10 ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือการลงทุนเล่มนี้

Escritorio: haga clic con el botón derecho y seleccione "Guardar enlace como..." para descargar.

PHOTOS
	JPEG	Descargar
	JPEG	Descargar

เมื่อก่อนเราเป็นคนที่ลงทุนแบบอยากซื้ออะไรก็ซื้อใครบอกว่าดีเราก็ซื้อตามแต่ผลลัพธ์ที่เราได้มาคือพอร์ตติดลบมากแดงกระจาย😵แต่พอเราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ หนังสือที่ “เบนจามิน เกรแฮม” เป็นคนเขียนขึ้นมาหนังสือเล่มนี้ให้มุมมองในการลงทุนของเรามากขึ้น ไตรตรองก่อนที่จะซื้อทรัพย์สินนั้นมากขึ้น ประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมก่อนจะซื้อ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสอนให้เราคิดเเตกต่างจากคนอื่นโดยเราได้สรุปสิ่งสำคัญออกมาได้ 10 ข้อ จากการอ่าน หนังสือเล่มนี้ มีดังนี้

ข้อที่1.) “ใช้กฎเรื่องของการตรงข้าม” คือตอนที่ตลาดนั้นมีการปรับตัวขึ้นไปสูงมากขึ้น📈หรือที่เราเรียกกันว่าตลาดหมีเราจะไม่ทำการซื้อหุ้นแต่จะรอซื้อในตอนที่ตลาดนั้นล่วงลงมาแรงๆๆ📉ในจังหวะนั้นคือโอกาสของการเข้าไปสะสมหุ้น💰

ข้อที่2.) “ยิ่งอนาคตดูมืดมนมากเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจะดูดีมากขึ้นเท่านั้น” คือตอนที่เราเข้าไปซื้อหุ้นในช่วงที่หุ้นตกลงมาแรงๆ หรือ ที่เราเรียกกันว่า “ภาวะตลาดหมี🐻” ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่มีใครกล้าที่จะซื้อหุ้นเพราะทุกคนรู้ว่าซื้อไปหุ้นก็ร่วงอยู่ดีแต่ในขณะเดียวกันก็จะมีคนบางกลุ่มเข้าไปสะสมหุ้นในช่วงนี้เรื่อยๆ เพราะสภาวะในตอนนี้คือ โอกาสในการเข้าไปสะสมหุ้นที่ดีที่สุด และหลังจากเรื่องร้ายๆได้หมดไปหุ้นจะกลับดีดตัวขึ้นเเรงมากๆ ผู้คนจะกลับมาซื้อกันอีกครั้งเเละคนที่สะสมหุ้นในช่วงเลวร้ายนั้นจะได้เปรียบในเรื่องนี้

ข้อที่3.) “ความคุ้นเคยเป็นตัวก่อให้เกิดความพึงพอใจเเละนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่” คือการที่เราเริ่มมีความเฉยๆต่อหุ้นที่ถืออยู่ว่ามันจะไม่มีวันล่วงเเน่นอน😁 เพราะว่า สถานการณ์ และสิ่งที่ทำให้เราเคยชินมีความรู้สึกว่าหุ้นที่เราถือนั้นเป็นหุ้นที่ราคาจะไม่มีวันตกแล้วและจะทำให้เราเกิดความพึงพอใจและจะเริ่มไม่ค่อยสนใจหุ้นตัวนั้นมากขึ้นจนถ้าเกิดว่า ราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมาอย่างแรง😱เนื่องด้วยปัจจัยอะไรก็ตามจะทำให้เราไม่มีสติในการควบคุมสถานการณ์นั้นๆเพราะเราคิดเเค่ว่ามันจะไม่มีวันเกิดเหตุการณ์พวกนี้กับหุ้นที่เราถืออยู่

ข้อที่4.) “การอยู่เฉยๆเเละการเลิกคาดการณ์อนาคตเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด” คือมีคนจำนวนมากที่มีความพยายามที่จะคาดการณ์อนาคตของตลาดหุ้น🤔เพื่อที่จะเอาชนะตลาดหุ้นโดยที่จริงแล้วถ้าเราเเค่ซื้อหุ้นในราคา💰ที่เหมาะสมและอยู่เฉยๆ🧘โดยการไม่ไปคาดการณ์อนาคตของมันกลับเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากๆ เพราะยิ่งเราคิดมากเท่าไหร่ การใช้อารมณ์🙅🏻เข้ามาเกี่ยวข้องกับการลงทุนก็จะมากขึ้นเท่านั้น

ข้อที่5.) “ผมไม่รู้เเละผมก็ไม่สนใจด้วย” คือเมื่อมีคนมาถามเกี่ยวกับอนาคต🔮ของหุ้นหรือถามว่าหุ้นตัวไหนดีกว่ากัน เราก็แค่ตอบง่ายๆว่า “ไม่รู้” เเละ “ไม่สนใจด้วย” ซึ่งถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้จะเป็นการทำให้ตัวเราไม้ยึดติดกับหุ้นตัวนั้นๆรวมถึงการที่จะทำให้เรามีอิสระในการลงทุนมากกว่าการมาทำนายอนาคตของตลาดจนไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย

ข้อที่6.) “บริษัทขนาดใหญ่📊มีข้อได้เปรียบที่มากกว่า” คือบริษัทขนาดใหญ่ๆนั้นจะมีทั้ง ทรัพยากร,บุคลากร,แบรด์,เงินทุน,ขนาดองค์กร,ฐานลูกค้า,การแข่งขันนในระยะยาว เเละ การฝ่าวิกฤตต่างๆมาได้ จึงทำให้การลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่จึงปลอดภัยมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก✅

ข้อที่7.) “ประโยชน์ของการมีความกล้าในยามที่ตลาดตกต่ำ “ตลาดชอบมองเนินดินเป็นภูเขา” ตามที่ผมเขียนในข้อที่ 2 เลย ยิ่งเรากล้าที่จะเสี่ยงในยามวิกฤต‼️มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาส☀️ได้ผลตอบแทนที่สูงมากขึ้นเท่านั้น📈

ข้อที่8.) “อย่าซื้อหุ้นของบริษัทที่มีปัญญหาในด้านกฎหมาย”

ข้อที่9.) “การจับจังหวะซื้อขายหุ้นเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้”

ข้อที่10.) “การไม่ได้รับความนิยมชั่วคราวแบบนี้ถือเป็นโอกาส “บริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับความนิยม” หมายความว่า บริษัทขนาดใหญ่ที่เกิดเหตุชั่วคราวเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกหรือภายในนั้นคือโอกาสให้เราเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้นซึ่งเป็นเวลาแค่ชั่วคราวที่ราคาหุ้นตังนั่นจะตกลงมาและะหลังจากนั้นราคาก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม📈

#ป้ายยากับlemon8 #ติดเทรนด์ #หนังสือการเงิน #การลงทุน #หนังสือน่าอ่าน