กินรีขี่ตัวเหรา...สวยงาม วิจิตรตระการตามาก

...ผมมีโอกาสเข้าได้พักโรงเเรมไมด้า นครปฐม เมื่อเข้ามาด้านในล็อบบี้ สะดุดตากับรูปปั้นขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง เป็นกินรีขี่ตัวเหรา ซึ่งเหรานั้นเป็นสัตว์ป่าหิมพาน มีทั้งในวรรณคดีไทย ในงานศิลปะของไทยโดยเฉพาะทางภาคเหนือ และในศิลปะของพม่า อาจเรียกเป็นชื่ออื่นๆอีกคือ มกร, เบญจลักษณ์, ตัวสำรอก โดยทั่วไปจะเชื่อว่าเป็นครึ่งนาคครึ่งมังกร และยังแบ่งย่อยได้อีก 3 ชนิด คือ 1. สุบรรณเหรา (ครึ่งครุฑครึ่งเหรา) ตัวเป็นนกแบบครุฑ หัวเป็นเหรา แข้งขาเป็นสิงห์ ขนหางเป็นนก 2. สกุณเหรา (ครึ่งนกครึ่งมังกร) ตัวเป็นนก หัวเป็นมังกร มีเขา หางกระหนก ขาและเท้าเหมือนครุฑ 3. อัสดรเหรา (ครึ่งม้าครึ่งเหรา) ผิวกายสีม่วงอ่อน บ้างวาดเหมือนจระเข้ บ้างวาดออกมาเหมือนมังกร

...ในทางพุทธศาสนา เชื่อว่าตัวเหรานั้นหมายถึง ความยึดติดในตัวเอง ปรัชญาชีวิตที่เราชอบ วิธีดำรงชีวิตและสิ่งที่เราติดพันหลงไหลอยู่ ส่วนกินรีมีสีขาวและดำอย่างละครึ่งตัว หมายถึง ความดี และความชั่ว ที่อยู่ในตัวของคนเรา ดังนั้นรูปปั้นนี้จึงสื่อความหมายว่า คนเรานั้นมีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในจิตใจ ที่คอยขับเคลื่อนความเป็นตัวของตัวเองอยู่ในชีวิตประจำวัน ความหมายช่างลึกซึ้ง และทำให้ได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนด้วย

...กินรี และ กินนร เป็นอมนุษย์ในป่าหิมพานต์ ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้ ตามตำนานเล่าว่าอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาศ นับเป็นอมนุษย์ที่มีปรากฏในงานศิลปะของไทยมาก ส่วนในวรรณคดีไทยก็มีการอ้างถึงกินรีด้วยเช่นกัน

...ท้าวอิลราชประพาสป่าแล้วหลงเข้าไปในเขตหวงห้ามของพระศิวะนั้น ท้าวอิลราช และบริวารถูกสาปให้แปลงเพศเป็นหญิงทั้งหมด ต่อมานางอิลา คือ ท้าวอิลราชถูกสาป และบริวารที่มาเล่นน้ำอยู่ใกล้อาศรมของพระพุธ เมื่อพระพุธเห็นนางเข้าก็ชอบ รับนางเป็นชายา และเสกให้บริวารของนางกลายเป็น กินรี โดยบอกว่าจะหาผลาหารให้กิน และจะหากิมบุรุษให้เป็นสามี แสดงว่า กิมบุรุษ หรือ กินนร และกินรีมีต้นกำเนิดมาจากการเสกของพระพุธ

...ในงานจิตรกรรมไทยนิยมวาดภาพกินนร และกินรีไว้ในที่ต่าง ๆ ในฉากของป่าหิมพานต์ นอกจากนี้ยังมีการปั้นรูปกินนรและกินรีประดับไว้ในสถานที่สำคัญด้วย

...นางกินรี มีในวรรณกรรมของไทยหลายเรื่อง เรื่องที่แพร่หลายที่สุด คือวรรณกรรมเรื่อง พระสุธน-มโนราห์ ซึ่งตัวนางเอกเป็นนางกินรี มาจากป่าหิมพานต์และถูกจับได้เมื่อลงมาเล่นน้ำในสระ จนต้องกลายเป็นพระมเหสีของพระสุธนผู้เป็นมนุษย์ และถูกกลั่นแกล้งให้ถูกเผาทั้งเป็น แต่นางใช้อุบายหลอกขอปีกหางที่ถูกยึดไว้และบินหนีรอดมาได้ ภายหลังพระสุธนออกติดตามไปยังป่าหิมพานต์และได้พบกันในที่สุด นาฏกรรมในเรื่องนี้มีหลายชุดที่มีชื่อเสียงเป็นที่แพร่หลายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ชุด มโนราห์บูชายัญ , ระบำกินรีร่อน และระบำไกรลาศสำเริง

#สายมู #ความเชื่อส่วนบุคคล #รีวิวหมอดู #เข้าวัดเข้าวา #เช็คดวงกับlemon8