The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app
Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.
PHOTOS | |||
JPEG | Download | ||
JPEG | Download |
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์โรคแพนิคที่เป็น (จากบทความในอากู๋ บวกกับประสบการณ์ของเราเอง)
☆ โรคแพนิค คืออะไร ??
โรคแพนิค (Panic) คือ ภาวะตื่นตระหนก วิตกกังวล หรือความกลัว ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งที่ไม่ได้เผชิญกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อันตรายหรือเคร่งเครียด มักจะมา 5-10 นาที หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน
☆ สาเหตุทางกาย
เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (Automatic Nervous System) ทำงานผิดปกติ โดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วน จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน เช่น หัวใจเต้นแรง คลื่นไส้
☆ สาเหตุทางจิตใจ
- ความเครียดความวิตกกังวลที่มากเกินไป
- การใช้ชีวิตเร่งรีบที่เกินไป
- ผลกระทบทางจิตใจในอดีต
☆ รู้ได้ยังไงว่าเป็น
ตอนที่เรามีอาการมือสั่นใจสั่น หัวใจเต้นแรง คลื่นไส้ เรายังไม่รู้จักโรคนี้ และมีเพื่อนแนะนำให้เราลองไปพบจิตแพทย์ดู จนเราไปพบแพทย์บอกอาการที่เราเป็น หมอเลยบอกว่าเราเป็นโรคแพนิคนะ เราก็นั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคใหญ่เลย สรุปแพนิคกว่าเดิม😅 ก็พยายามทำความเข้าใจกับมันและอยู่กับมันต่อไป
☆ สาเหตุที่เราคิดว่าทำไมเราถึงเป็น
- จากการเสพข่าวที่เครียดมากเกินไป มีอยู่ช่วงนึงข่าวรถชนเยอะมาก มีเคสนึงที่รถชนแล้วตกขอบทางด่วน จนทำให้เรากลัวการขับรถทางด่วนไปช่วงนึงเลย
- ตอนมหาลัยเราไปเรียนตรีที่อินเดีย ที่เมืองบังกาลอร์ไฟดับบ่อยมาก บางทีเกือบทั้งคืน ไม่มีอะไรให้ทำ จนเรากลัวความมืด กลัวการรอคอยอะไรนานๆ รอแบบไม่มีจุดหมาย ทำให้ปัจจุบัน ถ้าเราต้องต่อแถวรอคิวหรือรออะไรนานๆ เราจะกลัวเราจะแพนิคเพราะเหมือนไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อไหร่ ทำให้วิตกไปก่อน และบ้านที่อินเดีย หน้าต่างจะเป็นเหมือนลูกกรง จนเรามีความคิดแวบขึ้นมาว่าถ้าเกิดไฟไหม้ทางประตู หน้าต่างคือโดดหนีไม่ได้ ตายอย่างเดียว จนกลัวที่แคบไปด้วยเลย
- เรากลัวความผิดหวังในความสัมพันธ์ เนื่องจากพ่อแม่เราหย่ากันตั้งแต่เด็ก เราอาจจะมีปมตรงที่ว่าทำไมพ่อแม่เราไม่อยู่ด้วยกัน สมัยนั้นการที่พ่อแม่หย่าร้าง มันยังไม่ค่อยปกติในสังคม ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคร จนเรากลัวความรักความผิดหวัง ทั้งเจอความรักที่ไม่ค่อยดี ทำให้เรากลัว คิดไปก่อน คิดมากคิดเยอะ จนทำให้เราเป็นคน toxic มากๆ บางทีคิดจนแพนิคขึ้น
☆ อาการ (ที่เราเคยเป็น)
- หัวใจเต้นแรง
- มือเท้าสั่น+เย็น+เหงื่อออกหนัก
- คลื่นไส้ มวนท้อง
- หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่ค่อยออก ฟีลเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ
- เวียนหัวคล้ายจะเป็นลม
- วิตกกังวลหรือหวาดกลัวว่าจะตาย รวมทั้งรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้
- หวาดกลัวและหลีกเลี่ยงสถานที่หรือเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดแพนิคขึ้น
☆ การรักษา
- เริ่มต้นปรึกษา และตรวจเช็คอาการแพนิคและระดับอาการ หมอจะจัดยาให้เรามาทาน มียา sertraline ของเรามียาทานแค่ก่อนนอน กับยาตัวระงับอาการเวลาแพนิคกำเริบ คือ alphazolam ค่าแพทย์ต่อครั้งประมาณ 1,700 ไม่รวมค่ายา (ครั้งแรกที่เราไปหาเกือบหมื่น🥲)
- ช่วงแรกที่รับยา 2 อาทิตย์แรก มีเอฟเฟคกับเราหนักมาก ทั้งคลื่นไส้ ทั้งใจสั่นและแพนิคหนักว่าเดิม ถึงตรงนี้ห้ามหยุดยาหรือถอดใจนะ พอผ่านมันไปได้เราจะโล่งมาก
- ถ้าช่วงไหนที่เราดิ่งหรือแพนิคหนักๆ เราจะนัดนักจิตบำบัดเพื่อพูดคุยให้เรารู้สึกโอเคร ไม่ดิ่งหนัก ฟีลแบบมีคนเข้าใจโรคที่เราเป็นนะ ค่าพบหมอครั้งละ 2,000
- นอกจากทานยาแล้วสิ่งที่เราทำก็คือ ใช้จิตใจตัวเองนี่แหละรักษาไปด้วย เพราะเราเชื่อว่าถ้าจิตใจเราแข็งแรงมากพอ เราก็จะรับมือและผ่านมันไปได้ เราต้องนับจับมือตัวเองแน่นๆๆ
☆ สิ่งกระตุ้นอาการหรือสิ่งที่เรากลัว
- เรากลัวความสูง กลัวการขับรถทางด่วน
- เรากลัวรถติดแบบนานๆๆ เคยขับรถอยู่อยากทิ้งรถแล้ววิ่งไปไหนสักที่
- เรากลัวที่แคบ เช่นลิฟท์ ห้องเล็กๆ ที่แออัด
- เรากลัวเสียงเพลงดังๆดังแบบมากๆ เช่นผับ งานedm เคยไปแล้วแทบตุย😅
- เรากลัวเจอเหตุการณ์เดิมๆหรือไปในสถานที่ที่เราเคยไปแล้วแพนิคขึ้น
- เราไม่สามารถกินข้าวอิ่มได้มาก เพราะเราเป็นกรดไหลย้อน กินอิ่มจนจุก แพนิคก็มา
- เรากลัวสถานที่แออัดที่คนเยอะๆ เช่นตลาดนัด ผับ งานต่างๆ
- เราไม่สามารถนั่งรถสาธารณะ หรือนั่งรสบัสรวมกับคนอื่นได้
- เรากลัวเครื่องเล่น
- เราไม่สามารถนั่งเรือ หรืออะไรก็ตามที่เราไม่สามารถจอดแวะได้ทันที (แบบระหว่างทางถ้าเกิดอาการมาเราสามารถขอลงได้)
สรุป ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีอาการคล้ายๆเราแบบนี้ แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นหรือเปล่า ลองไปพบหมอจิตแพทย์กันดูน้า ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองว่าเราบ้า หรือจิตไม่ปกติ เราว่ายุคนี้การไปพบหมอถือเป็นเรื่องปกติแล้ว และการได้รักษาเร็วก็ดีกว่าปล่อยให้แพนิคข้ามไปโรคอื่นนะ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าชีวิตจะเจออะไรก็ตาม เราต้องใช้ใจเราสู้กับทุกเรื่อง ถ้าใจเราแข็งแรงมากพอ เราจะมีแรงสู้และทำสิ่งที่เราอยากทำได้อีกเยอะ
#ติดเทรนด์ #สุขภาพใจ #แพนิค #โรคpanic #panic #panicdisorder #จิตแพทย์ #นักจิตวิทยา #นักจิตบําบัด#พัฒนาตัวเอง