อย่าพึ่งบอกตัวเองหน้าใหญ่ (ลองฉีดหน้า"เสริมคาง“ดูก่อน) ✨

ต้องบอกก่อนนะครับว่ารูปนี้ห่างกัน 2 ปี (แต่น้ำหนักเท่าเดิมนะครับ เส้าาาา 🥹) การปรับรูปหน้าต้องใจเย็นๆ นะครับ ปุ๊บปั๊บเสียเงินฟรีไม่พอดื้อยาอีก❌❌

(ตั้งแต่เด็กโตเป็นคนกรามใหญ่หน้าอ้วนมากดูจากรูป2ได้เลยครับ)

ก่อนที่จะมาเข้าคอร์สปรับรูปหน้ากับโต๋ทุกคนต้องมาทำความรู้จัก กับ โบท็อกซ์ เมโสแฟต ไฮฟู่ทุกรุ่น และก็การเสริมคาง (สำหรับคนคางสั้น) ก่อนจะไปทำความรู้จักขอเล่าเรื่องการทำคางก่อน คืองี้ครับ ด้วยความที่เราหน้ากลมมากๆ อ้วนตั้งแต่เด็ก ดังนั้นไขมันหน้าเราจะเยอะมาก โต๋เริ่มด้วยการฉีดเมโสแฟต และทำให้ไฮฟู่ก่อนในช่วงแรกๆ จำได้ว่าตอนนั้นมีคลินิกมาเปิดใหม่แถวบ้านเค้าให้โปรราคาดีเลยไปทำ แต่เนื่องด้วยตอนนั้นโต๋ฉีดเมโสแฟตทุกๆเดือน เลยทำให้ใต้คางมีไขมันน้อยแต่กลับเป็นหนังที่มันหย่อนแทน (เหตุเกิดจากพยาบาลทักว่าไขมันใต้คางมีน้อย แต่คางเราสั้น เลยทำให้ดูมีเหนียง) โอ้โห!! ทักมาขนาดนี้ จองคิวทำเลยสิครับ 5555 คนอื่นอาจพระทัก หมอทัก แต่ของโต๋เป็นพยาบาลทักครับ 😂😂 นี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องทำคาง 😒 (เอาจริงๆทำสวยนะฮะ แอบบอกหมอนิดหนึ่งแล้วกัน หมออักษรย่อ บ. คลินิกสีเขียว อยู่จังหวัดน่าน “คนพื้นที่อ๋อกันละ” หมอเนี้ยบมากจำได้ว่าวันนั้นนางดูพยาบาลฉ่ำ 555 บอกชื่อเต็มไม่ได้เพราะโพสต์นี้ก็เสียเงินทำมาเหมือนกัน 😂😂)

แต่โพสต์นี้ไม่ได้มาพูดถึงการทำคางนะครับแต่จะพูดถึงสายฉีด ก่อนที่เราจะฉีดเราต้องมารู้จักกันก่อนว่าแต่ละตัวทำหน้าที่อะไร?

หนึ่งเลย โบท็อกซ์ ตัวนี้เป็นตัวช่วยลดกล้ามเนื้อเหมาะสำหรับการฉีดกราม กรอบหน้า และลดริ้วรอย (ฉีดทั้งทีฉีดให้ครบ กราม กรอบ ริ้วรอย)

2. เมโสแฟต ตัวนี้ช่วยสลายไขมันเก่าให้กลายเป็นไขมันเหลว และเราต้องออกกำลังกายดื่มน้ำเยอะๆเพื่อขับไขมันตัวนี้ออกไปจากร่างกาย (จัดทั้งแก้มเหนียง)

3. ไฮฟู่ ไอ้เจ้าตัวนี้คือตัวยกกระชับระดับเทพยี่ห้อไหนก็ได้ลงลึกต่างกันแต่ยกกระชับเหมือนกันเหมาะสำหรับคนที่ฉีดแฟตนานๆ หน้าเริ่มหย่อน เราจะทำการยกมันขึ้นไป กรณีอายุเยอะขึ้นอาจจะต้องใช้ไหมยกกระชับเพิ่ม (แต่โต๋ยังไม่ได้ใช้ไหมนะครับ)

พอเรารู้หน้าที่ของน้องๆแล้ว เราต้องมาดูขั้นตอนการทำด้วย น้องๆสามตัวทำพร้อมกันไม่ได้นะครับ❌❌

ตัวโบท็อกซ์กับแฟตทำด้วยกันได้แต่ตัวไฮฟู่ ต้องเว้นไว้สองอาทิตย์ถึงจะทำได้ หรือทำก่อนแล้วค่อยมาฉีดก็ได้ ✅✅

ตัวโบท็อกซ์ถ้าฉีดครั้งแรกสามารถฉีดย้ำได้ในหนึ่งเดือนถัดไปแต่ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันเพื่อป้องกันการดื้อยาได้ หลังจากนั้นเว้นไว้ 6เดือน หรือ 3เดือน+ (กรณีสายรีบ สายติดกระจก😂)

เมโสแฟตฉีดได้ทุกสองอาทิตย์อยู่ที่ว่าเราพึงพอใจระดับไหนหลังฉีดจะมีอาการบวมๆ สองวันก็หาย แต่ต้องกินน้ำเยอะเยอะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

ส่วนตัวไฮฟู่ 3 ถึง 6 เดือน/ครั้งก็พอครับ ทำแค่นี้วนๆกันไป ตามปัญหาของหน้า หน้าเปลี่ยนแน่นอนครับ✅✅

ทั้งนี้ขออนุญาตไม่บอกยี่ห้อตัวฉีดนะครับเพราะสำหรับโต๋ ใช้ยี่ห้อไหนก็ได้ มันต่างกันที่การตกค้างของสาร (ทุกตัวก็ตกค้างเหมือนกัน) และความอยู่ได้นาน ของตัวที่จะฉีด แต่สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับ ความชอบของแต่ละบุคคล (จริงๆก็คือเงินในกระเป๋า 😂😂) ถ้าไหวก็ใช้ตัวแพง ไม่ไหวก็ใช้ตัวถูกครับ (สำหรับโต๋ก็ไม่ได้ต่างมาก “มั้ง” หมอมองบนละนะประโยคนี้ 555)

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์นะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ💕

#ติดเทรนด์ #โบท็อกซ์ #เมโสแฟต #ไฮฟู่ #HIFU #beautyformen #เสริมคาง #mesofat #botox #รีวิวฉบับโต๋เต๋