ลาออกครั้งแรก ฉบับ First Jobber

อ๊าาาาาา🫨 มีใครทนได้กับสภาพแวดล้อมที่ต้องเอาเงินเดือนไปรักษาสุขภาพจิตกันบ้างมั้ยคะ?

บอกก่อนว่าเราเป็นเด็กจบใหม่ ทำงานมาได้8 เดือน แล้วลาออก ไม่ใช่เพราะว่าเรารับแรงกดดันไม่ไหว แต่เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่ากับเงินเดือนและพื้นฐานชีวิตที่เราจะต้องแลกกันเลย😤

เราสมัครงานตำแหน่ง KOLs Specialist (กระซิบบอกว่าจริงๆสายงานนี้สนุกมากกก🤩🤩) เป็นงานแรกที่เราได้ทำและเรารู้สึกว่าใช่เลยสำหรับเรา เราสนุกและชอบมากๆในตอนแรกที่ได้ทำงาน แต่ด้วยความที่บริษัทเราเป็นstart up ทำให้มีงานประสานงานกับKOLs บ้างหรือบางเดือนไม่มีเลย5555555555 บอเราเลยเริ่มหาอย่างอื่นทำ เช่นการไลฟ์สดขายของบ้าง ตัดคลิป เขียนคอนเท้น เขียนแคปชั่น ทำทู้กกกกอย่างงงที่ไม่ใช่ตำแหน่งงานที่สมัครมา

บวกกับโดนตามให้ทำงานวันเสาร์อาทิตย์บ้าง ซึ่งตอนที่เข้ามาไม่ได้แจ้งว่าเราต้องทำงานวันเสาร์อาทิตย์

เราทำงานมา5วัน เรามีเวลานอนแซ่บได้แค่2วัน เราเลยเต็มที่กับการนอนมากๆ ทำให้ตื่นบ่ายบ้าง ตื่นเย็นบ้าง นั่นแหละค่ะเลยโดนใบเตือน เราเลยตัดสินใจขอลาออกทันที

(จริงๆเหตุผลมันมีมากกว่านั้นฮะ คิดทบทวนมาแล้วจริงๆ🥲)

และเราลาออกทั้งๆที่ไม่มีงานFull-time รองรับเลย เรซูเม่ก็ยังทำไม่เสร็จ พอร์ตก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ได้วางแผนว่าจะลาออกในเร็วๆนี้ แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้วอะเนาะว่าขอลาออก เลือดนักสู้วัยรุ่นไฟแรงจะยอมเสียหน้าได้ยังไง🔥🤯

หลังจากได้ลาออกมาแล้ว บอกเลยว่าสบายใจมากๆ เราแค่เสียดายความสัมพันธ์กับคนในออฟฟิศมากกว่าเพราะพี่ๆที่ร่วมงานด้วยดีมากๆ เราจึงอยากจะเป็นแรงฮึดให้กับเด็กจบใหม่ที่กลัวการลาออกสำหรับงานแรกของตัวเอง

เราอยากจะบอกว่า อย่ากลัวการที่จะลาออกจากที่เก่า ถึงแม้ว่าประสบการณ์ยังไม่ถึง1ปีก็ตาม ให้เรามั่นใจว่าเราจะสามารถเติบโตในที่ใหม่ได้ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาเราทำเต็มที่ในสายงานของตัวเองแล้ว เราเลือกสุขภาพจิตและความเป็นตัวเองดีกว่านะคะ เราได้มีโอกาสลองไปสมัครที่ใหม่ๆแล้ว ฐานเงินเดือนเราเยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ที่เก่า17K ที่ใหม่ๆที่เราไปสมัครเขาให้เราเรียกได้ตั้ง 25K คือฐานเริ่มต้นของตำแหน่งงานเราเลย 😬

เพราะงั้นอย่าลังเลที่จะเลือกความสบายใจของตัวเอง อย่าทำงานหนักเพื่อเอาเงินไปพบแพทย์เลยค่ะ🫂💖

#รีวิวลาออก #ประสบการณ์ลาออก #firstjobber