Lemon8 Загрузчик видео

Самый простой способ скачать видео и галерею из приложения Lemon8

มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย

มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย

Компьютер: щелкните правой кнопкой мыши и выберите "Сохранить ссылку как..." для загрузки.

PHOTOS
มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย JPEG Скачать
มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย JPEG Скачать
มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย JPEG Скачать
มาเล่าเรื่องวัยเรียนตอนเรียนรร.จีนกับรร.ไทย JPEG Скачать

เรื่องยาว เน้นๆเอาดูก็พอนะ ตัวหนังสืออาจจะโดดๆนิดนึง ไม่ได้ค่อยเขียนนานไปหน่อย

คือเราเข้าเรียนตั้งแต่เด็กมาก จำความได้ก็ตั้งแต่ 3 ขวบเข้าอนุบาลจีน (พ่อคือกลัวเราไม่ได้ภาษาจีนมาก😅)คือสร้างเรื่องวีรกรรมไว้เยอะมาก ฉบับเด็กเงียบถึงกับครูต้องยอมอ่ะ ไม่เคยโดนเรียกผู้ปกครองเลยสักครั้งเดียว

แล้วคือเราอยู่โรงเรียนจีนกับโรงเรียนไทย คือ...ระดับชั้นห่างกัน 1-2 ปี โคตรพ่อโคตรแม่เลย เรียนยากเหลือเกิน ยิ่งตอนมัธยมปลาย แทบจะท้อ

คือในวัยเรียน เราเป็นคนที่ตอบสนองช้ามาก ต้องใช้เวลาปรับตัวนานมาก เพราะตอนเด็กๆอ่ะ เราอยู่แต่กับคนไทยพูดแต่ภาษาไทย คือไม่เคยพูดภาษาจีนภาษาแม่เลย จนถึงม.1-2 ถึงจะพูดได้

แล้วคือครูโรงเรียนไทยก็ไม่ชอบเราเลย เพราะว่าเราเป็นเด็กเงียบตอบสนองช้า ป่วยบ่อยมาก ไปอ้างกับแม่แล้วว่าเราโง่เรียนไม่รู้เรื่อง คือเข้าใจนะบ้านนอกเนาะ แต่คุณครูไม่ควรพูดอย่างนี้ มันเสียความรู้สึกของเด็กมาก

จนถึงที่ว่าเราไม่อยากไปโรงเรียนไทยเลย จะไปโรงเรียนจีนก็ได้ เพราะในห้องคือเราเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด ครูก็เลยใส่ใจนิดนึงเราถึงได้ปรับตัวเร็วมากกว่าโรงเรียนไทย

เล่ารร.ไทยก่อน

จะมีอาการคล้ายๆเด็กออทิสติก โดนปรับตัวกะทันหัน

อยู่เงียบๆคนเดียวไม่พูดไม่จา ทำแต่สิ่งที่ซ้ำไปซ้ำมา

จนกระทั่งเรียนหรือป 4 รอบนี้สร้างวีรกรรมตั้งแต่แรกเลย วีรกรรมเยอะเกินเอาที่เน้นๆเล่าดีกว่า

คือเรื่องเกิดตั้งแต่อนุบาลนั่นแหละแต่เราคือไม่ได้ว่าแกอะไรเลย แล้ววันนั้นน่ะเราทำการบ้านอยู่ นางคือมันกระทืบเก้าอี้ฉัน ไม่ให้ฉันทำการบ้าน โมโหก็เลยลากเข็มขัดออกมา ฟ*ดจนแกต้องร้องขอชีวิต เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่ฉันตีคนและด่าคน 🌚 ตั้งแต่คุณครูผู้ปกครองแกจนถึงขั้นผอ. ฉันฟ้องชนะ คุณครูโดนย้ายโรงเรียน

แล้วไม่มีเรื่องอีกเลยจนถึงป 6 มาตีกันเพราะเรื่องที่ว่าเด็กผู้ชายมาแย่งการบ้านเรา คือต่อยกับเขาจนปากฉีก

แต่เราไม่ได้ทำการปฐมพยาบาลอะไรเลยจนถึงเลิกเรียน คือชุดนักเรียนเลือกอาบหมด เด็กผู้ชายคนนั้นโดนคุณครูทำโทษหนักมาก คุณครูทางนี้ก็เคยมีเรื่องกับเรารอบนึงอยู่ เพราะแกคิดว่าเราเป็นเด็กไม่ดี เราไม่ยอมรับผิด เพราะว่าไม่ใช่เราทำผิด ก็เลยไม่ได้คุยกันอีกเลยจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เรื่องที่ว่าต่อยกันปากฉีก แกรู้เรื่องความจริงย้อนหลัง 3 ปีเต็มๆ แกมาขอโทษเราแต่เราก็ไม่ให้อภัย

มัธยม

ช่วงม 2 เรื่องการบ้านอีกแล้ว คือมีเด็กผู้ชายมาบีบคอข้างหลังเราเล่น เราตักเตือนเขาแล้วเขาไม่ฟัง จนกระทั่งเราโมโหสติขาด โดนเราบีบคอต่อหน้า เกือบหายใจไม่ออก เพื่อนห้องผู้ชายคือ 5-6 คนมาห้ามเอาไม่อยู่ จนสติเรากลับมาถึงจะปล่อยมือ แล้วคือแก 1 เดือนผ่านไป ลาออกโรงเรียนเฉย อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุเราหรือว่าสาเหตุของตัวเองนะ เพราะว่าแกเป็นเด็กที่ชอบหนีเรียนอยู่แล้ว

ม 3 เจอครูที่ปรึกษาตอนปลายครั้งแรก แกทำการบ้านฉันหาย แล้วฉันจะเขียนใหม่ทั้งเล่ม ฉันไม่ยอม เถียงกับแก 1 ต่อ 1 สุดท้ายไม่ได้เขียนใหม่ แล้วก็สร้างบาปทิ้งไว้นั่นแหละ จนมาโป๊ะเชะตอนมอปลาย

คือตอนแรกเราก็อยากสอบเข้าสายศิลปะ ตัดยอดแล้วอะ ไม่อยากไปสายวิทย์ สุดท้ายทนเลือกสายคณิตอังกฤษ แล้วมาเจอกับแก ซึ่งเป็นเจ้าเวรเจ้ากรรมกับฉัน 4 ปีเต็มๆ

รอบแรกคือมีเรื่องกับครูม 4 เป็นครูภาษาไทย เขาก็ไม่ได้สอนพวกเราอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าพวกเรา คืองานกีฬาสีไม่ใช้ร่วมมือในเลย ทำตัวหยิ่งมาก และเราไปแย่งยอดการแข่งขันเขา จนเขาไม่มีคะแนนที่จะไปโปรโมทตัวเอง ลำโพงร้องไห้สอบ 10 กว่ารอบจนกว่าที่จะได้ย้ายโรงเรียน ก็หนีเราไป🌚

จนคุณครูจะเป็นลมเข้าโรงพยาบาลหลายรอบมาก เพราะฉันติด 0 คณิตหลักของแก แต่สอบผ่านคณิตเพิ่มเติม 🌚 คือแกหมดคำบรรยายมาก ไม่รู้จะสอนยังไงล่ะ ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของเขานะ เพราะตอนนั้นฉันเรียนโรงเรียนจีน ม 6 คณิตฉันก็เลยแย่ไปหมด

คือในช่วงนั้นท้อมาก เพราะไม่มีคนสอนเรา ไม่มีติวเตอร์ด้วย เราต้องมาแยกเรียน เช้าไปเรียนคณิตม 4 เย็นมาเรียนคณิตม. 6 จีน

จนกระทั่งจะจบม 6 เราคือมีเรื่องกับครูอังกฤษหลักด้วย เหมือนเดิมภาษาอังกฤษหลักตก แต่เพิ่มเติมผ่านหมด 🌚 คือเราไปหาแกเกือบ 1 อาทิตย์ ทั้งเช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ก็บอกว่าไม่ว่างไม่ก็ไม่อยู่

พอฉันไปกรอกเอกสารอยู่ร้านกาแฟใกล้ๆห้องผอ.นางเดินมาประชดประชันว่า ทำไมฉันไม่มีหาเขาก็เขาว่างอยู่บอกงี้ ทำไมตอนว่างทำไมไม่มาหา เอ้าแล้วฉันจะรู้ไหมล่ะว่าคุณว่างตอนไหน มึงนั่งว่างมึงบอกมึงไม่ว่างนั่นแหละ ฉันก็ด่าตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ ทั้งผอ.ฝ่ายปกครองนักเรียน คุณครู 3-4 ท่านได้ยินหมด เพราะเขาไม่ชอบคุณครูท่านอยู่แล้ว เขาเหมือนดูถูกเด็กคนดอยมากกว่า คือถ้าจะอยู่ในเมืองคุณก็สอบเข้าไปในเมืองเถอะ ไม่ต้องมาทำคะแนนอวบ เพราะว่าเด็กคนดอยเขาก็มีสิทธิ์ของเขา บางคนเขาอาจมีเงินมากกว่าคุณด้วยซ้ำ เพื่อเป็นงบไปเรียนมหาลัยหรือไปเรียนที่ต่างประเทศก็ได้

จะเข้าให้ พอฉันด่าเสร็จปุ๊ป นางถึงกับอึ้งแต่เงียบไปเลย เพราะว่าช่วงนั้นคือเราเหมือนคนใบ้อ่ะ แทบจะไม่พูดอะไรเลย เน้นค้นคว้าไขว่หามากกว่า เพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้เรียนเร็วเหมือนเพื่อน เราต้องตามเพื่อนให้ทัน

พอเรากรอกเอกสารที่ส่งมอบให้เสร็จ เราถึงจะไปหาเขาเพื่อมาแก้สอบ แกก็นั่งเงียบๆรอเราอยู่ตรงนั้นไปเกือบสัก 2 ชั่วโมงมั้ง ครูท่านอื่นสะใจมากตอนที่เราด่าเขา เพราะนางไม่ได้ดูถูกแค่เด็กนักเรียนก็ยังดูถูกคุณครูคนอื่นด้วย ทั้งหน้าและหลัง ไอ้เราก็ไม่เข้าใจคนแบบนี้ คือแบบที่ว่ามึงอย่าเสียเวลาฉันเลย ฉันก็แค่ขออยากสอบแก้เฉยๆ รีบเสร็จคุณก็มีเวลาพักต่อ

คือเป็นวีรกรรมที่งงมาก ช่วงแรกๆที่เกี่ยวกับการบ้านเลย คือบางคนอาจคิดว่าเด็กเชื้อสายจีนเอย นิสัยไม่ดี

ไม่เคารพคุณครู คือคุณถ้าไม่ไปเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา ไม่ไปว่าพ่อแม่เขา เขายังเคารพคุณว่าเป็นคุณครู แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไปต่อว่าพ่อแม่เขา ว่าสอนลูกมันเลว ลูกที่ไม่ดี คุณคิดว่าเขาอยากเรียนกับคุณไหม ที่คุณถามว่าเขาเลวเขาไม่ดี

คือเด็กวัยรุ่นน่ะเขาจะมีอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว ทำไมครูคนอื่นเขาถึงเข้าหากับเด็กได้ แต่คุณทำไม่ได้ เพราะคุณดูถูกคน

ต่อมามาเล่าโรงเรียนจีน จะเป็นโรงเรียนเอกชน

คือเราโดนพ่อโยนเข้าโรงเรียนจีนตั้งแต่ 3 ขวบ🌚 ป๊าเร็วไปไหม 3 ขวบเข้าอนุบาล

แล้วเราคือเด็กที่ว่าฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่องภาษาแม่ก็ไม่รู้รู้เรื่องอีก แถวบ้านนี้จะคุยคล้ายๆภาษาหนานจิง ยูนาน

คือเราคุยไม่เป็น คือใช้ภาษาไทยคุยกับแม่อย่างเดียว

แม่ก็บ่นใหญ่เลย บอกมึงเมื่อไหร่จะคุยภาษาแม่ได้

จนกระทั่งม 2 ได้รู้จักพี่ๆไต้หวัน เขามาสนทนากับเราเริ่มจากคำนึงจนถึง1 ประโยค ใช้เวลาแค่ 1 เดือน สามารถพูดภาษาหลักทางการไต้หวันได้ แล้วพี่ๆเขา 1 ปีจะมาไทย 1 ครั้ง ซึ่งเราจะมีโอกาสที่จะคุยกับคนต่างชาติได้ เราก็ฝึกแชทผ่านทางQQ คุยกับคนจีนกลางบ้าง แล้วก็คนไต้หวัน ในระยะเวลา 5 ปี

แต่ช่วงที่เรียนภาษาจีน อยู่ฉันท้อแล้วท้ออีก คือไม่มีติวเตอร์ไม่มีใครสอนเราเลย ต้องมานั่งศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเอง เรียนตัวเอง ตัวย่อตัวเต็มสลับกันไป

ซึ่งเราก็ติดสำเนียงเขามา และมีคนจีนป้าถามมาว่าทำไมเราไม่กลับประเทศจีน ไอ้เราก็งง เราเป็นคนไทยแล้วทำใหมเราต้องกลับจีน แถวนู้นก็ไม่มีบ้านเรานี่ ไปทำไม?

เป็นหนึ่งคำถามที่ตามถามสักทีชิบหาย จนถึงปัจจุบันนี้ยังมีคนถามอยู่ ว่าเราเป็นคนจีนไหม ทำไมไม่กลับจีน เป็นคนไทยเชื้อชาติจีน แถวนู้นไม่มีบ้านฉัน ถ้าฉันจะกลับฉันจะกลับบ้านฉันเองค่ะ หัวจะปวดครับคำถามนี้🌚

มีคนถามเราทำไมไม่สอบ hsk ช่วงนั้นเรียนโรงเรียนจีนไต้หวันค่ะ ไม่เรียนจีนกลาง แล้วเป็นช่วงโควิด ฉันต้องทำมาหากินค่ะ ถ้าต้องไปศึกษาต้องไปฝึกไปสอบ ใครจะเลี้ยงครอบครัว เราเอาความเป็นจริงเป็นหลัก

คือเราโอเคกับที่เรามี พอกิน พอใช้ พอเพียง ไม่โลกไม่ดูถูกใคร

ในสายตาคุณคิดว่าเด็กบางคนเขาโง่ แต่เขามีวิธีเรียนของเขาอยู่ อาจที่ว่าที่คุณสอนในวิธีนี้ใช้กับเขาไม่ได้

สมองยังกะโหลกกะลามาก เปิดทิศทางให้เยอะแล้วคุณน่ะจะได้ศึกษาค้นคว้าได้เยอะมาก

เด็กที่บ้านฉัน 2 คน ฉันไม่เคยที่ว่าเข้มงวดในเรื่องการเรียนเลย ปล่อยให้เขาไปศึกษาค้นคว้าเองก่อน ถ้าเขาไม่แน่ใจ ว่าคำตอบนี้มันถูกต้องหรือไม่ ค่อยมาถามเราก็ได้ถามคุณครูได้ แกสองคนจะเรียนเก่งมาก

แต่เรื่องใช้ชีวิตอาจจะด้อยนิดนึง ต้องคอยมาสอนใหม่จ้ำจี้จ้ำไชย #เรียนภาษาจีน #โรงเรียนเอกชน #โรงเรียนรัฐบาล #วัยเรียน #ว้าวุ่น