Lucky Girl: รีวิวการManifest หรือ ใช้กฎแรงดึงดูดให้สมหวัง💖

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราใช้วิธีคิดแบบนี้มานานมากๆแล้วค่ะ เริ่มจากแม่เราอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วก็บอกให้เราฝึกซึ่งตอนนั้นเราไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ค้านอะไร รับฟังเฉยๆ

-แต่เริ่มจากเราจะเข้ามหาลัยเลยลองทำตามซึ่งเป็นแนวคิด เรารู้สึกว่ามันไม่เสียหาย การ Manifest ในแบบฉบับเราคือคิดในสิ่งที่เราอยากได้ *ขอย้ำว่าให้คิดแต่เรื่องดีๆเท่านั้น เพราะมันจะได้แบบที่เราคิด เราติดรอบ Portfolio รอบที่1 เราสัมไม่ผ่าน แต่เราเชื่อมากๆว่าเราจะต้องได้เรียนที่นี่เลยยื่นไปอีกครั้ง ติดในรอบที่ 2

ช่วงระหว่างปี 1-2 เรายังไม่ค่อยเชื่อแบบสนิทใจ มันเลยไม่ค่อยเห็นผล วิธีที่เห็นผลที่สุดคือ ต้องเชื่อแบบไม่คาดหวัง เห็นภาพในอนาคตว่ามันเกิดขึ้นแล้ว คิดแต่สิ่งที่ดีๆเท่านั้น(หลังๆมาคือเรามีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา ซึ่งเราคิดว่ามันดีมากๆ ช่วยดึงสติไม่ให้คิดลบหรือคิดเรื่องไม่ดี)

แต่เราก็ทำมาเรื่อยๆตลอดในระยะเวลาตอนนั้น

จนมาถึงช่วงปี 3 ช่วงนี้เรามูด้วย เราศรัทธาในองค์พ่อพระพิฆเนศมากๆๆ เราไปไหว้ที่ห้วยขวาง เกิดจากช่วงนั้นเราขอทุน(จำนวนเงินเยอะเลย)ซึ่งเราได้ทุกครั้งที่ขอ รวมเราขอทุนได้ 3 ครั้ง และผ่านอุปสรรคที่คิดว่ามันหนักๆมาได้ทุกครั้ง

หลังจากนั้น ช่วงปี 3 เทอม 2 เราต้องลงฝึกงาน ซึ่งช่วงนั้นเราทำงานคู่กับเรียนเยอะมากๆ เลยยังไม่ได้ขอยื่นฝึกงานกับที่ไหนเลย จนมาถึงเดือนสุดท้ายในกำหนดการของมหาลัย เราเลยไปไหว้พระพิฆเนศและพระตรีมูรติ ขอให้เราได้ที่ฝึกงาน(เราลิสต์ไปเป็นข้อๆว่าอยากได้อะไรบ้าง) หลังจากนั้น 2 วันก็มี HR โทรมาให้สัมภาษณ์ เราสัมเสร็จแล้วได้ที่แรกแล้วซึ่งโดยรวมเราชอบนะแต่ที่นี่ไม่ให้เบี้ยเลี้ยง เราเลยคิดในใจว่าอยากได้ที่อื่นยังชอบไม่สุด หลังจากนั้นวันนึงก็มีอีกที่โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ ที่นี่เราชอบมากๆทุกอย่าง ได้ตามที่ขอ เราเลยปฏิเสธที่แรกและฝึกงานกับบริษัทที่ 2 ในความเป็นจริงคือระยะเวลาที่เราหาที่ฝึกงานมันยากมากๆเพราะจะมีช่วงที่บริษัทต่างๆรับสมัคร แต่ตอนเรายื่นคือเค้ารับสมัครกันไปเสร็จแล้ว

เราก็มูมาเรื่อยๆๆๆ แล้วก็คิดในสิ่งที่อยากได้ เรารับงานรีวิวบางอย่างที่เราอยากได้คือ เราแค่นึกหรือคิดก็จะได้ตามที่อยากได้ตลอดจริงๆ

และช่วงนี้คือช่วงที่เราคิดอะไรแล้วเราได้แบบเร็วมากๆ(ไม่เกิน 7 วัน) เช่น

-น้องสาวเราอยากเล่น ice skate เราก็แค่คิดว่าอยากพาน้องไป หลังจากนั้น 3-4 วันเค้าก็ทักมาจ้างให้เราไปรีวิว

-เราอยากดูหนังเรื่องแอเรียล ก็ได้ไปรีวิวหนัง

-เรากำลังจะเรียนจบช่วงนั้นเป็นช่วงจัดนิทรรศการ Thesis อาทิตย์สุดท้ายของเดือน พ.ค.เราอยากทำงาน Agency เราเลยคิดว่าเราต้องได้งานและเริ่มทำงานในวันที่ 1 มิ.ย. คืนนั้นเราเลยกลับไปทำ Resume(หลักการสำคัญอีกอย่างคือต้องทำตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะได้หรือสิ่งที่อยากได้)แล้วก็เริ่มส่งไป 3วันมีบริษัทเอเจนซี่เรียกเราไปสัมภาษณ์และโทรมายืนยันในวันถัดไปว่ารับเข้าทำงาน เราได้เริ่มงานวันที่ 1 มิ.ย. ที่สำคัญที่สุดคือที่ทำงานเราดีมากๆๆๆๆ โคตรดี เราโชคดีมากจริงๆ ตอนนี้ทำมาเข้าเดือนที่ 2 แล้ว

-น้องเราอีกคนอยากเล่นโบว์ลิ่ง เลยบอกให้เรารับงานโบว์ลิ่งอีก น้องบอกวันเสาร์ เราก็แค่คิดเล่นๆให้น้อง สรุปวันอังคารบริษัทติดต่อมาให้ไปรีวิวโบว์ลิ่ง

-เรากำลังจะซื้อ Blazer เมื่อวานร้าน Blazer ทักมาจ้างให้เรารีวิวและได้รับเบลเซอร์ด้วย

-เราขอให้เราได้เงินแต่ละเดือนมากกว่า xx,xxx+++ ตอนนี้เราได้ตามที่เราคิด

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องเงิน มีช่วงที่เราต้องใช้เงินก็แค่คิดว่าขอให้ได้เงินเท่านี้ๆ ในระยะเวลาเท่านี้ๆ ก็จะได้ตามที่คิดแบบงงๆ ไม่รู้ทางมาทางไปแต่ได้ทุกครั้ง

เราเลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆลองเอาไปทำตามกันดูมันไม่เสียหาย แค่คิด อาจจะไม่เชื่อแต่แค่ลองแกล้งๆทำ มันจะเห็นผลจริงๆ

สรุป 💖

-คิดแต่สิ่งดีๆเท่านั้น มีสติอยู่ตลอดเวลา

-เห็นภาพว่าเราได้รับสิ่งนั้นแล้ว

-เชื่อและศรัทธา แต่ห้ามเร่งรีบ ปล่อยใจสบายๆ

-รักษาระดับจิตใจให้มีความสุข มีความสุขเยอะๆ ยิ้มง่ายๆ มองเห็นข้อดีของทุกอย่างที่เกิดขึ้น

-รักตัวเอง เราชมตัวเองบ่อยมากๆ เห็นคุณค่าในตัวเอง

-ทำตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่อยากจะได้ ex.อยากได้งาน ก็ต้องยื่น resume สมัครงาน

#manifest #กฎแรงดึงดูด #luckygirl #manifestation #สายมู #สิ่งที่ฉันเป็น