‼️แจกแพลนเที่ยวปีนัง 3วัน2คืน งบเพียง 4,000 บาท‼️

สวัสดีชาว Lemon8 ทุกคนนะคะ เมื่อเดือนมกราเราแอบนั่งรถไฟไปเที่ยวปีนังคนเดียว ฉบับนักศึกษาเวลาน้อย ด้วยงบเพียง 4,000 บาทเท่านั้น!

วันนี้เราเลยจะมาแชร์แพลนเที่ยวของเรา เผื่อใครอยากลองไปตามดูค่ะ🤩🔥

———

Day 1

สำหรับวันแรกจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนรถไฟ นั่งจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปลายทางปาดังเบซา(ลงฝั่งมาเลเซีย) รถออก 15.35 และถึงปลายทาง 9.40 เวลาท้องถิ่นมาเลเซียบนรถก็จะมีคนขึ้นมาขายของเรื่อยๆ ไม่หิวแน่นอน แต่อย่าลืมเตรียมเงินสดไปด้วยนะคะเพราะส่วนใหญ่ไม่รับสแกน เรานั่งรถไฟชั้น 2 นะคะ เป็นตู้นอนสบายเลย มีพี่เจ้าหน้าที่มาปูที่นอนให้ด้วย

ค่ารถไฟขาเดียว 1,000 บาท

ช่องทางการจอง > https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home

———

Day 2

• ตื่นเช้ามา รถไฟก็ข้ามมาถึงฝั่งมาเลเซียแล้ว เมื่อรถไฟเทียบจอดสถานีปาดังเบซา เราก็ต้องผ่านพิธีศุลกากรตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อย และขั้นตอนถัดไปคือการนั่งรถไฟ KTM จาก Padang Besar ไป Butterworth ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ค่ารถไฟประมาณ 90 บาทไทย อันนี้สามารถซื้อตั๋วรถไฟหน้าตู้ในสถานีได้เลย ตั๋วนี้ห้ามทิ้งเด็ดขาดเพราะต้องใช้แตะตอนทางออกสถานีปลายทางด้วยนะคะ

เช็คตารางรถไฟ KTM > https://www.travel-penang-malaysia.com/padang-besar-to-butterworth-ktm-komuter-schedule.html

• เมื่อถึงสถานี Butterworth ให้ไปซื้อตั๋วเฟอร์รี่ข้ามฟากเพื่อไปเกาะปีนังค่ะ ค่าตั๋วแค่ 10 บาทเท่านั้น🔥 ใช้เวลาแปปเดียวก็ถึงเกาะแล้ว

• check-in เข้าที่พัก คืนนี้เราพักที่โรงแรม iStay Hotel Georgetown คืนละ800บาท สำหรับเข้าพักคนเดียวและเตียงเดี่ยว โรงแรมใหม่ สะอาด เจ้าหน้าที่อัธยาศัยดีและให้ความช่วยเหลือเราดีมากๆ เสียอย่างเดียวคือภายในห้องพักหน้าต่างเล็กไปหน่อย

• เมื่อเก็บของเข้าที่พักเสร็จแล้ว เราก็เดินทางไปยังใจกลาง Georgetown ทันทีเพราะอยากเที่ยวแล้ว! เราเดินทางไปยัง Chulia Street เพื่อหาของกินเดินสำรวจสถาปัตยกรรมและ Street Art ต่างๆ โชคดีมากในช่วงที่เราไปปีนังจัดฉลอง Chinese New Year อยู่ด้วย เลยมีโอกาสได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวมาเลเชื้อสายจีนบนเกาะปีนัง

• Chew Jetty - ชุมชนหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆน่ารักใกล้ๆ Chulia Street ทุกคนสามารถเดินเท้าไปได้ ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ก็จะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงที่นั่นค่ะ เสียดายวันที่เราไปฟ้าครึ้มไปหน่อย

———

Day 3

• เราไปกินอาหารเช้าที่ Joja Bagels เพราะอยากกินเบเกิลมากๆ ร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็กๆที่ขายเบเกิลกับเครื่องดื่มเป็นหลัก ราคาถือว่าค่อนข้างสูง แต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลย

• หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว เราก็เดินไปต่อที่ Penang Peranakan Mansion ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่สวยมากๆ เป็น highlight สำหรับเราในทริปนี้เลย ที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวเศรษฐีมาก่อนและมีวัฒนธรรมแบบเปอรานากัน วัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ มีมากกว่า 1,000 ชิ้น และยังอยู่ในสภาพดีเกือบทุกชิ้น

ที่นี่มีค่าเข้า 20 ริงกิต หรือ 155 บาท

• ตามมาต่อกันที่ Penang City Hall ทุกคนสามารถเดินมาจาก Peranakan Mansion ได้เลย ตัวอาคารเป็นสไตล์ Colonial สีขาวแบบยุโรป คาดว่าเพราะได้รับอิทธิพลจากการที่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษค่ะ ถ่ายรูปมุมนี้เหมือนได้ฟีลไปเที่ยวยุโรปเลย

• ถนน Love Lane : เป็นถนนที่เราเดินมาเรื่อยๆแล้วเจอโดยบังเอิญ ชื่อถนนน่ารักมากและมีมุมถ่ายรูปสวยๆฮิปๆถูกใจสายทำ Content แน่นอน ถนนเส้นนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งเต็มไปหมดเลย เผื่อใครอยากลองไปตามดู

• ขากลับเรานั่งสายการบิน Thai AirAsia จาก PEN-DMK (ปีนัง-ดอนเมือง) ค่าตั๋วประมาณ 1,500 ค่ะ

——

สำหรับการเดินทางในเกาะปีนัง ทุกคนสามารถนั่ง Bus เรียก Taxi หรือเรียก Grab ได้ค่ะ ส่วนตัวเราเรียก Grab เพราะถูกกว่าประเทศไทย และไม่ได้เรียกบ่อยขนาดนั้น เราเรียก Grab แค่จากท่าเรือเฟอร์รี่-โรงแรม , โรงแรม-Chulia Street, โรงแรม-สนามบิน เท่านั้นค่ะ

รวมค่าใช้จ่ายเป็นเงินบาท

ค่ารถไฟ(ขาไป) 1,000

ค่ารถไฟ KTM Padang Besar-Butterworth 90

ค่าเฟอร์รี่ข้ามไปปีนัง 10

ค่าโรงแรม 800

ค่าตั๋วเครื่องบิน 1,500

ค่าอาหาร 1,000

ค่าเดินทางในเกาะ (เรียก Grab) 300

⭐️รวม 4,700บาท⭐️

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนสามารถปรับงบค่าอาหารและค่าเดินทางในเกาะได้ค่ะ เราค้อนข้างเต็มที่กับเรื่องกินเลยจัดหนักไปนิดนึง555555555

———

จบไปแล้วสำหรับการรีวิว หากใครมีคำถาม สามารถ comment ไว้ใต้โพสนี้ได้เลยนะคะ☺️

สุดท้ายแล้ว ฝากไอจีท่องเที่ยวเราด้วยค้าบ : https://instagram.com/tonnamroamstheworld?igshid=YmMyMTA2M2Y=

#รวมแพลนเที่ยว #เที่ยวไปเรื่อย #เที่ยวปีนัง #นั่งรถไฟไปเที่ยว #ปีนัง #ปีนังสายสตรีท #เที่ยวรอบโลก #ปีนัง2023

#ไปมาแล้ว #รีวิวสถานที่เที่ยว