Road Trips ฟุกุโอกะ-คิวชู หน้าหนาว (ญี่ปุ่น)🇯🇵 EP.1

KYUSHU road trips 5 days 4 nights 🇯🇵

จองตั๋ว ลงเครื่องที่สนามบิน Fukuoka แล้วขับรถตามเรามาวนรอบเกาะ 4 จังหวัด แบบประหยั๊ดดดดประหยัด ภายในเวลา 5 วัน 4 คืนกันค่ะ

🚗Fukuoka

🚗Kitakyushu

🚗Yufuin

🚗Milkroad

🚗Kumamoto

🚗Nokonoshima Islands

ขอเริ่มด้วยการเตรียมตัวก่อนไป เพราะครั้งนี้คือการขับรถในต่างประเทศครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆ กลัวพลาดกลัวหลง เลยอยากแชร์ประสบการณ์นิดนึงค่ะ

🤎เริ่มต้นด้วยการหาตั๋วโปรก่อนเลยจ้า ได้ราคาตั๋ว 11,000 บาท

🤎วางแผนการขับรถก่อนเลยค่ะ ว่าเรามีที่ไหนอยากไปบ้าง ลำดับเส้นทางก่อนหลัง หาเลข Mapcode รอไว้ก่อนเลย

🤎จองรถของบริษัท Budget Rental Car จองผ่าน website : tocoo ค่ารถอยู่ที่ 16,600yen ค่ะ

🤎จองโรงแรม พอเราลิสต์ได้แล้วว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง ก็ต้องหาที่พักระหว่างวันด้วย ขั้นตอนนี้แอบยากนิดนึงตรงที่ว่า เราอยากไปถึงที่หมายก่อนมืด เพราะไม่คุ้นที่คุ้นทาง แถมยังกลัวหลง ขับซิ่งมากก็ไม่ได้ กลัวอุบัติเหตุ เพราะงั้นเรื่องนี้ต้องเป๊ะนิดนึงค่ะ

🤎อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ Wi-Fi เราจองผ่านแอพ kkday เรา router ที่สนามบินค่ะ จองไป 6 วัน ราคา 1,200 บาท สัญญาณดีตลอดทริป แต่แอบมีเครื่อง แบตหมดก่อนหมดวัน จริงๆถือว่าอึดอยู่เพราะใช้ทั้งวันด้วยแหละ

🤎 Universal Adapter ปลั๊กไฟ เอาไปเผื่อๆก็ได้นะคะ จริงๆญี่ปุ่นใช้ Type A ( 110V) ปลั๊กหัวแบนเราใช้ได้ แต่ถ้าเป็นปลั๊กกลมใช้ไม่ได้ค่ะ

🤎เงิน! จริงๆเราแนะนำให้แลกเงินติดตัวไปซักหน่อย เผื่อเราอยากกินพวก local food เพราะบางร้านไม่รับ card ค่ะ

เอาล่ะ พร้อมแล้ว ไปลุยคิวชูพร้อมกันเลยค่ะ👋

🌈DAY 1

เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมือง – ฟุกุโอกะ ทริปนี้เราเดินทางกันแบบหญิงล้วน 3 คน ใช้เวลาเดินทาง 5h 25m เวลาแลนด์ดิ้งประมาณ 7.30 น. ที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าเรา 2 ชม.ค่ะ มาถึงปุ๊บก็แยกกันไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดให้พร้อมค่ะ อากาศหนาว อยู่ที่ประมาณ 16 องศาแอบมีฝนนิดๆ จากนั้นก็เดินไปเอาwifiที่จองไว้ แค่ยื่น voucher ที่ทำการจองให้พนักงานแล้วก็เสร็จสิ้นค่ะ ง่ายและสะดวกมากๆ แต่ที่แอบยากคือการเอารถค่ะทุกคนนนน งงนิดหน่อย เพราะไม่มีพนักงานที่เค้าเตอร์ มีแค่โทรศัพท์ 1 เครื่อง แอบมองคนก่อนหน้าว่าเค้าทำยังไง แล้วก็ลองลุยดู 555 ก็คือใช้โทรศัพท์เครื่องนั้นโทรไปยืนยันตัวตนแหละค่ะ แล้วหลังจากนั้นเราก็ไปรอที่หน้าสนามบินเลย

📍 -Nanzoin Temple , Fukuoka -

วัดนันโซอิน เป็นวัดชื่อดังที่ใครก็ต้องมา เพราะเป็นวัดที่มีพระนอนขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอยู่ที่นี่ พระพุทธรูปนอนนี้ยาว 41 เมตร สูง 11 และหนักถึง 300 ตัน นอกจากพระนอนแล้วก็มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะตลอดทางด้วยค่ะ สวยงามตระการตามากๆ เป็นสถานที่ ที่ห้ามพลาด ยังไงก็ต้องมาให้ได้นะคะ

📍 - Mojiko retro, Kitakyushu -

ถึงแล้วท่าเรือโมจิโกะ ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือเก่าแก่ ที่ฮิปสุดๆ สถาปัตยกรรมของที่นี่จะเป็นสไตล์ตะวันตกเก่าแก่ผสมกับความโมเดิร์นหน่อยๆ แต่ก็มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น กว้างใหญ่ สวยงาม สะดุดตามากๆเลยค่ะ อากาศดี นั่งชิล กินลมชมวิวกันจนเย็นเลย ถ่ายรูปได้สวยทุกมุมจนงง เสียดายอย่างเดียวคือตอนที่ไปคือไม่มีแดดเลย มีแต่เมฆครึ้มๆ แต่ก็ได้ฟีลไปอีกแบบค่ะ

📌 -U&T Beppu Hostel, Beppu –

ขับรถลงใต้มาพักที่เบ็ปปุ และที่นี่เป็นโรงแรมคืนแรกของทริปนี้ค่ะ U&T เป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่อบอุ่น ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ทันสมัยสุดๆ อยู่ใกล้ๆกับ Beppu Tower

📌 -Horaiken Ramen, Beppu -

เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องกินค่ะ อากาศหนาวๆฝนๆแบบนี้ ต้องราเมนเท่านั้นจ้า เดินออกมาจากโรงแรมไม่ถึง 50 เมตร ก็จะเจอกับร้านราเมนดั้งเดิม ร้านเล็กๆ ตัวร้านมีประมาณ 3-4 โต๊ะ แล้วก็มีบาร์ประมาณ 5-6 ที่ มีเมนูภาษาอังกฤษให้ เจ้าของร้านน่ารักอีกแล้ว ยิ้มหวานเชียว เค้าสื่อสารภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ส่วนตัวเราก็จิ้มๆเมนูเอาค่ะ แต่รสชาติดีมากๆ ซุปอร่อยมีรสชาติในตัวดีมาก มีเพื่อนอีกคนสั่งแบบเผ็ดก็คือจัดจ้านกำลังดี เส้นหนึบๆหนุบๆ อร่อยมาก ที่สำคัญคือชามใหญ่มากกกกกก กินไม่หมดจ้า ราคาเริ่มต้นที่ 450yenค่ะ

🌈DAY 2

จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ Yufuin ค่ะ แต่ขอนำเสนอวิวระหว่างทางหน่อย สวยมากกกกกกก ภูเขาหญ้าสีน้ำตาลทั้งลูก ละมุนตาสุดๆค่ะ

📍 -Yunotsubo street, Yufu, Oita-

อารมณ์ถนนคนเดินของญี่ปุ่นค่ะ มีร้านขายของ ร้านขนม ร้านอาหารเรียงรายตลอดสาย ยาวประมานเกือบๆ 1 kmค่ะ ตอนเราไปคือฝนตกแถมลมแรงมากๆ แต่ทัวร์จีนกับทัวร์เกาหลีก็ยังลงมาเดินเป็นเพื่อนจนเต็มถนนอยู่ดี แวะทานอาหารอิตาเลียนร้านนึง เดินชมโน่นนี่ แล้วก็กลับค่ะ

📍 -Yufuin Floral Village, Yufu, Oita-

เป็นหมู่บ้านจำลองหลังเล็กหลังน้อยสไตล์ยุโรป เป็นตะมุตะมิน่ารัก สถานที่ที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องมา แต่สำหรับเรา มันไม่ค่อยมีอะไรนะคะ อาจจะด้วยความที่หนาวและฝนตกหนักด้วย เลยไม่ได้ซึมซับบรรยากาศเท่าที่ควรด้วยล่ะค่ะ ทัวร์เมืองยุฟุอินเลยต้องจบใน 2 ชั่วโมง

📍 -Tadewara Wetland-

ทางผ่านไป milk road ขับผ่านที่นี่ก็แวะซักหน่อย ด้วยความหอบฝนหอบพายุไปด้วยทุกที่ ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเดินชิคๆกลางทุ่งหญ้ากับเค้าหรอก แค่ลงจากรถก็จะปลิวแล้ว ลมแรงมาก หนาวจะสั่น 555 เอาหน่ะ อย่างน้อยก็ได้มาเห็นกับตาตัวเองแหละเน๊าะ

📍 -Milk road-

เส้นทางสุดฮิตที่เราประทับใจมาก เป็นถนน2เลน ที่มีรถสวนกันได้ ตลอดเส้นทางคือจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ตอนเราไปเป็นช่วงที่หญ้ากำลังแห้ง เลยเห็นเป็นสีน้ำตาลสุดสายตาเลยค่ะ เอาจริงๆชอบมากเลย สีมันเอิร์ธโทนไปหมด ผสมกับความหมอกๆฝนๆอ่ะ ดือทิสุดดดดด

เดินทางข้ามจังหวัด ไปสู่เมือง คุมาโมโตะ

📌 -Kokutei Ramen, Kumamoto-

เป็นร้านราเมนชื่อดังอีกร้าน อยู่ในย่าน Shimotori ร้านจะอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ ขนาดร้านกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ตกแต่งสบายตา ราคาอยู่ 680 – 900 yen ค่ะ ร้านนี้น้ำซุปเข้มมากกก ติดเค็มและมีกลิ่นเฉพาะตัว เรื่องรสชาติก็แล้วแต่คนชอบ ซึ่งแต่ละเมืองจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัว ชอบร้านที่เบ็บปุมากกว่า แต่ชอบหมูชาชูที่เสิร์ฟให้ เพราะชิ้นใหญ่ฟินมากค่ะ

📌 - Shimotori, Kumamoto-

เป็นย่านช็อปปิ้งขนาดใหญ่ของคุมาโมโตะค่ะ ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเมืองนี้ค่อนข้างเงียบนะคะ คนน้อย ก็น้อย แต่ร้านเปิดทุกร้านค่ะ

📌 -Swiss Konditorei, Kumamoto-

หลังจากที่เดินชมไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย บังเอิญเดินผ่านร้านเบเกอรี่หน้าตาดีร้านนึง ดูน่ารัก น่าอร่อย เลยต้องจัดซักหน่อยค่ะงานนี้

**ลงภาพได้จำกัดมากๆ ใครอยากอ่านต่อ เรียนเชิญที่ EP.2 หน้าโปรไฟล์เลยนะคะ ✅

#ติดเทรนด์ #รีวิวไปเรื่อย #รีวิวที่เที่ยว #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #เที่ยวญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น #Roadtrip #คิวชู #คิตะคิวชู #ฟุกุโอกะ