ถอดรหัส 10 บทเรียนจาก Healthy Relationship

ถอดรหัส 10 บทเรียนจาก Healthy Relationship

จาก คุณช่อ #พรรณิการ์วานิช

1) คนที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่เป็น Healthy Relationship ได้ มักเติบโตมาจากครอบครัวที่มี Attachment Style แบบ Secure คือลักษณะของการเติบโตของเขามันเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นรูปแบบความผูกพันที่ Healthy กับเด็ก เราเรียกว่า "Secure Attachment" จะทำให้เด็กเติบโตเป็นคนที่สามารถสร้างความมั่นคงปลอดภัย ความผูกพันกับคนอื่นได้ พวกเขาสามารถเชื่อใจคนอื่นและได้รับความเชื่อใจ ยอมรับที่จะได้รับความรัก ไม่กลัวความใกล้ชิด หรือไม่รู้สึกประหม่าเมื่อคนรักของเขาต้องการเวลาส่วนตัว พวกเขาเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้เป็นอย่างดี

2) เวลาที่เราเติบโตมาจากครอบครัวที่สมบูรณ์ ให้ความรักกับเราอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเรา เราจะไม่คิดพึ่งพาความสัมพันธ์ ต้องเกาะติดชีวิตกับใคร หรือต้องมีใครอยู่ด้วยตลอดเวลา ชีวิตจึงจะอยู่ได้ แต่ชีวิตเราจะแข็งแรง และอยู่ได้ด้วยตนเองก่อน เราจะรู้สึกสมบูรณ์โดยตนเอง ครอบครัวมีส่วนสำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งต่อความรักของเรา ให้เราไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต

3) คนที่รู้สึก "ขาด" และต้องการคนมาเติมเต็ม เป็นไปได้ว่า เขาไม่ได้รับความรักอย่างสมบูรณ์ และเลี้ยงดูมาอย่างดีพอ ทำให้รู้สึกไม่มั่นคง และไม่มั่นใจที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเองลำพัง ทำให้การมองความรักเป็นเรื่องของการเติมเต็ม มีคนขาดแคลน และต้องการ Jigsaw ที่เข้ามาสร้างความสมบูรณ์ให้กับตนเอง นี่ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน และมันก็สามารถเป็นรักที่ดีได้ หากมีความสุข และตอบโจทย์สิ่งที่ปรารถนาในชีวิต

4) แต่เมื่อไหร่ก็ตาม การที่เรารู้สึกขาด ทำให้เราต้องพึ่งพาอีกฝ่ายตลอดเวลา และกลายเป็นการถูก control หรือต้องทำตามสั่ง เพราะเกิดความสัมพันธ์แบบควบคุม นั่นหมายความว่า กำลังเกิด toxic relationship ที่ไม่ดีต่อตนเอง เพราะอยู่ใต้อำนาจของอีกฝ่าย จนคิดไปเองว่า ชีวิตฉันจะต้องเป็นแบบที่อีกฝ่ายพึงพอใจเท่านั้น ฉันจึงจะมีความสุข และต้องทำแบบที่เขาชอบ ไม่งั้นเขาจะลงโทษ หรือจากฉันไป Gaslighting ในความสัมพันธ์แบบควบคุม กำลังทำร้ายเราในเวลาต่อมา

5) ความรักไหนก็ตามที่ทำให้เรารักตัวเองน้อยลง รักใดก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกว่า การรักเขามากพอ ทำเพื่อเขามากพอ จะทำให้ตัวเองถูกรัก และได้รับความรัก จนลืมความเป็นตัวตน ไม่เคารพการตัดสินใจของตัวเอง ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง และหลงลืมความสุขในสิ่งที่ตัวเองรัก ตนเองอยากทำ เหลือเพียงการทำให้อีกฝ่าย happy นั่นแหละคือมันไม่ Healthy แล้ว ถ้าไม่สามารถปรับความสัมพันธ์นี้ให้มี mindset ที่ดีขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายได้ หรือไม่เดินออกมาให้ได้ ความสัมพันธ์นั้นจะกัดกินเราในที่สุด

6) ความสัมพันธ์ที่ดีจริงๆ คือวิธีคิดง่ายๆที่ว่า "ชีวิตเราต้องดีก่อน พร้อมก่อน" แล้วมีใครอีกคนหนึ่งเข้ามาที่พร้อมเหมือนกัน เป็นวงกลมที่เต็มวงโดยสมบูรณ์ แล้วเขามาส่งเสริมชีวิตกันและกันให้ดีขึ้นไปด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่ใครที่ต้องคอยพึ่งพาใครอยู่ตลอดเวลา เพราะความจริงในชีวิตคือ "ไม่มีอะไรแน่นอนและตลอดไป" นั่นหมายความว่า ไม่ว่าเขาจะอยู่ หรือไป เราต้องอยู่ได้ด้วยตนเอง นั่นแหละ Healthy กับเราจริงๆ

7) ถ้าเรารู้สึกว่าการอยู่คนเดียวมัน Healthy เรา happy กับทุกวันที่เราเป็นอยู่ โดยไม่ได้ปิดกั้น และมันลงตัวแล้ว ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้อยากมีใครในชีวิต แต่เรามีความสัมพันธ์ บนความเชื่อที่ว่า "มีอีกคนแล้วชีวิตต้องดีกว่าอยู่คนเดียว" ดังนั้น การที่เรายังไม่เจอใครที่มาตอบโจทย์ goal ในชีวิตเรา มันจึงไม่ใช่เรื่องผิด ทุกคนต่างมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเองเสมอ เราไม่โหยหา ถ้าเราพร้อม คนที่มาในวันที่พร้อมด้วยกันทั้งคู่ จะมอบความสุขให้กันและกันได้เอง ความโสดก็ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครเอา อย่าไปด้อยค่าตนเองแบบนั้น

8 ) ถ้าเรารู้สึกว่าชีวิตเราเต็มแล้ว เรา happy อยู่แล้ว ทำให้เรามีโอกาสเจอความรักที่ Healthy มากกว่าคนที่รู้สึกขาด เพราะเราจะเข้าหาคนอื่น ด้วยความรู้สึกมั่นใจในตนเอง เราสามารถบอกได้เลยว่า สิ่งนี้ใช่ สิ่งไหนเราไม่ต้องการ เราจะไม่ฝืนตัวเองในความสัมพันธ์ที่เราไม่แน่ใจ เพียงเพราะกลัวสูญเสียใครไป แต่เราจะเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่เรามั่นใจจะอยู่ เราสบายใจ และเราไม่ต้องฝืนตัวเอง เพื่อการมีความรัก โดยที่เราลืมรักตัวเอง เราจะเลือกคนที่เคารพเราในแบบที่เราเป็น และเราจะเคารพตัวตนของอีกฝ่ายเช่นกัน ด้วยการให้เกียรติที่เท่าเทียมกัน

9) ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความรู้สึกขาด เราจะเดินเข้าไปหาผู้คน ด้วยความไม่มั่นใจว่าตนเองดีพอ และเราจะไม่รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากพอ แต่จะไปแสวงหาคุณค่าจากอีกฝ่าย ให้คอบมอบคุณค่าให้เราอยู่ตลอด จนกลายเป็นว่า เราเอาชีวิตและตัวตนของเราทั้งหมด แขวนไว้กับการมีความสัมพันธ์ ทำให้อีกฝ่ายควบคุม และมีอำนาจในความสัมพันธ์เหนือเรา เพราะเราเอาคุณค่าของเราไปฝากไว้ที่เขาแล้วทั้งหมด อย่าเริ่มต้นอย่างเป็นคนที่ขาดแคลนเลยนะ

10) คุณค่าของตัวเรา จะต้องอยู่ที่เราเสมอ โดยที่ไม่มีใครมีสิทธิ์ขโมยมันไปจากเราได้ ถ้าเราเชื่อในคุณค่าของตัวเอง และเรารักตัวเองมากพอ เราจะเลือกคนที่เคารพในคุณค่าของเรา ชอบในสิ่งที่เราเป็น มองเห็นในทุกความเป็นเราอย่างชื่นชม เราไม่ต้องไปเปลี่ยนชีวิตเพื่อใครทั้งหมด เพียงแต่ปรับตัวเข้าหากันใน lifestyle ไม่ใช่การบังคับการใช้ชีวิตเพื่อให้อีกคนเป็นไปตามที่อีกฝ่าต้องการ คุณค่าจะยังอยู่กับเราเสมอ โดยที่ไม่ต้องไปมอบคุณค่าของเราไว้กับใครทั้งนั้น

คุณช่อ พรรณิการ์สะท้อนความคิดผ่านบทสัมภาษณ์นี้ได้ดีมากๆ บอยตกผลึก และแตกประเด็นมาให้ได้อ่านเพิ่มเติมกันครับ หวังว่าคุณจะเจอกับ Healthy Relationship นะครับ :)

#ตุ๊ดส์review

======

หมายเหตุ : หากครอบครัวมอบความรักในรูปแบบที่ไม่ Health ให้ลูก ไม่ว่าจะรักมากเกินไป หรือรักน้อยเกินไป จริงๆถือว่าไม่ดีทั้งนั้น และนำไปสู่พฤติกรรม และจิตใจของลูกที่บิดเบี้ยวตามลักษณะการเลี้ยงดู "รูปแบบความผูกพัน" (Attachment Styles) แบบ Anxious Attachment ทำให้เป็นคนที่มีความรู้สึกไม่มั่นคงลึกอยู่ภายใน พวกเขากลัวการถูกทอดทิ้ง พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจ ไม่ไว้วางใจในความสัมพันธ์และกลัวความคู่รักจะทิ้งเขาไป คนในกลุ่มนี้มักจะต้องการการยืดยันจากคนรอบข้างอยู่เสมอราวกับว่าพวกเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง จนอาจรู้สึกตื่นตระหนกหากคนรักของเขาไม่ได้ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับเขา ทำให้มีความยึดติดสูง

💞 #เรื่องเล่าความสัมพันธ์

💭 #คำคมความรู้สึก

❤️ #พื้นที่ปลอดภัย