บ้านหลังแรก ฉบับยื่นกู้กับคู่สามีต่างชาติ

ลุ้นที่1 ผ่านไป (ด่านสามี)

ลุ้นที่2 ตามมาติดๆ

โพสต์ที่1เล่าถึงอุปสรรคที่ยากที่สุด คือ สามี ผ่านไป หลังจากที่สามีตกลงปลงใจกับบ้านหลังนี้ที่ฉากหลังไม่รู้หรอกว่า เราขอสิ่งศักดิ์สิทธิมาและพระจัดสรรให้เธอ เราเริ่มจ่ายเงินจองและเข้าสู่ขั้นตอนเอกสาร เราเตรียมทุกอย่าง เหมือนทุกๆคนค่ะ แต่ความยาก ความซับซ้อนมีเยอะมาก เนื่องจากเราทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวรายเดือนของหน่วยงานราชการที่หนึ่ง ใบสลิปเงินเดือนเราจะขึ้นโชว์หราว่า"พนักงานชั่วคราว" แน่นอนความชั่วคราวคือความไม่มั่นคง เงินเดือน9450บาท ไม่มากไปกว่านี้ แถมประวัติบูโรเรา ยังมีหนี้รถยนต์50k พ่วงด้วยมีประวัติการจ่ายล่าช้า 90วัน ความจริงมันเกิน1ปีไปแล้ว แต่เนื่องจากข้อมูลเครดิตบูโรแสดงย้อนหลัง2ปี ข้อมูลตรงนี้เลยยังเห็นอยู่ ส่วนทางด้าน สามีเรา เงินเดือน120k มีwork permit มีใบ ภงด.90 มีภาระหนี้รถคันใหม่และบัตรเครดิตอยู่ ภาระต่อเดือน ตีว่า2หมื่น เพราะบัตรเครดิตส่วนมากสามีจะจ่ายตัดจบ(แล้วเราก็สร้างขึ้นให้ใหม่) แต่บูโรแฟนเราไม่มีปัญหา เรากับสามีจดทะเบียนสมรสกัน แต่ปัญหาคือ การรับรองการขอสินเชื่อบ้านสำหรับชาวต่างชาติมีแค่1ทางเลือกและขอกฎหมายของไทยไม่ได้ช่วยเหลืออะไรสำหรับต่างชาติมากนัก เซลล์ยื่นกู้ให้3แบงค์ปละเพราะการมีเอกสารชัดเจนของแฟน เซลล์เลยเสนอแบ๊งค์และบอกเราว่านี้คือการยื่นกู้ร่วมและตั้งแต่นั่นเราก็เข้าใจแบบนั้น

จนกระทั่งว่า

แบ๊งค์ที่1 วันที่5หลังจากการยื่นเอกสาร โทรมาแจ้งเราว่า ทางแบ๊งค์ให้50% ของราคาบ้านและให้ผ่อน8ปี เนื่องจากพิจราณาแล้ว เงินเดือนของเราไม่ครอบคลุมและถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับทางสามี เค้ากลัวเราไปต่อไม่ไหว เราจึงถามว่า 'อ้าว แล้วไม่ได้ใช้สามีเป็นคนกู้ร่วมเพื่อะพิจาราณารายได้ครอบครัวหรอคะ?" แบ๊งค์แจ้งว่า เค้าไม่มีนโยบายให้ต่างชาติเข้ากู้ร่วม เลยให้แฟนเป็นแค่คนค้ำประกัน เราก็เลยบอกว่า แน่นอนแหละ นี้คงเป็นคำปฏิเสธของทางแบ๊งค์แบบสุภาพ เพราะถ้าใช้หลักการแบ๊งค์ผู้ยื่นกู้รายได้9000บาท และยื่นกู้บ้านในราคา5ล้านกว่าบาท มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ยังถามเราต่อว่าสะดวกเงื่อนไขนี้มั้ย จะได้ทำงานต่อกัน เร่ตอบเสียงดังฟังชัดแบบให้มีมารยาทที่สุด "คิดว่าไม่สะดวกค่ะ ถ้าต้องถือเงินสดไปจ่าย3ล้านแล้วยังต้องเป็นหนี้จ่ายดอกเบี้ยให้แบ๊งค์อีก8ปี เราสู่ถือเงินสด ย้ายทำเลไปอีกหน่อยเราคงใช้เงินสดก้อนนี้ซื้อบ้านได้เลย

แบ๊งค์ที่2 ขอคนไทยค้ำประกันเพิ่ม แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้ามีคนค้ำแล้วจะผ่านได้100% หรือได้วงเงินที่เหมาะสม

ความหวังอยู่กับแบ๊งค์ที่3 ซึ่งก็คือ UOB ซึ่งมีธนาคารนี้ ธนาคารเดียวที่จับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ แต่พี่ธนาคาร....วันที่1-3ขอเอกสารนั่นนี้แล้วหายไป โผล่มาอีกทีวันที่7 "น้องค่ะ พี่เป็นโควิดเลนหายไปนาน แต่พี่จะฝากเรื่องให้อีกคนทำนะคะ" หายไปอีก1วัน คนฝากเรื่องโผล่มา ขอเอกสารเพิ่ม 1 2 3 หายไปอีก2วัน พี่คนเดิมกลับมา หายจากโควิดแล้ว ขอเอกสารเพิ่ม แต่พี่จะส่งเรื่องเข้าไปในระบบก่อน อีก1วันต่อมา เซลล์บอกว่า พี่คะเคสพี่โดน reject เพราะเอกสารไม่ครบ ถามไปถามมา คือเอกสารที่ขอล่าสุดและส่งให้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ขอ แบ๊งค์โทรมาบอกเหมือนเซลล์แต่เพิ่มเติมคือเพิ่มเอกสารให้และยื่นเรื่องเข้าไปใหม่แล้วรออีก2วันนะ

วันที่2ตามนัด ผลไม่ออก

วันที่3 พี่แบ๊งค์บอกว่า ออกแน่ๆ รู้แน่วันนี้ 4โมงเย็นโทรเข้ามาเกี่ยวกับรายละเอียดในสลิปเงินเดือนแฟนที่โดนหักเข้ากองทุนเลี้ยงชีพ ซึ่งพี่คะ หนูเป็นเมียค่ะ ไม่ใช่การเงินที่ทำงานแฟน ตอบได้คร่าวๆแบบมั่วๆ แต่ตอบไปตอบมาตัวเลขไม่ตรงสักที จึงบอกว่าพี่ควรถามบัญชีที่ทำงานแฟน

ตั้งเป้าไว้ว่าอย่างน้อยขอ90%ของราคาบ้านก็ได้ แต่ปรากฎ6โมงเย็นทุกคนโทรมา ได้100%เต็มที่...เย้ๆๆๆๆๆ

ในที่สุดความพยายามก็คือความพยายาม ของๆเรา ที่ของเรา สุดท้ายแล้วก็เป็นของเรา

สิ่งที่ขนลุกที่สุด น้องเซลล์บอกว่า "หนูว่าบ้านเลือกคน บ้านหลังนี้ผ่าน4ครอบครัว ไม่มีใครยื่นไฟแนนซ์ผ่านเลยนะพี่ มีพี่ที่ผ่านแล้วผ่านแบบ100%"

ขอบคุณทุกอย่างที่ดลใจ แต่ระหว่างรอการอนุมัตินี้ ม๊ามี๊ก็วิ่งมูเตลูมา ไม่ได้หยุดจนหยดสุดท้านเลย

ไปมูตรงไหนมา โพสต์หน้าจะมาแชร์น้าาา⭐️ความพอใจ: 🌟🌟🌟🌟🌟: