Cách dễ nhất để tải video Lemon8 và tải ảnh từ ứng dụng Lemon8
Máy tính: Nhấp chuột phải và chọn "Save link as..." để tải xuống.
PHOTOS | |||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống |
ข้าวยำอาหารเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า หรืออาหารกลางวัน เรียกกันในภาษามลายูท้องถิ่นว่า “นาซิเกอราบู” (Nasi kerabu) ซึ่ง “นาซิ” แปลว่า “ข้าว” ส่วน “เกอราบู” แปลว่า “ยำ” หมายถึงข้าวสุกที่คลุกกับน้ำบูดู ข้าวยำมีหลายชนิดด้วยกัน แต่จะเรียกชื่อแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ข้าวยำใบพันสมอ หรือข้าวยำนราธิวาส ข้าวยำใบยอ ข้าวยำยาหรือข้าวยำสยา เป็นต้น ต้นกำเนิดของข้าวยำนั้นสันนิษฐานว่าอยู่ทางภาคใต้ของไทยและประเทศมาเลเซีย ส่วนในแถบเอเชียยังมีข้าวยำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนก็มีอย่างเช่น “บิบิมบับ” (Bibimbap) หรือข้าวยำของเกาหลี ที่รสชาติไม่จัดจ้านมากนักมีไข่ดิบและเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบรวมอยู่ด้วย ข้าวยำเป็นอาหารจานเดียวที่มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ให้สารอาหารที่หลากหลาย เป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเนื่องจากผักในข้าวยำเป็นผักสดที่ไม่ต้องผ่านการปรุงใดๆ จึงทำให้ได้รับวิตามินต่าง ๆ ที่มีอยู่ในผักอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในข้าวยำยังให้แร่ธาตุ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ จากรายงานการวิจัยของนักวิจัย เช่น สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าข้าวยำปักษ์ใต้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะประกอบไปด้วยผักหลายชนิดที่เป็นสมุนไพร มีรสชาติ กลิ่น สีสัน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินชนชาวใต้ เอกลักษณ์ที่สำคัญของข้าวยำ ก็คือ “น้ำบูดู” รสชาติความอร่อยของข้าวยำก็ขึ้นอยู่กับน้ำบูดู น้ำบูดูที่ใช้ราดข้าวยำ หากเป็นสูตรของอิสลามแท้ ๆ จะใช้น้ำบูดูล้วน ๆ แต่ถ้าเป็นสูตรของภาคใต้ตอนบน จะมีการใช้เครื่องปรุงที่ทำให้น้ำข้าวยำมีรสชาติที่อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง “น้ำบูดู” จึงเป็นหัวใจของข้าวยำ น้ำบูดูที่ว่านี้ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย ๆ เพราะกระบวนการทำน้ำบูดูต้องอาศัยความพิถีพิถันในการหมักบ่ม เช่น ส่วนผสม และเวลาที่พอเหมาะเจาะ จึงจะได้น้ำบูดูที่อร่อยกลมกล่อมชวนลิ่มลอง
ข้าวยำเป็นมากกว่าอาหารประจำท้องถิ่นของคนใต้ แต่ข้าวยำยังมีกลิ่นอายของวิถีชีวิตรวมถึงวัฒนธรรมที่ฝังลึกมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น สะท้อนชีวิตผู้คน พืชผัก และทรัพยากรพื้นถิ่น วัฒนธรรมการบริโภคข้าวยำในแต่ละถิ่นฐาน ก็อาจจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียวต่างก็มีส่วนที่แตกต่างไปบ้างตามแต่ท้องถิ่น แม้ในภาคใต้ด้วยกันเองก็ยังมีความต่างกันโดยเฉพาะเครื่องปรุงสำคัญคือน้ำบูดู ข้าวยำที่ขึ้นชื่อของภาคใต้ นั่นก็คือข้าวยำสายบุรี จังหวัดปัตตานี ส่วนข้าวยำในจังหวัดอื่น ๆ ของภาคใต้ เช่น ที่จังหวัดสตูลก็แตกต่างกับข้าวยำในจังหวัดอื่น ๆ เนื่องจากข้าวยำจังหวัดสตูลจะเน้นไปที่หัวข่า จึงเรียกกันว่า “ข้าวยำหัวข่า” โดยจะเป็นการนำข้าวมาคลุกกับเครื่องแกงและผัก ซึ่งจะไม่ใช้น้ำบูดูเหมือนที่อื่น ๆ
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ
ข้าวยำเป็นอาหารจานเดียวที่มีสารอาหารครบ ๕ หมู่ เพราะว่านอกจากข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนไทยแล้ว ก็ยังมีพืชผักสมุนไพร มีผลไม้ ส่วนใหญ่ผลไม้ที่นิยมใช้ก็จะมีรสเปรี้ยว เช่น ส้มโอหรือมะม่วง หรือว่าบางตำรับ ก็อาจจะใช้ทั้ง ๒ อย่างผสมกัน เพื่อให้เกิดความหลากหลาย นอกจากนี้ก็มีผักซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ถั่วฝักยาวหรือถั่วงอก สมุนไพรที่เป็นหลัก ๆ ของข้าวยำก็คือตะไคร้หรือใบมะกรูดหั่นฝอย สิ่งที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับข้าวยำก็คือมะพร้าวคั่ว มะพร้าวเป็นแหล่งของไขมัน ไขมันในมะพร้าวเป็นไขมันที่อิ่มตัวซึ่งจำเป็นสำหรับอาหารที่เป็นพวกพืชผัก ผลไม้ เพราะจะช่วยในการละลายสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามินที่ละลายในไขมันหรือสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต่าง ๆ ที่เราพบในพืชผัก ผลไม้ นอกจากนี้บางตำรับก็อาจจะมีการใส่ข้าวพองการใส่ข้าวพองเข้าไปก็จะช่วยเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น ก็จะทำให้อาหารจานนั้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือน้ำปรุงรส ที่เราทราบกันก็คือน้ำบูดู น้ำบูดู ก็คือการที่นำปลามาหมักแล้วก็มาต้มเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่แล้วน้ำบูดูก็จะเค็มเป็นอันดับแรก เวลาที่นำมาปรุงรส ก็จะช่วยลดความเค็มโดยการเติมน้ำตาล ทั้งความเค็มและน้ำตาล ก็ช่วยชูรสให้อาหารอร่อยขึ้น เพราะว่าถ้าพิจารณาจากส่วนประกอบส่วนใหญ ก็จะจืดแต่จะมีความเปรี้ยวของผลไม้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีความเค็ม ความหวานเพิ่มเข้าไป ก็จะทำให้ข้าวยำมีรสชาติที่หลายหลากะอร่อยน่ารับประทาน
ข้าวยำปักษ์ใต้ที่ปรุงสำเร็จแล้วจะออกรสหลายรสด้วยกันได้แก่ รสมันของมะพร้าว รสเปรี้ยวจากมะม่วงดิบ ส้มโอ และน้ำมะนาว รสเค็มหวานจากน้ำบูดู รสเผ็ดของพริกป่น จะเรียกว่าเป็นอาหารที่บำรุงธาตุก็ไม่ผิดนักอร่อยครบเครื่องดีต่อสุขภาพและยังเชื่อว่าสามารถต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วยเนื่อง จากข้าวยำเป็นอาหารที่มีเส้นใยที่เกิดจากผักหลาย ๆ ชนิด นอกเหนือจากนั้นข้าวยำยังให้สรรพคุณทางยาหลายอย่าง จากผักนานาชนิดที่เรารับประทานเรียกได้ว่าทั้งอร่อยและให้ประโยชน์ต่อร่างกาย สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการว่า ในข้าวยำ ๑ ชุดนั้นจะให้พลังงานต่อร่างกาย ๑,๑๔๑ กิโลแคลอรี่ กล่าวได้ว่าในการรับประทานข้าวยำเพียงหนึ่งจานเราจะได้สารอาหารอย่างครบถ้วนทั้ง ๕ หมู่ก็ว่าได้ ข้าวยำจึงถูกดัดแปลงนำมาเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพลดน้ำหนัก หรือแม้แต่การล้างพิษในร่างกาย รวมถึงทำให้เลือดลมเดินได้ดีอีกด้วย ข้าวยำจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ของผู้ที่รักและดูแลสุขภาพข้าวยำในปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสีสันที่เปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง โดยการนำเอาพืชผักที่มีสีต่าง ๆ มาคั้นเอาน้ำแล้วไปหุงกับข้าว นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วยังส่งผลให้แลดูน่ารับประทานขึ้นด้วย แต่คุณค่าทางโภชนาการรวมถึงสรรพคุณทางยาของข้าวยำก็ยังคงอยู่ อาหารหนึ่งจานได้ให้อะไรมากมายกับเราหากมองลงไปลึก ๆ เราจะเห็นถึงวิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับธรรมชาติรอบตัวรวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของท้องถิ่นสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวใต้และภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของบรรพบุรุษ ที่คิดค้นข้าวยำอาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายจากส่วนผสมหลากหลายที่คลุกเคล้ากันจนเป็นข้าวยำที่ชิมแล้วต้องบอกว่าหรอยจังฮู้
ร้านอาหาร
🧑🏻🍳ชื่อร้าน:ข้าวยำนราธิวาส
✔️เมนูแนะนำ:ข้าวยำ
⭐️เรตติ้ง:⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
💰ราคาโดยเฉลี่ย:งบประมาณไม่เกิน 1,000 บาทสำหรับมื้อนี้ค่ะ
🚅 วิธีการเดินทาง: นั่งเครื่องไป