Tải Video Lemon8

Cách dễ nhất để tải video Lemon8 và tải ảnh từ ứng dụng Lemon8

นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8

นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8

Máy tính: Nhấp chuột phải và chọn "Save link as..." để tải xuống.

PHOTOS
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống
นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist  | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ArtsWork | Lemon8 JPEG Tải xuống

นัดดา ศรีทองดี ( แพร ) Artist

https://sites.google.com/view/artsworkchannel/interview/pare-nadda-srithongdee

- การเป็นศิลปิน คือ ความฝันวัยเด็ก?

รู้ตั้งแต่เป็นเด็กประถมแล้วว่าชอบศิลปะทุกแบบ ชอบดนตรี ชอบภาพถ่าย ชอบภาพยนตร์ ชอบบทกวี และชอบวรรณกรรม .. แต่ที่บ้านไม่มีใครเรียนหรือทำงานทางด้านพวกนี้เลย แพรก็ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน ต้องปรึกษาใคร มันไม่มีใครพูดถึงศิลปะเลย แต่มันเป็นความสนใจตั้งแต่เด็ก ที่ไม่เคยเปลี่ยน แพรก็อ่านหนังสือเอา สมัยนั้นมีแมกกาซีนหลายหัว ก็อ่านหมด บ้านมีหนังสืออะไรให้อ่านก็อ่าน เคยขอแม่ไปเรียนเปียโน ก็เล่นได้ สอบเกรดถึงเกรดสามก็ขอเลิกเรียน เรารู้ว่าเราชอบฟังเพลงมากกว่าเล่น อยากเรียนวาดรูป อยากเรียนร้องเพลง อยากเรียนเต้น อยากเรียนการแสดง ขอแม่ไป แม่ก็ไม่ได้ห้าม แต่สมัยเด็กบ้านอยู่สุขาภิบาล3 ไม่รู้ว่าต้องไปเรียนที่ไหนแถวนั้น ก็เลยได้เรียนแต่ภาษาอังกฤษ เทนนิส กับ ว่ายน้ำ 🤣 แต่แพรรู้มาตลอดว่า ชอบวาดรูป ความอยากวาดก็ฝึกเอาเอง หาทางวาด วาดเล่นไปเรื่อยๆ วิชาศิลปะจะประดิดประดอยที่สุด แต่ไม่เคยใช้สีอื่นเลย นอกจากสีไม้ เพราะไม่รู้จัก จนถึงมหาลัย ตอนแรกไปเรียนนิติศาสตร์ เรียนได้ดี แต่อยากเรียนศิลปะจริงๆ เลยขอพ่อแม่ย้ายคณะ ทุกคนอึ้ง แต่ก็ยอม มีความสุขมาก ตั้งใจเรียนสุดๆ แต่คำว่า ศิลปิน ไม่เคยมีในหัว เพราะสมัยนั้น ได้ยินแต่นักร้องที่เรียกตัวเองเป็นศิลปิน ตอนนั้นได้ยินคำว่า จิตรกร แต่ก็ไม่ได้คิดจะเป็น เพราะคิดว่าต้องวาดภาพเหมือนราวกับถ่ายรูป ถึงจะเป็นได้ เราชอบวาดคน แต่ไม่เหมือนขนาดนั้น จนกระทั่งตอนจบปี 1 ที่ ม.รังสิต เขามีจัดแสดงงานนักศึกษา แล้วมีคนมาดูงานที่คณะ อาจารย์โทรมา บอกว่าเขาชอบภาพของแพรและขอซื้อ ใจเต้นตึกตัก ภาพขนาด 100 x 200 cm. ขายไป 1 หมื่นบาท ยังกลัวว่าแพงไปรึเปล่า คนซื้อไม่ต่อสักคำ บอกว่า ชอบสีของภาพ แพรกลับมาบอกแม่ แม่ตกใจมาก ช่วยกันเอาภาพยัดเข้ารถ Honda Civic ไปส่งภาพกันแบบทุลักทุเล แต่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่มีวันลืม

- ทำไมแพรชอบเขียนรูปPortrait และเริ่มเขียนตั้งแต่เมื่อไหร่

เริ่มเขียนจริงจังตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีสองสัปดาห์ เพราะเรียนจบปุ๊บ พ่อให้เงิน 1 แสนบาท ดีใจมากนึกว่าเป็นของขวัญ แต่พ่อบอกว่า คือเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อจะให้ ต่อไปนี้ให้หาเอง แพรก็กลัวมาก กลัวอยู่ไม่รอด ตอนนั้นแม่ก็ไม่สบาย ต้องพาแม่ไปหาหมอทุกเดือน เราเห็นสีหน้าของแม่ทุกวัน เรารู้ว่าตอนนี้สบายดี หรือ เจ็บปวด เราคอยสังเกต วันนี้อารมณ์ดี หรือ เศร้า ตัวแพรเองก็ดูกระจกทุกวันตอนอาบน้ำ แพรจะชอบคุยกับตัวเองเวลาคิดว่าจะเอายังไงดี จะทำยังไงดี อะไรแบบนี้ คงทำให้ชอบดูหน้าคนไปโดยไม่รู้ตัว คิดเอาเองนะว่าตัวเองคงเป็นคนมีเซ้นท์บางอย่าง ที่เดาได้จากสีหน้าแววตา ว่าคนนี้ดีหรือไม่ดี ควรสนิทหรือควรห่าง มันก็คือการเดา แต่แค่ยังไม่เคยเดาผิดเลย .. จึงเป็นที่มา ของการชอบดูภาพวาด portrait มาก เพราะรู้สึกสัมผัสอารมณ์ได้ดี พอจะวาด ก็เลยชอบวาดภาพที่เราเข้าใจการสื่อสารของมัน

- พูดถึงการหาแรงบันดาลใจ

แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ส่วนตัวทั้งหมด มาจากความจำในอดีต ความรู้สึกนึกคิดในช่วงขณะต่างๆ การเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว แพรคิดว่าจินตนาการเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์ แต่งานของแพรมักจะสะท้อนความรู้สึกจากประสบการณ์ของแพรเหมือนบันทึกที่แพรอยากจะเล่า แพรคิดว่าต่อให้แพรวาดตัวเองทุกปี ภาพทุกภาพมันก็จะเหมือนวาดคนละคน เพราะเราเปลี่ยนไปทุกปี ทั้งวัย ทั้งทัศนคติ ทุกอย่าง

- เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง?

เป็นคนที่ชอบการบันทึก ชอบถ่ายภาพ ชอบเล่าเรื่อง เล่นเฟสบุ้ค และอิสตาแกรม เมื่อก่อนตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้มากกว่านี้ แต่วันนึงคิดว่าถ้าเราตายกะทันหัน กลัวลูกจะเข้ามาอ่านบันทึกไม่ได้ เพราะส่วนมากบันทึกเรื่องชีวิตประจำวัน หรือ การเดินทาง ก็เลยเปิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อก่อนบันทึกเป็นหนังสือ แต่พอมีลูกไม่มีเวลานี้ เขียนทุกอย่างในมือถือในช่วงระหว่างวันพร้อมรูป มันง่ายกว่า แต่แพรก็ไม่ได้ลงจนเป็นรายการช่องเรียลลีตี้ของชีวิตขนาดนั้น แพรชอบเจอผู้คน แต่มีระยะใกล้ระยะห่างของแต่ละคนไม่เท่ากัน ในหนึ่งวันแพรชอบออกไปนั่งเล่น เดินเล่น เจอคนอื่นบ้าง แต่เวลาส่วนมากจะอยู่บ้านมากกว่า เพราะมีอะไรที่ชอบทำหลายอย่าง เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ดูสารคดี ภาพยนตร์ ออกกำลังกาย ดูต้นไม้ ทำน้ำผัก ทำอาหาร ชงกาแฟ ฯลฯ ชอบเรียนรู้ ซึ่งช่วงเวลานั้นมักจะอยู่กับตัวเอง น่าจะเรียกว่ามีโลกส่วนตัวพอประมาณ ไม่สูงมากค่ะ

- พูดถึงการเป็นแม่และการเป็นศิลปิน

วันที่แพรไปเรียนอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่งว่า แพรจะแต่งงานกับพี่โลเล อาจารย์ยินดีแต่มีคำเปรยสั้นๆว่า เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ … ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นประโยคที่อยู่ในใจแพรมาถึงวันนี้ … แพรตีความในแง่ที่ว่า สมมุติอาจารย์ท่านอาจจะเห็นเรามีความเป็นศิลปินทั้งคู่ เรารักการทำงานศิลปะทั้งคู่ เรามีพลังสร้างสรรค์เหมือนเสือหนุ่มสาว แต่การใช้ชีวิตครอบครัว เราอาจจะเป็นเสือเต็มที่พร้อมกันไม่ได้ เราจะอยู่ด้วยกันยาก เพราะถ้าต่างคนต่างทุ่มเททำงาน ใครจะดูแลลูก …แพรเชื่อว่าศิลปะสำหรับแพรมันไม่มีวันหายไปไหน ตั้งแต่ลูกดิ้นในท้อง แพรก็ล้างพู่กันวางเลย ต่อไปนี้ที่ลูกเกิดมา งานหลักของแพรคือ ลูก แต่ศิลปะจะแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน ของแพรและลูกทุกวัน พี่โลเลก็เหมือนกัน เขาก็อยากอยู่ในทุกๆการเติบโตของลูกเรา เขาก็ทำงานศิลปะเป็นหลัก เพราะต้องเป็นเสาหลักของบ้าน แต่ก็ช่วยกันเลี้ยงลูกตลอด แพรเอาพลังงานสร้างสรรค์ของแพรไปใส่ในการเลี้ยงลูกทั้งสองคน แพรไม่มีเวลาวาดภาพ แต่แพรเขียนหนังสือได้ ถ่ายรูปได้ ฝึกล้างฟิล์มอัดรูปได้ จนในที่สุดแพรเปิดร้านกาแฟ ที่มีพื้นที่แสดงงานศิลปะได้ แม้พู่กันที่แพรล้างจะถูกวางไว้นานถึง 10 ปีจึงจะหยิบมาวาดใหม่ แต่เป็นช่วงเวลาที่การสร้างสรรค์ของแพรมันถูกแตกแขนงไปมากที่สุดในชีวิต แพรไม่เคยห่างจากศิลปะเลย แค่มันเปลี่ยนจากงานไปเป็นชีวิต

- ปัจจุบันเรื่องของความเสื่อมทราม ปัญหาสังคม ทำให้คนไม่อยากมีลูก คิดเห็นอย่างไร และแพรเป็นห่วงลูกไหมกับปัญหาเหล่านี้

แพรกับพี่โลเล เราก็เคยไม่อยากมีลูก เพราะเราหวงแหนความสุขของชีวิตคู่ และเรารู้สึกว่ามันพอแล้ว .. จนกระทั่งคุณแม่แพรเสียชีวิตไป แพรรู้สึกว่า... ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ที่แพรเคยได้รับจากมาตลอดชีวิต มันขาดหายไป นั่นคือจุดเปลี่ยน แพรเอาแม่กลับมาไม่ได้ แต่แพรเป็นแม่ได้ ที่แพรอยากมีลูกเพราะแพรโหยหาสายสัมพันธ์นั้นมากๆ มันไม่มีความรักไหนจะมาทดแทนจริงๆ แพรรู้ว่าปัญหาในสังคมมีมากมาย แพรก็เป็นห่วงว่าตัวเองจะดูแลลูกได้อยู่ดีมีสุขในโลกสมัยนี้ไหม แต่แพรตั้งความหวังไว้สองข้อเท่านั้นตั้งแต่วันแรกที่เขาเกิด คือแพรขอให้เขามีความสุข และ สุขภาพแข็งแรง ดังนั้นแพรก็ตั้งใจรักษาไว้แค่สองข้อนี้ตลอดค่ะ ความสุขที่แพรจะให้ได้คงเป็นเรื่องของการที่เขาจะเดินไปทางไหนก็แล้วแต่เขาเลือก แต่หันมาเขามีแพรยืนยิ้มอยู่ข้างหลังเสมอ ส่วนเรื่องสุขภาพ ก็คอยดูแลกันไปค่ะ

- พูดถึง เป้าหมาย และการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน

เป้าหมายของแพรหลักๆ คือ สุขภาพค่ะ แพรอยากมีชีวิตยืนยาวด้วยสุขภาพที่ดี ไม่เป็นภาระของตัวเองและคนอื่น แพรอยากอยู่เป็นกำลังใจให้ลูกไปนานๆ และศิลปะเป็นสิ่งที่จะอยู่กับแพรตลอดชีวิตค่ะ

----------------

คำถามไลฟ์สไตล์

1.วันหยุด หรือเวลาว่าง ชอบทําอะไรมากที่สุด

ชอบดูหนังค่ะ

2. การดูหนังฟังเพลง สไตล์ที่ชอบ

ดูได้ทุกแนว แต่ชอบสุดคือ สารคดี หรือ หนังที่สร้างจากเรื่องจริง

3. เพลงไหนที่ตรงกับชีวิตเราตอนนี้

Stand by me : B King

4. ชอบแต่งตัว Style ไหน สีที่ชอบ

Boyish : สีขาวค่ะ

5.อาหารจานโปรด ผลไม้ เครื่องดื่ม

ข้าวไข่ดาว : สตรอเบอรี่ : น้ำเปล่า

6.ตอนสมัยเรียนอยู่ชอบวิชาอะไรมากที่สุด ที่ไม่ใช่ศิลปะ

ภาษาอังกฤษ

7.ถ้าไม่ได้ทำศิลปะ ..มีอะไรที่อยากจะทํามากที่สุด หรือสิ่งที่เราชอบที่รองจากงานศิลปะ

ร้านหนังสือ

8.เรื่องที่ดีใจมากที่สุด

สุขภาพแข็งแรง

9.ถ้ามีเวลาว่างอยากไปเที่ยวที่ไหน

อิตาลี

10.สิ่งของที่ขาดไม่ได้... ต้องพกติดตัวตลอดเวลา

ลิปมัน

11. ประเทศที่อยากไปมากที่สุด

อิตาลี

12.มีIdolไหมใครก็ได้ที่ตัวเองชอบ

มีเซียม ยิปอินซอย

13.ชอบ Shoppingไหม ส่วนใหญ่ชอบไปที่ไหน

ชอบไปร้านต้นไม้

14.ของชิ้นแรก..ที่ซื้อ ด้วยตัวเองและชิ้นไหนที่แพงมากที่สุด

MacBook / ซื้อเบสกับกีต้าร์ให้พี่โลเล

15.ของขวัญที่ประทับใจ

ภาพวาดหน้าแพรจากพี่โลเล

16 สิ่งที่กลัว

แมลงสาป

17.สัตว์เลี้ยงที่ชอบ

ปลาคาร์ป

18.ต้นไม้/ดอกไม้ที่ชอบ

ชอบต้นหมาก / ชอบดอกกุหลาบ

19.สมมุติว่าเราเป็นสิ่งของอะไรซักอย่าง เราเป็น…..

โซฟา

#สายอาร์ต #ศิลปะ #วาดรูป #ติดเทรนด์ #ป้ายยากับlemon8