Cách dễ nhất để tải video Lemon8 và tải ảnh từ ứng dụng Lemon8
Máy tính: Nhấp chuột phải và chọn "Save link as..." để tải xuống.
PHOTOS | |||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống | ||
JPEG | Tải xuống |
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งกระดูกตอน 8 ขวบ
พร้อมตอบคําถามที่หลายคนอาจจะสงสัย ถ้าไม่สงสัยก็จะตอบให้ 5555 🤣
เข้าเรื่องเลยละกัน สาเหตุการเป็นมะเร็งของเต้ยเกิดการ
✨ เดิน/วิ่งไปชนท่อไอเสียมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้นานแล้ว
อาการ
✨ อาการเริ่มแรก : ฟกชํ้า / บวมเป็นปกติ
✨ อาการระยะยาว : บวมจนเห็นเส้นเลือด / ไม่สามารถเดินได้
ข้อสันนิฐานจากคุณหมอ
✨ อาจจะมีเชื้อมะเร็งอยู่แล้ว แต่ไปกระตุ้นมันถูกที่ถูกเวลาพอดี
✨ ปู่/ย่าเต้ยเสียจากมะเร็งทั้งคู่
เอาเข้าจริง หากถามว่าการเป็นคนพิการหรือตัดขาตั้งแต่เด็ก
มีความรู้สึกอย่างไร เต้ยคงตอบได้ในมุมมอง ณ ตอนนั้น
🙋🏼 ไม่ได้คิดอะไร เพราะมันทรมาน
🙋🏼 ด้วยความเป็นเด็กเลยไม่ได้คิดถึงอนาคต
แต่ในมุมมองของคนเป็นพ่อแม่ เขาก็ทําใจไม่ได้อยู่นะ
กว่าจะยอมให้เต้ยเข้ารับการผ่าตัดก็ล่อไปเกือบปี - 2 ปี
ดีที่เชื้อมะเร็งไม่ได้แพร่เชื้อไปส่วนอื่นเสียก่อน
และกว่าจะเข้ารับการผ่าตัด พ่อแม่มีอะไรดีก็พาไปหมด
✨ เปลี่ยนชื่อ
✨ พาไปเอาของออกจากตัว / บางสกุลเป็นบางสกุลตาย
✨ กินยาหม้อหมอสมหมาย
✨ พาหนีจากโรงพยาบาลตอน 4 ทุ่ม ทั้งที่จะผ่าตัดตอนเที่ยงคืน
✨ พาหนีการเข้ารับการผ่าตัด
แต่ท้ายที่สุดอาการก็ไม่ดีขึ้น นับวันมีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ
อีกทั้งเจอหมอที่เคยรักษาแล้วเขาจําได้ คุณหมอคนนั้นก็คือ
คุณหมออภิชาต (ณ ตอนนี้เป็นผู้อำนวยการ ร.พ. ศิริราช)
คุณหมอยื่นคําขาดว่า “หากไม่ผ่าตัด เขาจะไม่รักษาให้แล้ว”
จนพ่อแม่น่าจะหมดหนทางต่อสู้กับเจ้ามะเร็ง
และยอมให้คุณหมอดูแลในที่สุด
ช่วงระยะแรกก็มีการฉายแสง ให้คีโม นับเป็นช่วงที่ลําบาก
🥲 คลื่นไส้ตลอดเวลา
🥲 ไม่อยากอาหาร
😢 นํ้าหนักลด
ในส่วนค่ารักษา เอาจริงก็หนักเอาเรื่องเหมือนกัน
ถ้าพ่อไม่ได้เป็นข้าราชการก็คงเสียหายหลายล้านอยู่เหมือนกัน
📝 ค่าเอ็กซเรย์ / CT Scan ครั้งแล้วครั้งเล่า
📝 ค่าห้องพิเศษ
📝 ค่าผ่าตัด
📝 ค่ายาคีโม
แต่ด้วยความที่เต้ยเป็นมะเร็งกระดูกช่วงต้นขา
จึงจําเป็นต้องยกกระดูกขาข้างซ้ายออกไป
ทําให้การใส่ขาเทียมเป็นไปด้วยความยากลําบาก
คุณพ่อคุณแม่พาไปทําเป็นแสนก็ไม่ใส่ เพราะไม่ชิน
ด้วยความที่เราใช้ไม้คํ้ามาตั้งแต่เด็ก
ช่วงแรกก็ทําใจออกมาใช้ชีวิตยากเหมือนกันนะ
เพราะเวลาเราออกไปไหนเราก็เจอแต่สายตาที่มองเราด้วยความสงสัย มองแบบไม่คาดสายตา ณ ตอนนั้นเวลาแม่ชวนไปห้าง
หรือชวนไปไหนเราก็มักจะปฏิเสธอยู่เสมอ ด้วยความที่เราเป็นเด็ก
เราเลยไม่รู้จะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร
พอตอนขึ้นหน่อยความมั่นใจก็ยังไม่มา กลัวสายตาคนอื่นไปเสียหมด กว่าจะเริ่มชินก็เกือบตอนมหาวิทยาลัย ตอนนี้เต้ยก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้ว อาจจะเพราะความคิดที่โตขึ้น ชินมากขึ้น
แล้วนี่ก็คืปประสบการณ์แบบคร่าว ๆ หากเพื่อน ๆ คนไหนมีคําถามหรือข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับโรคมะเร็ง หรือขั้นตอนการรักษา ก็สามารถทิ้ง Comment ไว้ได้เลย เต้ยจะตอบเท่าที่ตอบได้จากประสบการณ์ของเต้ย
#แชร์ประสบการณ์เจ็บป่วย #เรื่องนี้ดีต่อใจ #ชีวิตคือการลงทุน
#กระทู้ถามตอบ #แชร์ความรู้สุขภาพ #สุขภาพใจ #ประสบการณ์เจ็บป่วย