อาการร้อนใน (ปาก) เป็นแล้วจะแก้อย่างไรดี????

ร้อนใน(ปาก) ….ใครเคยเป็นบ้าง….??

สาวๆ ทราบกันมั้ยคะว่า ร้อนใน เกิดจากอะไร ทำไมเราถึงมีอาการนี้ได้ ใครเคยเป็นแล้วรู้สึกปวดร้อนลำบากในการทาน ช่วงนั้นทานอาหารไม่อร่อย แค่ทานไม่ได้นี่ก็หงุดหงิดแล้วใช่มั้ยคะ คืออดทานของอร่อยนี่แหละสำคัญ วันนี้ปอดเลยนำความรู้เล็กน้อยมาฝากกันในเรื่องของร้อนใน มาฝากกันค่ะ

อาการร้อนใน คือ การมีแผลเปิดภายในช่องปาก ซึ่งเกิดจากการแตกของเยื่อเมือก สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

วิธีเช็คว่า แผลในปากที่เราเป็นอยู่นั้น ใช่แผลร้อนในหรือไม่ มาดูกันค่ะว่ามีอาการอย่างไรบ้าง

- มีแผลภายในช่องปาก บริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น และเหงือก

- แผลเปื่อยเป็นวงกลมหรือวงรีสีขาว ๆ เหลือง ๆ

- แผลบวมแดงและเจ็บ

- บางรายแผลอาจจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจัยที่ทำให้มีอาการร้อนใน คือ

- ร่างกายอาจจะขาดวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก

- ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเริ่มบกพร่อง

- ช่วงนั้นมีการทานของมัน ของทอดบ่อย

- มีความเครียดสะสมบ่อยๆ

- การนอนดึก อดนอน พักผ่อนน้อยเป็นประจำ

- มีการเผลอกัดริมฝีปากขณะเคี้ยวอาหาร

- บางรายอาจเกิดจากการแพ้สารบางชนิดในยาสีฟัน

เป็นร้อนในแล้วจะแก้อย่างไร….???

- ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร

- ใช้น้ำเกลือกลั้วปาก โดยนำเกลือมาละลายในน้ำอุ่น จากนั้นก็นำมากลั้วปากแล้วบ้วนทิ้ง ทำประมาณ 15-30 วินาที ซึ่งน้ำเกลือจะช่วยลดการอักเสบของแผลในปาก

- ทาน้ำผึ้งแท้ บริเวณที่เป็นแผลร้อนใน เพราะคุณสมบัติในน้ำผึ้ง จะช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ และป้องกันการติดเชื้อได้

- หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากกว่าเดิม เช่น อาหารรสจัด และของทอด โดยช่วงนี้ให้เน้นอาหารเคี้ยวง่าย

- ทานอาหารแก้ร้อนใน เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก๊กฮวย มะระ แตงไทย มังคุด เป็นอาหารฤทธิ์เย็น

- ใช้ยาทาแก้ร้อนใน เป็นยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ ทาแค่วันละ 2-3 ครั้งเท่านั้น แผลก็จะหายเร็วขึ้นแล้ว

#ร้อนในปาก #อาการร้อนใน #แผลในปาก #เช็คสุขภาพ #ดูแลช่องปาก #ปัญหาสุขภาพ

#homemadestylebyano