คุ้มค่ากับการลางานมาก

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่าได้เที่ยวเชียงใหม่จริงๆคือ3วันเต็ม อีก2วันเราใช้เดินทางไปกลับ ซึ่งบ้านเราค่อนข้างไกลสนามบิน ถึงใกล้สุวรรณภูมิแต่ก็ติดปัญหาที่ว่ามันใหญ่ไป5555 คือเราไม่เคยขึ้นเครื่องเลย เลยขอขึ้นที่ดอนเมืองดีกว่าอย่างน้อยก็หลงน้อยกว่า555

day 1 เรานั่งรถเมเพื่อไปต่อbtsที่บางนา 👉สถานีหมอชิต (จริงๆคือเเวะสยามก่อน555 หาข้าวกินแล้วก็ไปหาชาเขียวเจ้าโปรดในดวงใจ อยากให้ทุกคนได้ลอง สำหรับสายเข้ม ชื่อร้าน chaen ปล.ถ้ามาเปิดที่ชลจะดีย์ยยยมาก ) จากbts หมอชิต ต่อด้วย mrt จตุจักร 👉สถานีบางซื่อ ขึ้นไปต่อด้วยสายสีแดง👉ดอนเมือง (สายสีแดงต้องเผื่อเวลาด้วยนะ เพราะรอนาน) คนที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินก็คือแอบกลัวนะ แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมาได้ มันง่ายกว่าที่คิด เราบินประมาน1ทุ่ม ใช้เวลาบินประมาน 1.15 นาที พอไปถึงเราเข้าไปเช็คอินรร.แล้วค่อยไปหาข้าวกิน

day 2 เราเช่ามอไซค์ไว้ ร้านนี้ถือว่าโอเคเลยส่งรถก่อนวันที่นัดรับ ซึ่งตรงนี้เราสามารถขี่ได้เลยไม่มีบวกเพิ่ม แนะนำควรเช่ารถเพราะเดินทางค่อนข้างลำบาก รถแดงไม่ได้มีทุกจุด ต้องเรียกบริการรถเอา ซึ่งตัวเรามองตรงนี้ว่าไม่คุ้ม เช้ามาเราไปกินข้าวซอยเน็ตฟลิกซ์ อร่อย รสดีแต่สำเราคือเผ็ดไปหน่อยสำหรับคนทานเผ็ดไม่ค่อยได้ เราสั่งข้าวซอยเนื้อมา อยากให้เนื้อเปื่อยกว่านี้จะดีมาก รอคิวไม่นานเท่าไหร่ จากนั้นเราไปต่อด้วยคาเฟ่ ร้านน่ารักมาก ขนมอร่อย กาแฟก็ดี ช่วงบ่ายเราไปกินร้านด่องที่พี่ๆเสือร้องไห้ไปรีวิว ส่วนตัวว่ากินง่ายสำหรับคนไม่เคยกินอาหารเหนือ ถ้าคนไปกินร้านนี้ใกล้ 4 โมงเย็นต้องหาที่จอดดีๆเพราะเค้าจะตั้งขายของถนนคนเดิน ตอน 4 โมง พอเสร็จจากร้านด่อง เราก็เดินถนนคนเดินท่าแพต่อเลย ของกินจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ส่วนมากมีแต่เสื้อผ้า

day 3 ไปขึ้นดอยปุยกันนนน เราออกจากห้องประมาน6โมง คงกะว่สไม่เจอหมอกแน่ๆ เพราะกว่าจะไปถึงก็ค่อนข้างไกล ประมาน 30 โล แต่ไปสายแล้วคือหนาวมาก มือแข็งแทบบิดไม่ไป อากาศดีสุดๆ แต่เราว่าดอยปุยไม่ค่อยมีอะไร เป็นหมู่บ้านของคนดอย มีชุดกระเหรี่ยงให้เช่าด้วยนะ 50 บาทเอง จะมีเสียค่าเข้าชมเหมือนวิธีชีวิตกับสวนดอกไม้เล็กๆที่ละ 10 บาท แต่ที่ประทับใจสุดๆคือขาลงจากดอยปุยน่าจะช่วงเกือบ 9 โมงได้ หมอกลง ถึงไม่หนามากแต่ถ่ายภาพออกมาคือสวยติดหมอกแน่นอน จริงๆสามารถแวะดอยสุเทพได้ต่อเลยเพราะเป็นทางผ่าน เเต่เราเดินกันไม่ไหวแล้วขาสั่นเพราะดอยปุย555 จะไปร้านใต้ถุนบ้าน คนคือเยอะมากรอไม่ไหว เลยไปร้านbob มุมถ่ายรูปเยอะมาก คนแทบไม่มีโชคดีที่เราไปเช้าหน่อยได้ถ่ายรูปหนำใจเลย จากนั้นไปร้านกินอุด้ง ร้านนี้ควรไปมาก ราคาคือคุ้มค่ากับของมาก อร่อยมาก ควรสั่งครีมเมนไทโกะ จากนั้นเราเข้าพักรอเวลาเย็นไปกินยำร้านดัง ปูม้าเจ็ดยอด เราให้ผ่าน

day 4 เราออกจากที่พัก 8 โมงไปแม่กำปองระยะทางจากรร.ไปถึงแม่กำปองคือ 50 โล ไกลมาก แต่อากาศไม่ร้อนเลย คนข้างน้อยเพราะไปเช้า ถ้าคนไม่ขับขี่ไม่เเข็งแนะนำให้ขึ้นรถไปดีกว่าทางค่อนข้างโค้งชัน ไปถึงเราก็รอกินอาหารกันที่ร้านข้าวซอยจำชื่อร้านไม่ได้555 เราว่าค่อนข้างแพงนะ อย่างไข่เจียวหมูสับที่เป็นกับคือ60 บาท แกงฮังเล 120 เราว่าน้อยไปหน่อย 👉จากแม่กำปองเราไปต่อที่ม่อนแจ่ม ระยะทางประมาน 70 กว่าโล เราแวะจังเกิ้ลก่อน ค่าเครื่องเล่นเริ่มต้น 160 บาท จังเกิ้ลค่อนข้างเสียวถ้าใครจะถ่ายวิดีโอตอนเล่นต้องจับโทรศัพท์ให้แน่นๆนะคะ เกือบทำร่วงเเล้ว5555 จากนั้นเราไปขึ้นม่อนแจ่ม บนม่อนแจ่มเองมีต้นซากุระด้วยนะคะ ได้เห็นวิวภูเขาไกลๆ ที่โดนใจสุดคือ แบล็คเบอร์รี่ คือราคาถูกมากกกกก แค่ 80 บาทเอง แล้วเป็นแบบสดด้วย ซึ่งถ้าเราซื้อแบบสดในซูเปอร์มาเก็ตน่าจะมี200ขึ้นแน่ๆ เราเดินทางกลับรร.ก็เกือบ4โมงแล้ว5555 ไกลสุดๆขี่รถวันเดียว200 กว่าโล ตกเย็นเราไปหาร้านหมูกระทะกินกัน

day 5 เดินทางกลับ เรานั่งรถรถจากรร.ไปที่สนามบินจากแอป 90 บาท คือถูกกว่าขามา ขามาเรานั่งแท็กซี่จากสนามบินเป็นแบบเหมา อันนี้เราไม่รู้ว่าไกลแค่ไหนเลยยอมนั่งมา เสีย 150 บาท

จริงๆคือเราไปหลายที่แต่อาจจำไม่ค่อยได้5555

#เชียงใหม่ #ดอยปุย #แม่กำปอง #ม่อนแจ่ม #รีวิวเชียงใหม่