ซิ่ว1 ปี จากเด็กเตรียมวิศวะ สู่ นานาชาติจีน

Máy tính: Nhấp chuột phải và chọn "Save link as..." để tải xuống.

PHOTOS
	JPEG	Tải xuống

บอกก่อนเลยว่า ตอนนี้เราก็ไม่ได้รู้ตัวเองขนาดนั้น

แต่กว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดเลยจริงๆ

เราเป็นเด็กที่กล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก ชอบร้อง เต้น เล่นดนตรี เป็นนักดนตรีทั้งไทยและดุริยางค์ ตั้งแต่ประถม ถึงม.ต้น

แต่ก็มีตฝจุดเปลี่ยนตอนม.ปลาย ที่บ้านอยากให้เรียนสายวิท เราเลยได้ย้ายโรงเรียน

♦️การย้ายโรงเรียนบ่อยๆทำให้ความกล้าแสดงออกของเราลดลง เริ่มกลัว และคิดเยอะ เพราะเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนเรื่อยๆทำให้เราไม่ค่อยสนิทกับใคร แล้วก็ไม่กล้าแทรกไปในกลุ่มของเพื่อนๆกลัวเค้าไม่ชอบ

(อนุบาล1โรงเรียน ,ประถม2โรงเรียน,มัธยม2โรงเรียน,มหาวิทยาลัย2แห่ง)

จากโรงเรียนหญิงล้วนม.ต้น สู่โรงเรียนสหม.ปลาย

เราเรียนสายวิท-คณิต(ห้องเตรียมวิศวะ เพราะคิดว่ามหาลัยจะเรียนวิศวะ น่าจะเท่ดี555555555)

และช่วงเวลาม.ปลาย3ปี ทำเราสับสนสุดๆ เพราะเราไม่ชอบฟิสิกส์ กับอังกฤษเลย ได้แค่ชีวะและคณิต ซึ่งก็ไม่ได้เก่ง วิชาเฉพาะทางวิศวะก็ปวดหัวสุดๆ ยากมากๆ

แต่เราก็พยายามมากเรียนพิเศษเยอะสุดๆ เกรดก็พอใช้ได้ จากเด็กสายกิจกรรมมาเรียนพิเศษเยอะๆเราเหนื่อยมาก

และเรามีความฝันมาตลอด ก็คืออยากไปเรียนต่างประเทศ ตอนม.5-6เรา ชอบนู้นนี้เยอะมากหลายคณะไม่รู้จะเอายังไง แต่ที่บ้านอยากให้เรียนสายสุขภาพ แพทย์หรือเภสัช แต่เราไม่อยากเรียน

ม.6 มีทุนไปเรียนที่จีน เราก็เลยลองขอที่บ้าน เค้าก็อนุมัติ เราก็เลยเริ่มเรียนพิเศษภาษาจีน ปรากฎว่าเราชอบและทำได้ดีมากๆๆ จนคิดว่าเสียเวลากับวิทคณิตไปทำไมตั้งนาน แต่พอมาคิดดีๆมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าวิทคณิตเป็นยังไง วิศวะเป็นยังไง ถ้ามาเจอตอนมหาลัยแล้วคงจะเปลี่ยนยาก

แต่ก็มีจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ปี63 โควิดระบาดก่อนที่เราจะบินไปที่จีน เลยทำให้ได้เรียนออนไลน์ และเนื่องจากภาษาจีนของเรายังไม่ได้เก่งแบบเด็กศิลป์จีน เลยทำให้ยากมากในการเรียนแบบออนไลน์ เรียนได้2-3เดือน ก็บอกที่บ้านว่าไม่ไหว อยากลาออก

เค้าเลยอยากให้เราลองอ่านนสติวสายสุขภาพแบบจริงจังดูอีกซักครั้ง

เราก็โอเค เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว เราอ่านนสไป ติวไปร้องไห้ไป เราต้องเรียนใหม่ตั้งแต่เนื้อหาม.4-6ภายใน3เดือน จะบ้าตายทุกวัน

พอไปสอบหลายๆที่ก็ไม่ได้เพราะเราไม่ได้มีใจขนาดนั้น

เลยคุยกับที่บ้านอีกซักครั้ง ขอเรียนที่มอกรุงเทพได้ไหมมีคณะนานาชาติจีน ดูโอเคนะ ไปสายธุรกิจก็ได้ ภาษาก็ได้ เราสามารถไปสมัครทำฑูตก็ได้ เค้าเห็นเราร้องไห้เยอะมาก เลยยอม

และการได้มาเรียนนานาชาติจีน มอกรุงเทพ ก็ทำให้เราฟื้นตัวขึ้นเยอะมากๆ ทุกอย่างมีอิสระ เราเป็นคนไม่ชอบทำตามกฎ หรืออยู่ในที่ๆมีข้อห้ามเยอะๆและเป็นข้อห้ามที่ไม่มีเหตุผล

แต่พอมีอิสระก็แฮปปี้มาก สังคม คุณครูเพื่อนๆ เชียร์อัพ ให้กำลังใจตลอด และที่นี่การกล้าแสดงออกไม่ใช่เรื่องน่าอาย ทำให้เรากล้า เริ่มทำยูทูป ถึงแม้ผู้ติดตามจะน้อย5555555555 แต่ก็ทำให้เรากล้าทำอะไรใหม่ๆ และยังได้มาเล่นในlemon ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นภาษา หรือการคิดหาธุรกิจใหม่ๆ โปรเจคต่างๆ บอกเลยมันเป็นการเหนื่อยที่สนุก แตกต่างจากแต่ก่อนมาก

ใครที่กำลังคิดเรื่องเส้นทางชีวิตลองถามตัวเองดูค่ะ

ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร บางอย่างดันทุรังไปมีแต่จะแย่

ถ้ายังพอมีโอกาส ลองคุยกับที่บ้าน ถามตัวเองพูดคุยด้วยเหตุผล บอกเส้นทางให้เค้ารับฟัง

เป็นกำลังใจให้กับหลายๆคนนะคะ ไม่มีคำว่าช้าไปสู้ๆนะ มาค้นหาตัวเองไปพร้อมๆกันค่า