รีวิวการเรียนสายนิติศาสตร์ ฉบับมาราธอน

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการเรียนนิติศาสตร์ฉบับมาราธอน ซึ่งมาราธอนจริงๆ เพราะเรียนและสอบจนสุดสายนี้เลย 🥹🤣 ขอเกริ่นก่อนว่าเราไม่ได้เรียนนิติใบแรก แต่จบป.ตรีใบแรกจากสาขาอื่นมาก่อน

ใบที่ 1 ป.ตรี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ

ใบแรกที่เป็นใบเบิกทางให้เราต่อสายนิติศาสตร์ ขอสารภาพตามตรงว่าตั้งแต่เรียนจบมาก็คืนไปหมดแล้ว จำได้แค่ลางๆ ลางแบบจางมากๆว่าเรียนอะไรไปบ้าง 🤣 เรียนแบบถูๆไถๆจนจบได้ในที่สุด เรียนแล้วรู้สึกได้ว่าไม่ใช่สายที่ชอบ เราเรียนรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง สำหรับใครที่อยากเป็นปลัดอำเภอ ใบนี้คือตัวเบิกทางที่ดีที่จะต่อยอดไปทางนี้เลย

ใบที่ 2 ป.ตรี นิติศาสตร์ มธ.

พอจบรัฐศาสตร์ เราก็ได้ข้อมูลมาว่ามธ.กับจุฬาเปิดนิติศาสตร์ภาคบัณฑิตสำหรับคนที่จบป.ตรีมาแล้ว โดยเรียนแค่ 3 ปี เพราะถือว่าป.ตรีใบแรกคือปี 1 เราอยากเปลี่ยนสายจึงตัดสินใจสอบเข้าทั้งสองที่ทันทีที่จบรัฐศาสตร์ ปรากฏว่าติดทั้ง 2 ที่ แต่เราเลือกเรียนที่มธ.เพราะพ่อเราอยากให้เรียนที่นี่ แต่ภาคบัณฑิตจะต้องไปเรียนที่ท่าพระจันทร์นะ

การเรียนนิติ มธ. แบ่งเป็น 2 ภาค และการสอบเป็นสอบปลายภาค 100% ไม่มีคะแนนเก็บ ไม่มีสอบกลางภาค แต่มีสอบซ่อมได้ 1 ครั้งสำหรับคนที่สอบตก ตอนเข้าไปเรียนตอนแรก เราต้องปรับตัวอเยอะมาก เพราะไม่เคยอ่านหนังสือเรียนและท่องจำเยอะขนาดนี้มาก่อน แถมต้องเขียนตอบเป็นภาษากฎหมายซึ่งยากมากสำหรับเรา😩 รู้สึกทรมานมากกกก ปี 1 เทอมแรกผ่านไปได้ด้วยดีเลย แต่พอเทอม 2 เท่านั้น ไปพลาดวิชาทรัพย์สิน ต้องสอบซ่อมอีกกก พอขึ้นปี 2 เริ่มปรับตัวได้แล้ว แต่ก็ไปตกวิชามหาโหดทั้ง 2 ตัว ได้แก่ วิชาวิแพ่งและกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง ตอนแรกตั้งเป้าว่าต้องจบด้วยเกียรตินิยมให้ได้ แต่หลังจากสอบตกทั้งสามวิชา เราเลยตั้งใจว่าถ้าไม่ได้เกียรตินิยม ก็ต้องจบด้วยคะแนนที่เข้าเกณฑ์เกียรตินิยม เพราะจะได้นำไปเป็นใบเบิกทางในการทำงานในอนาคต และสุดท้ายก็ทำได้อย่างที่หวัง ดีใจมากที่ได้ปริญญานิติศาสตร์และใจหายมากที่จะไม่ได้มาเรียนที่มธ. ท่าพระจันทร์ทุกๆวันอีกแล้ว คิดถึงเพื่อนๆพี่ๆที่มธ.มากๆ 🥹

ใบที่ 3 ตั๋วทนาย

หลังจากจบป.ตรี นิติ เรายังไม่ได้ทำงาน แต่สมัครสอบตั๋วทนายภาคทฤษฎีทันที พร้อมกับลงเรียนเนติบัณฑิต โชคดีที่วันสอบไม่ทับกัน การอ่านหนังสือและสอบเลยไม่ต้องกังวลอะไร ผลัดกันอ่านเนติบ้าง อ่านตั๋วบ้างสบายๆ การสอบตั๋วทนายจะเเบ่งเป็น 2 แบบคือ 1.ตั๋วปี 2.ตั๋วรุ่น เราลงแค่ตั๋วรุ่นซึ่งแบ่งสอบเป็น 2 รอบเป็นภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติ ข้อสอบทั้งสองภาคไม่ยากเลย แต่อาจจะแปลกใหม่ไปสักหน่อย ข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการทำงานของทนายความ เช่น คำร้อง คำขอ คำแถลง คำฟ้องแพ่ง คำฟ้องอาญา และมรรยาททนาย ทุกข้อเป็นข้อเขียนหมดเลย มีข้อสอบกากบาทอยู่ประมาณ 20 ข้อซึ่งจะเกี่ยวกับกฎหมายพิเศษ ออกกว้างมากอะ สำหรับเราที่สอบแบบเขียนมาตลอด พอมาสอบแบบปรนัย รู้สึกไม่ถนัดสุดๆ ตอนสอบเสร็จทั้งสองภาคก็กังวลอยู่บ้าง แต่เราก็เชื่อในตัวเอง ถึงจะไม่มั่นใจทั้งหมด แต่บวกลบแล้วก็น่าจะผ่านแหละมั้ง 😅 ปรากฏว่าผลสอบออก เราสอบผ่านครั้งแรกได้ทั้งสองภาคเลย ดีใจมากกก ได้เป็นทนายความอย่างที่หวังสักที 🥹

ใบที่ 4 เนติบัณฑิตไทย

ใบนี้เป็นใบที่สาหัสมากๆ เหมือนป.ตรีที่เรียนมาเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น แต่เนติ คือการเอาพื้นฐานที่เรียนมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงตามฎีกา ฎีกาบางเรื่องก็ขยายตัวบทกฎหมาย บางเรื่องก็ต้องท่องจำเพื่อไปตอบข้อสอบ ยากมากๆ เพราะมันคือการทดสอบว่าเราสามารถเอาทุกเรื่องที่เรียนตอนป.ตรีมาปรับใช้ได้มากน้อยแค่ไหน เราเข้าใจมันลึกซึ้งหรือเปล่า

การสอบจะเเบ่งเป็น 2 ภาค โดยภาค 1 เรียนขาแพ่งกับขาอาญา ภาค 2 เรียนขาวิแพ่งกับวิอาญา ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะจบเนติภายใน 1 ปีให้ได้ เราเลยลงเรียนเนติ สมัยที่ 72 และสอบทั้งสองขาของแต่ละภาคพร้อมกันหมดเลย อ่านหนังสือหนักมาก โชคดีที่เราไม่ได้ทำงานเลยมีเวลาอ่านเยอะ บวกกับลงติวด้วย ผลสอบออกปรากฎว่าเราสอบผ่านทุกขาในครั้งแรก แต่…เราไม่ผ่านวิแพ่ง (อีกแล้ว🥲) แค่วิชาเดียว ติดมาตั้งแต่สมัยที่ 73 74 และสอบผ่านสมัย 75 โดยสมัยที่ 75 เราตัดสินใจอ่านคำบรรยายแทนติว ปรากฏว่าผ่านแฮะ 😂 คิดๆแล้ว เราอาจจะไม่ถูกโฉลกกับการติววิแพ่งก็ได้มั้ง ตอนเห็นชื่อตัวเองบนประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน โคตรดีใจเลย ในที่สุดก็หมดเวรหมดกรรมสักที 😭

ใบที่ 5 ป.โท นิติศาสตร์ ศรีปทุม

เราสมัครเข้าเรียนป.โท ศรีปทุมเมื่อปี 2565 เพราะเจอโฆษณาเด้งมาหน้าเฟสบุ๊คว่าเรียนจบได้ภายใน 2 ปี ตอนแรกไม่ได้ตัดสินใจจะเรียนต่อเลยนะ แต่แฟนบอกให้ลองไปลงเรียนดู ถ้าไม่ชอบก็แค่ลาออก เราก็บ้าไปทำตามที่นางบอก ปรากฏว่าเรียนไปแล้ว ไม่ชอบการเรียนป.โทเลยยย 🥹 แต่จะให้หันหลังก็เสียดายเงิน 30,000 ที่เสียไปเลยตัดสินใจเรียนจนจบ มันคือการเรียนกฎหมายต่างประเทศเทียบกับกฎหมายไทยนี่เอง ตอนที่เครียดสุดคงจะเป็นช่วงปีที่ 2 ที่ต้องหาหัวข้อสารนิพนธ์เพื่อจะจบภายใน 2 ปีให้ได้ กว่าจะหาหัวข้อได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องหากฎหมายต่างประเทศมาเทียบเพื่อเป็นข้อเสนอแนะประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่เราตั้งขึ้น โชคดีที่เราซื้อของ shopee บ่อยเลยเอากฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายออนไลน์ละกัน 😂 ประกอบกับช่วงนั้นEUออกกฎหมายใหม่มาพอดี เลยเอามาเป็นโมเดลของสารนิพนธ์เราซะเลย พอได้หัวข้อก็ปั่นๆๆๆๆๆแล้วขยันไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาบ่อยๆๆๆ แก้ไขตามที่อาจารย์บอกจนได้ขึ้นสอบสารนิพนธ์ได้ในที่สุด ผ่านไปแปปเดียวก็จบแล้วววว จบพร้อมกับเกียรติบัตรเรียนดีที่ไม่คิดว่าจะได้ ตอนที่ลงทะเบียนจบคือดีใจมากกกกกกก เป็นไทสักที🥹

ณ ปัจจุบัน

เราทำงานเป็นทนายความของบริษัทเอกชนตรงแถวสี่พระยา พร้อมกับอ่านหนังสือสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาไปด้วย เวลาอ่านอาจจะน้อยกว่าตอนเรียนอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้ทำงาน แต่เราก็พยายามหาเวลาอ่านให้ได้มากที่สุด เป้าหมายของเรายังคงอยากเป็นอัยการและผู้พิพากษาเหมือนที่เคยฝัน แต่ไม่กดดันตัวเองเท่าที่ผ่านๆมาอีกแล้ว เราคิดว่าถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ผลของความพยายามก็คงตอบแทนเราเอง 💕

จบการรีวิว

เดี๋ยวครั้งหน้าจะมารีวิวการประกอบอาชีพทนายความกับบริษัทกฎหมายทั้ง 4 ที่ที่เราเคยทำงานนะ 🤗

#เนติบัณฑิตไทย #นิติศาสตร์ #เนติบัณฑิต #ปริญญาโท #สอบตั๋วทนาย