"ปลาหมอคางดำ อร่อย โปรตีนสูง!"

จากข่าว #ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พลิกวิกฤติเป็นโอกาส จับมือเอกชนรับซื้อ #ปลาหมอคางดำ ดันเป็นเมนูเด็ดในโครงการ BKK Food Bank เขตบางขุนเทียน 19 ก.ค. 2567

ยอมรับว่าส่วนตัว ไม่สบายใจ เลยคิดว่าอยากเขียนเรื่องนี้ออกมาชวนคิดกัน และอยากบอกทุกคน ดังนี้ครับ

1) บอยเป็นคนที่ชื่นชมความตั้งใจในการทำงานของคุณชัชชาติมาตลอดนะ ในความขยัน ฉลาด และวางระบบการจัดการปัญหากรุงเทพได้น่าสนใจมาก แต่สิ่งที่บอยไม่ชอบในตัวคุณชัชชาติคือ เขาเป็นคนที่ "ไม่แตะโครงสร้าง และไม่ชนปัญหาแบบตรงๆ" ทำให้ไม่กล้าแตะนายทุน หรือปัญหาที่กดทับคน เน้นแก้ปัญหาแนวเส้นลือดฝอย หรือเป็น passive solution ที่มันไม่ได้ไปแก้ที่รากปัญหา ซึ่งสัมภาษณ์ชุดนี้ต่อหน้าสื่อ ทำให้บอยรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

2) แต่ต้องบอกก่อนว่า มุมคิดของคุณชัชชาติคือ คิดเชิงบวกนะ เอาวิกฤติมาสร้างสรรค์แนวทางการแก้ปัญหา และบอยโคตรเข้าใจในทุกวิธีคิดที่ดีมากๆ ที่อยากแก้วิกฤติในขณะนี้ของสถานการณ์ปลาหมอคางดำของประเทศ ให้เกิดการบริโภค ถ้าคนจับกินกันเยอะๆ มันก็จะช่วยลดปริมาณปลาชนิดนี้ลงไปได้เอง เราเข้าใจแบบ 100%

3) วิธีแก้ปัญหาคือ "การไปปรับเปลี่ยน Mindset ของคนในประเทศ" ให้รู้สึกว่ามันไม่เป็นปัญหา โดยการค้านความคิดที่อยู่ในหัวประชาชน และสลัดทิ้งวาทกรรมเดิม เช่น "ปลาหมอคางดำไม่อร่อย" หรือ 'ปลา Alien Species' ให้คนรู้สึก Positive กับปลาชนิดนี้ ด้วยการพลิกภาพลักษณ์ของสินค้า จับเอา marketing message และเอา attributes ดีๆไปเคลือบมันด้วยกลุยทธ์การตลาด ว่ามันแสนดีมากแค่ไหน น่าทานมากเพียงใด จัด chef ชื่อดังมาทำอาหารสดๆให้ดูว่าทานได้หลากหลายเมนู ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการกลบเกลื่อนปัญหามากกว่า

4) อยากให้ลองมองว่า การที่คุณชัชชาติทำแบบนี้ ก็เท่ากับเข้าทางรัฐบาล และนายทุนผู้นำเข้าปลาทันที ให้มองว่ามุมมองการรับผิดชอบของตัวเอง เป็นเรื่องผ่อนคลาย และสนุกสนาน ไม่เป็นปัญหาอีกแล้ว และได้ผลักภาระให้เป็นการรับประทาน จัดการกันเองของประชาชนไปซะ ส่วนตนเองลอยตัว

5) ปกติคุณชัชชาติเป็นคนที่มี empathy สูงมากๆ สังเกตจากทุกสัมภาษณ์ จะมีความคิดเป็นแบบโอบกอดคนทุกกลุ่ม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusivity) แต่สำหรับข้อความในสัมภาษณ์นี้ ลองคิดภาพถึงเกษตรกร ที่ทำนากุ้ง เลี้ยงปลา หรือคนทำประมง ฟังแล้วเขาจะรู้สึกหดหู่ขนาดไหน ที่คนมีอำนาจในประเทศมองปัญหาปลาชนิดนี้เป็นความบันเทิง น่าสนุก ทานได้อร่อย และมีความสุขดี อยู่บนความทุกข์ของพวกเขา ที่กำลังจะอดตาย และล้มละลาย เพราะปลาชนิดนี้ มันไมไ่ด้น่าฟัง มันเหมือนลืมชีวิตเขาไปว่า 'เขาต้องฉิบหายขนาดไหน?'

6) ส่วนตัวมองว่า ถ้ามันอร่อยจริงๆนะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าคนไทยจะไม่กิน เพราะคนไทยสุดยอดนักกิน นักทำอาหาร และสรรหาของกินได้เก่งอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะจริงๆมันไม่อร่อย และมันมีปริมาณมากจนกินไม่ทัน แล้วคนไทยก็เลือกกินของอร่อย เราไม่ได้กินทุกอย่าง พอมันไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนอยากกิน ต่อให้กระตุ้นมัน มันก็ไม่สำเร็จ มันปลอม คนดูออก ก็ไม่เกิดการบริโภค

7) คนทำผิด ไม่รับผิดชอบปัญหา แต่ประชาชนต้องมานั่งหลอกตัวเองว่า 'ฉันอร่อย มากินกันเถอะ' ราวกับคุณชัชชาติ และ event นี้ กลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของรัฐและนายทุน ที่ร่วมกันวางกลยุทธ์ให้ปลาตัวนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้มันดูไม่เป็นปัญหาซะ เพื่อให้วิกฤตินี้มันผ่านไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่เราช่วยกันกินก็จบแล้ว ไม่อยากเห็นคุณชัชชาติตกไปเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายไหนใช้คุณชัชชาติไปเป็นกระบอกเสียงพูดใน message ที่บิดเบือน บนเจตนาที่ช่วยให้คนไม่รับผิดชอบรอดตัวไปวันๆ มันจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับตัวคุณชัชชาติเองด้วยครับ

ยอมรับว่าผิดหวังกับ message ของคุณชัชชาติ และรู้สึกว่ามันเป็นการปัดความรับผิดชอบของใครบางคน และคุณกำลังช่วยพวกเขาอยู่ครับ

คนกำลังจะอดตายเพราะมัน ทำไมเอามันมามองเป็นความอร่อย บันเทิง สนุกสนานไปได้ คิดใหม่เถอะครับ วิธีแก้ปัญหามันไม่ใช่การสอนมุมมองใหม่กับประชาชนแบบนี้

"ปัญหา ก็คือ ปัญหา ตัวปัญหา ก็ยังคงเป็นตัวปัญหา ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"

#ตุ๊ดส์review