขวางพระประสงค์ของพระองค์ได้
พระองค์สามารถทำได้สำเร็จ นอกเหนือไปจากวามโง่เขลา ข้าพระองค์ขอยอมรับว่าพระองค์มีเหตุผลของพระองค์ แผนการของพระองค์เป็นสิ่งประเสริฐ ข้าพระองค์ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ นับตั้งแต่บัดนี้ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่จะทราบจากสิ่งที่พระองค์ตรัสแก่ข้าพระองค์เท่านั้น แต่ข้าพระองค์ได้เห็นด้วยตาของข้าพระองค์เองด้วย และดังนั้น ข้าพระองค์จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพระองค์ได้ทูลกับพระองค์กลับไป และข้าพระองค์จะวางใจในพระองค์ตลอดไป
เมื่อโยบคิดได้ว่ากล่าวคำไม่ควรแก่พระเจ้าจึงขออภัยโทษ
จากนั้น พระเจ้าก็หันไปเล่น คนที่ไปว่าโยบ (ที่เคยว่าโยบว่าโยบไปทำอะไรผิดต่อพระเจ้า ) และสั่งให้ไปหาแกะมา 7 ตัว และให้โยบอธิฐาน พระเจ้าจึงจะหายโกรธ หลังจากนั้นเมื่อโยบถวายเครื่องบูชาแล้ว ทุก ๆ อย่างก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง
🏆หลังจากนั้น เมื่อโยบอธิฐานเผื่อเพื่อน ๆ แล้ว พระเจ้าทำให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง และมากกว่า เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และโยบมีลูกชาย 7 คน ลูกสาว 3 คน แถมยังมีอายุ ต่อไปอีก 140 ปี มีชีวิตอยู่เห็น ลูกหลานถึง 4 รุ่น
อ้างอิง : 📜
พุทธ ,พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 25 ขุททกนิกาย ธรรมบท เรื่องพระปฏาจาราเถรี
คริสต์ ,คัมภีร์พันธสัญญาเดิม หนังสือโยบ