Paro , BHUTAN 🇧🇹

Paro

#Bhutan 🇧🇹 ดินแดนมังกรสายฟ้าท่ามกลางเขาหิมาลัย

3 วัน 2 คืน มือใหม่หัดรีวิวครับ ไม่ขอพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าไปเที่ยวภูฏานกันครับ

DAY1: From BKK to PHU ✈️

ไฟลท์ของเราเป็นไฟลท์เช้าครับ ออกจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 06.30 น. ไปถึงพาโรประมาณ 9.30 น. (เวลาที่พาโรจะช้ากว่าเราประมาณ 1 ชม.) ส่วนชาวคณะเรานั้น นัดกันตั้งแต่ตี 2 เลยจ้า ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ กว่าจะครบองค์ประชุม ตี 3 กว่าจะได้ Check-In เราเดินทางโดย Bhutan airlines แนะนำนิดนึง ตอนเลือกที่นั่งให้เลือกฝั่งซ้ายครับ เช้ามาเราจะเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยจากหน้าต่างฟินมาก พูดได้คำเดียวว่า สวยมาก มาก มาถึงสนามบินท่าอากาศยานพาโร อากาศดีมาก น่าจะประมาณ -1 ถึง 5 องศา วิวสวยมาก นทท.ส่วนใหญ่ ลงจากเครื่องแล้วมายืนถ่ายรูป ไม่ยอมเข้าอาคารทั้งนั้น ซึ่งแน่นอน รวมถึงทางเราด้วย ถ่ายกันจนเจ้าหน้าที่เดินมาเตือนให้รีบๆ เข้าอาคารได้แล้วนะยู รับกระเป๋าออกมาแล้วเราจะพบไกด์ท่องถิ่น ใส่ชุดประจำชาติของชาวภูฏาน ทุกคนต้องใส่ชุดนี้เวลาทำงานหรือเรียนหนังสือ ชุดฝ่ายชายเรียกว่า 'โก' (Go) ชุดฝ่ายหญิงเรียกว่า 'กีร่า' (Kira) รอบรับเราและพาไปสถานีที่แรก ระหว่างทางคนที่นี่มักจะเดินเท้ากัน บางคนก็เดินไปอ่านหนังสือไปด้วย

เด็กที่นี่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะโบกมือบ๊ายบายกันตลอด ยิ้มร่าเริงเเจ่มใส ทำให้พลอยมีความสุขไปด้วย

จุดมุ่งหมายเเรก #พาโรงริงปูซอง หรือ #พาโรซ่ง ป้อมปราการและวิหารหลวงแห่งเมืองพาโร พาโรซ่งสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรู ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล จากนั้นไกดพากลับไป Check-in ที่โรงแรม ออกมาเดินเล่นในเมืองพาโรยาตอนกลางคืน กลับไปนอนพักเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ เพื่อเดิน hiking ไปจุดหมายที่ 2 ของวันต่อไป

DAY2: Paro Taktsang - Paro Drukgyal Dzong

จุดหมายที่ 1 ของวันที่ 2 พวกเราตื่นเช้ากันมากๆ เพื่อเส้นทาง hiking ที่ วัดทักซัง (Taktshang Goemba) หรือ รังเสือ (Tiger Nest) วัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูฏาน เป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในเขตหิมาลัย

ทางขึ้นเดินสวนม้าหลายตัวก็ได้แค่ทำตาละห้อยใส่ ความรู้สึกตอนนั้นคือ ฉันอยากขึ้นม้า...จนเดินมาได้ครึ่งทางเป็นที่ขายอาหาร และกาแฟ เรามากันแต่เช้าแล้วก็มาพักตรงนี้ เพื่อทานอาหาร ทานน้ำ ก่อนจะเดินขึ้นไป จากที่เดินกันจนถึงวัด ไปกลับ ประมาน 6 ชม. มนุษย์พื้นราบอย่างเราและเพื่อน ทำเอาหมดแรงกันเลยที่เดียว

ตอนนั้นเรายืนมองไปที่วัด แล้วก็คิดในใจว่าเอาไงดี ไปต่อดีไหม ร่างกายไหวรึเปล่า ถ้ารออยู่ตรงนั้นต้องรอคนเดียว กี่ชม.ไม่รู้ ..แล้วมาทำไม?? คิดจบหันไปบอกเพื่อนว่า ไปต่อ ทันที ไหนๆ ก็มาแล้วครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปให้ถึง บางช่วงของทางเดินจะเป็นมุมที่เราสามารถเห็นวัดได้ไกลๆ

และแล้วเราก็ได้พบกับสิ่งที่เรารอคอย และลากร่างขึ้นมา... เห็นวัดแล้ววววว เหมือนว่าถึงแล้ว

แต่ในความเป็นจริงคือ..เหนื่อยอีกแฮ่กอ่ะกว่าจะถึง ตรงช่วงที่เริ่มเห็นวัดจะมีที่ให้นั่งพัก มีมุมบางมุมให้ถ่ายภาพแบบ

ติดวัดอยู่ด้านหลัง ก็ถ่ายกันไปตามระเบียบครับ เหนื่อยมาถึงขนาดนี้แล้วคงไม่พลาด จากนั้นก็เดินต่อ ซึ่งจะเป็นสเตป

เดินลง...แล้วก็เดินขึ้นอีกที เป็นบันไดมีราวจับกันตก(เหว) เป็นโค้งสุดท้ายที่ต้องใช้แรงฮึดกันเลยทีเดียวแต่ก็คุ้มค่ามาก ที่สุดของการเดินทางครั้งนี้จริงๆ วิวสวย อากาศสดชื่น หายเหนื่อย ขาลงก็ไม่ต่างจากตอนขึ้นครับ แค่สบายกว่า ทำเวลาได้ดีกว่า และลื่นปรื้ดๆๆๆๆๆ เราลื่นมาแล้วสไลด์ข้างกันเลยทีเดียว

จุดมุ่งหมายที่ 2 ของวันที่ 2 Paro Drukgyal Dzong เป็นป้อมที่ใหญ่ที่สุดในภูฏาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมของสังคมภูฏาน ระหว่างทางวิวสวยมาก

หลังจากนั้นพวกพลังหมดเราบอกไกด์พาไปส่งโรงแรมได้เลย แค่นี้คุ้มค่ามากแล้ว

DAY3: PHU - BKK

เช้าวันที่ 3 หลังจากร่างกายเหนื่อยจากการเดิน hiking ที่ทักซัง เราเตรียมของกลับ ความทรงจำในสถานที่ เมือง วัฒนธรรม ผู้คนและไกด์ สถานที่ๆ เราไปมันมากกว่านี้ครับ แต่เลือกมาเฉพาะสถานที่สำคัญ อย่างใดแล้ว พาโรสำหรับพวกเรายังอยู่ในใจเราเสมอ ….

#thejourneyismylife #parobhutan #BHUTAN 🇧🇹