The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app
Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.
PHOTOS | |||
JPEG | Download | ||
JPEG | Download |
สายกองดองอย่างพวกเราคงจะเข้าใจปัญหานี้ดี ว่าต่อให้เราจะมีหนังสือที่ยังอ่านไม่จบ (หรือยังไม่ได้แม้แต่จะแกะพลาสติกหุ้มออกมา) วางเรียงกองไว้มากมายจนฝุ่นจับแค่ไหน แต่เราก็ไม่อาจหักห้ามใจให้หยุดซื้อเล่มใหม่กลับมาได้อยู่ดี…
บางครั้งว่างๆ ก็ทำทีเป็นปัดฝุ่น หยิบขึ้นมาพลิกดูหน้าปก เปิดอ่านเนื้อหาด้านในแบบผ่านตานิดหน่อย แต่อ่านไปได้ไม่กี่นาที สุดท้ายก็วางและหันไปทำอย่างอื่นแล้ว
…แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะอ่านจบ!
ดังนั้นวันนี้ทางเราจะมาแนะนำวิธีเคลียร์หนังสือกองดองให้จบไวๆ กัน
1. เรียงลำดับความสำคัญ, ทำ Reading list
จัดลำดับหนังสือที่ต้องการอ่านรอไว้เลย โดยเรียงจากเล่มที่ต้องการอ่านมากที่สุดไว้อันดับหนึ่ง ไล่ไปจนถึงห้าอันดับ โดยให้ตั้ง Deadline ระยะเวลาการอ่านแต่ละเล่มไว้ด้วย
2. ตั้งเป้าหมาย และจัดตารางเวลาอ่าน
ตั้งเป้าหมายในแต่ละเดือน เช่นเดือนนี้จะต้องอ่านจบให้ได้สองเล่ม ให้หาเวลาว่างในแต่ละวัน แบ่งเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงเพื่ออ่านหนังสือโดยเฉพาะ (อย่างวันนี้จะต้องอ่านอย่างน้อยหนึ่งหน้า หรือหนึ่งบทอย่างต่ำ)
สิ่งสำคัญคือความมีวินัย ห้ามผัดวันประกันพรุ่ง ให้ดีใช้แพลนเนอร์ หรือใช้แอพวางแผนจัดตาราง เพื่อช่วยควบคุมเวลาชีวิตเราให้ตรงสม่ำเสมอ
3. จัดสภาพแวดล้อมในการอ่าน
ให้ห้องเงียบสงบปราศจากสิ่งรบกวนมากที่สุด อาจจะเป็นมุมอ่านหนังสือที่มีเก้าอี้นั่งหรือบนที่นอนนุ่มๆ โคมไฟอ่านหนังสือแบบถนอมสายตา เลือกเปิดฟังเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้อง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านมากยิ่งขึ้น
*ที่สำคัญห้ามให้โทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ตัวเด็ดขาด เพื่อไม่ให้สมาธิเราเบี่ยงเบนได้ง่าย*
4. ใช้ตัวช่วย
มีแอพพลิเคชั่นอย่าง Goodreads แอพบันทึกหนังสือที่เรากำลังอ่านอยู่หรือต้องการที่จะอ่านภายในแอพเดียว ประโยชน์แอพนี้คือสามารถให้เราบันทึกเป้าหมายการอ่าน เขียนรีวิวหนังสือ หรือค้นหาหนังสือใหม่ที่ต้องการอ่านได้
ส่วนแอพที่จะทำให้เรามีสมาธิกับการอ่าน คงไม่พ้นแอพพลิเคชั่นดังอย่าง Forest มันจะบังคับให้เราไม่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งถ้าเราไม่ใช้มันก็จะปลูกต้นไม้ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเราใช้ก่อนกำหนดเมื่อไหร่ต้นไม้จะตายทันที เป็นแอพที่ช่วยลดการใช้โทรศัพท์และบังคับให้เราจดจ่อได้ดีมาก
5.ใช้เทคนิคการอ่าน (แบบมืออาชีพ)
ลองพิจารณาหาวิธีการอ่านของคนอื่นมาปรับใช้ให้เหมาะกับเรามากที่สุด อาจเป็นคนดังหรือนักวิชาการมีชื่อเสียงก็ได้
**ตัวอย่าง**
1. Bill Gates: ผู้ก่อตั้งบริษัทMicrosoft
ใช้เทคนิคแยกหมวดหมู่ประเภทหนังสือก่อนอ่าน เช่นแนวความรู้ แนวประวัติศาสตร์ และเอาเรื่องที่สนใจมากที่สุดก่อน
> จัดแบ่งเวลาเพื่ออ่านหนังสือโดยเฉพาะ
> อ่านแล้วจดบันทึกทำความเข้าใจไปด้วย
2. Mentalist DaiGo นักเขียนขายดีชาวญี่ปุ่น
ใช้เทคนิคการอ่านแบบสกิมมิ่ง (skimming) เริ่มจากดูปกหน้า ปกหลังและสารบัญก่อนว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
> ตั้งเป้าหมายว่าเราอยากจะได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้
> พุ่งตรงไปหาบทหรือเรื่องที่เราอยากจะอ่านเลย (ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกบทหรือทั้งเล่ม เอาแค่เรื่องที่เราสนใจเท่านั้นก็พอ)
6.เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง
เล่มไหนไม่ใช่แนวอย่าฝืนอ่านให้จบ ให้ไปเล่มต่อไปทันที อย่ายึดติดกับสิ่งที่ไม่ใช่ เวลาเป็นสิ่งที่เสียไปแล้วเอาย้อนกลับคืนมาไม่ได้ ดังนั้นเราจะต้องห้ามเสียเวลาอยู่แต่กับมัน (ถ้าทำใจทิ้งไม่ได้ อาจจะเก็บไว้ก่อนหรือให้โอกาสกับมัน ซึ่งอนาคตอาจหยิบขึ้นมาอ่านใหม่ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้)
อาจจะพิจารณาบริจาค หรือส่งมอบให้กับคนอื่นที่ด้อยโอกาสและเหมาะสมต้องการมันมากกว่าเรา
7.หันไปทางเลือกอื่น (ebook สรุปpodcast)
บางทีเราอาจจะไม่มีเวลาอ่านมันจริงๆ หรือพยายามจะอ่านทีไร แค่เห็นตัวอักษรมากมายก็ไม่มีสมาธิหรือเผลอหลับไปแล้ว
ดังนั้นทางเลือกใหม่อย่างPodcastสรุปหนังสือก็อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับเรา โดยอาจจะใช้เวลาช่วงพักจากการทำงาน กินข้าว ขับรถหรือออกกำลังกายเปิดฟังไปด้วย เพราะมนุษย์เราสามารถทำหลายอย่างไปพร้อมกันได้ โดยแยกประสาทสัมผัสทั้งห้าออกจากกัน ฟังเนื้อหาสรุปใจความสำคัญเท่านั้น
ถือว่าประหยัดเวลาการอ่าน ไม่เสียเวลาชีวิต แถมยังได้เรียนรู้ใจความสำคัญได้อย่างดี
หรือไม่ถ้าไม่ชอบฟัง อยากอ่านเป็นตัวอักษรจริงๆ ก็อาจพิจารณาเลือกเป็นไฟล์หนังสืออิเล็คทอร์นิกอย่าง Ebook
ข้อดีคือประหยัดพื้นที่เก็บ พกพาสะดวกจะอ่านที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องลำบากพกให้หนักอย่างหนังสือรูปเล่ม
อย่าลืมว่าเป้าหมายในการอ่านหนังสือ ไม่ใช่การฝืนเค้นตัวเองเพื่ออ่านให้จบ แต่เพื่อให้เราเพลิดเพลินกับช่วงเวลาการอ่าน ได้สนุกหรือได้เรียนรู้อะไรจากมัน
มันจะมีประโยชน์อะไร หากซื้อมาแล้วแต่ไม่ได้อ่านหรือแตะต้องมัน
ดังนั้นอย่าลืมให้รางวัลตัวเองหลังอ่านจบด้วย (อย่างหนังสือเล่มใหม่?)
เพราะยังไงพวกเราสายกองดองก็หยุดซื้อหนังสือที่ชอบมาสะสมไม่ได้อยู่ดีแหละนะ
#howto #พัฒนาตัวเอง #กองดอง #อ่านหนังสือ #ความรู้ #lifehacksง่ายๆ #lifestyle