10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ Move on

10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ Move on

#LoveLesson010

#แบบฝึกรักไม่รู้ล้ม

บอยได้รับชม Series เรื่องนี้ทาง app #oneD แล้วเห็นตัวละคร 'เชฟเบนซ์' พยายามอย่างมากที่จะลืม 'กานตา' สาวคนรัก ซึ่งเพิ่งแต่งงานด้วยกันหมาดๆ ด้วย accident ในชีวิตที่คาดไม่ถึง ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างที่ตั้งใจไว้ เราจะเห็นตลอดทุก EP เชฟพยายามจะทำตัวเองให้แข็งแรง ให้ลืมคนรัก พยายามทำเป็นเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และจะเอาข้าวของ รูปภาพ ทุกๆอย่างในความทรงจำทิ้งไป แต่เขาก็ยังทำมันไม่สำเร็จอยู่ดี เขายังลืมเธอไม่ลง ฉากนี้สะท้อนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ Move on ได้ดีมาก ความเข้าใจผิดคืออะไรบ้าง?

1) การ Move on ต้องไม่พยายาม :

เราจะไม่รู้สึกกดดันตัวเองให้เกิด action ว่าต้องไปต่อ ถ้าพยายามอยู่ แสดงว่าไม่จริง ยัง Move on ไม่สำเร็จ ปลอมมาก สุดท้าย ก็ทรมานใจอยู่ดี

2) การ Move ต้องไม่เร่ง :

ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม พยายามบีบคั้นให้ตัวเอง ทำให้สำเร็จให้มันเกิดขึ้นเร็วๆให้ได้ แสดงว่านั่นไม่ใช่การ Move on ที่ดี เพราะมันต้องใช้เวลา process ตกผลึกความคิดตัวเอง ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในชีวิตยังไง ให้เราไปต่อได้

3) การ Move on ไม่ใช่การลืม :

คนเราไม่ลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น จุดเวลาที่มีผลบางอย่างกับชีวิต เราจำได้อยู่แล้ว แต่เราแค่ทำเป็นลืมๆมันไป จะได้หายเจ็บปวดไวๆ ไปต่อได้ง่าย ทั้งๆที่ เราไม่ได้ดีขึ้นเลย ยิ่งบีบให้ตัวเองลืม พอเวลานึกถึงขึ้นมาได้อีกครั้ง กลับทำให้เราหดหู่ เป็นบ้ากว่าเดิมเสียอีก ดังนั้น ที่ถูกต้องก็คือ ไม่ต้องลืม

4) Move on ไม่ใช่การทำลายอดีต :

แต่คือการอยู่กับปัจจุบัน ยังจดจำทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นได้ พูดถึงมันได้เป็นปกติ โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดกับมันอีกแล้ว กลับไปมองมันได้ด้วยความรู้สึกเฉยๆ โดยไม่ยินดียินร้าย และใช้ชีวิตได้อย่างงดงาม เป็นสุขสบายดี แม้อดีตหวนกลับเข้ามา ก็ไม่ส่งผลกระทบกระเทือนอะไรในชีวิตได้เลย

5) Move on คือความจริงข้างในใจที่สบายๆ ไม่ใช่การแสดงออกว่าตัวเองดีขึ้น :

ยิ่งโชว์ผู้คน ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าฉันแข็งแรง แสดงว่าข้างใน weak มากๆ อ่อนแอสุดๆ แล้วใช้การแสดงออกมากลบเกลื่อนความรู้สึกข้างใน ให้คนภายนอกเห็นว่าปกติดี นั่นแสดงว่าข้างในอย่างล้มเหลวอยู่ ฝืนการกระทำคือผิดธรรมชาติ เป็นการ Move on ที่ไม่จริง

6) Move on ไม่ใช่การหาใครคนใหม่ มาแทนที่คนเก่า :

การก้าวไปต่อ ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่กับคนที่ยังไม่ได้รู้สึกดีจริงๆ แล้วไปเอาเขาเข้ามาเพื่อหวังว่าความรู้สึกต่อคนเก่าจะจางหายไป อันนี้เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว เพราะเอาความเจ็บปวดทรมานของตัวเอง ไปสร้างปัญหาทางความรู้สึก ไปเป็นภาระทางใจของคนอื่น ไม่ควรทำ ไม่ใช่จริงๆ ก็อย่าทำร้ายใครที่ไม่รู้สึกกับเขามากพอ

7) Move on ต้องไม่ใช่การทำร้ายตัวเอง :

ไม่ใช่การทำให้ตัวเองยิ่งเจ็บปวด แต่จะรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ทรมานใจกับทุกการกระทำตัวเอง มันจะเป็นความพยายามเข้าใจ ทบทวนตัวเอง อยู่กับตัวเอง และมองตัวเองได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ถึงความคิดความอ่าน และความรู้สึกจริงๆ โดยไม่กล่าวโทษตัวเอง ไม่ซ้ำเติมตัวเอง ให้ยิ่งเป็นคนผิด เป็นคนไม่ดี เราไม่ตอกย้ำอดีตเพื่อฆ่าตัวเองซ้ำๆ แบบนั้น ไม่มีวัน Move on ได้

8 ) Move on ไม่ใช่การปฏิเสธความรู้สึก :

Move on คือความซื่อสัตย์ คือการยอมรับความจริง คือการรู้เท่าทันตัวเองในทุกขณะจิต และไม่มีการแสดงออกในเชิงปฏิเสธอารมณ์ทางลบของตัวเอง รู้สึกได้ตามจริง แสดงออกได้ตามปกติ ร้องไห้ได้ เสียใจได้ บ่นได้ แสดงออกถึงความหดหู่ออกมาได้เสมอ โดยไม่ต้องเก็บ และไม่ต้องทำให้เป็นปกติ ถ้าข้างในยังไม่ปกติ

9) Move on ไม่ใช่การไม่ผิดหวัง :

แต่คือการผิดหวังอย่างเข้าใจมัน ยอมรับความผิดหวัง รู้สึกล้มเหลวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่โกรธตัวเองกับความไม่สมหวังนั้น ปล่อยให้ความผิดหวังทำงานของมันไป และเข้าใจสาเหตุของมันทั้งหมด ว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น และทำไมเราจึงผิดหวัง ทุกครั้งที่รู้สึก ให้อธิบายตัวเองในทุกสิ่ง อย่างมีเหตุผล และมีคำตอบให้ตัวเองที่จะเข้าใจตัวเองให้ได้มากที่สุด

10) Move on ได้ ก็ต่อเมื่อมี empathy ต่อตัวเอง :

เห็นอกเห็นใจตัวเองเป็น สามารถที่จะโอบกอดตัวเองได้ทันทีในวันที่เศร้า ให้กำลังใจตัวเองให้เป็น ไม่รู้สึกด้อยค่าตัวเองให้ไร้คุณค่า กล้าที่จะรักตัวเองเสมอ ในวันที่รู้สึกว่าไม่มีใครรัก ก็ยังสามารถประคองชีวิตตัวเองให้ยืนหยัดได้ ท่ามกลางความล้มเหลว เลือกที่จะมีเมตตาต่อตนเอง แล้วเดี๋ยวมันจะผ่านไปได้เองนะ

ชวนมาดู Series นี้ไปด้วยกัน แล้วคุณจะเข้าใจความรักมากขึ้นครับ

#ตุ๊ดส์review #รีวิวซีรีส์