Téléchargeur vidéo Lemon8

Le moyen le plus simple de télécharger des vidéos et des galeries à partir de l'application Lemon8

เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA

เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA

Bureau : cliquez avec le bouton droit de la souris et sélectionnez "Enregistrer le lien sous..." pour télécharger.

PHOTOS
เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA JPEG Télécharger
เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA JPEG Télécharger
เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA JPEG Télécharger
เพิ่มผลตอบแทนง่ายๆ ด้วยการลงทุนแบบ VA JPEG Télécharger

กลยุทธ์การลงทุนแบบ Value averaging, ซื้อเยอะเมื่อราคาร่วง และซื้อน้อยหรือขายเมื่อราคาเพิ่ม

นักลงทุนทุกคนต้องเคยได้ยินว่าถ้าจะทำกำไรจากหุ้น ต้องซื้อถูก-ขายแพง แต่ในชีวิตจริงนั้นเรามักจะซื้อแพงและไปขายถูกซะมากกว่า , แล้วจะมีแผนการลงทุนไหนที่จะสามารถทำให้เราปฏิบัติตรงกันข้ามหรือเปล่านะ?!

ดังนั้นวันนี้ผมขอมาแชร์อีก 1 กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ ที่จะทำให้เราซื้อถูกและขายเมื่อหุ้นแพง กลยุทธ์นี้ชื่อว่า “Value averaging”

Value averaging คืออะไร?

Value averaging (VA) เป็นการลงทุนสม่ำเสมอเป็นงวด ๆ เช่นเดียวกับการลงทุนแบบ DCA เช่น ลงทุนรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี แต่จะต่างกันที่การลงทุนแบบ VA จะกำหนด”มูลค่าของพอร์ตการลงทุน” แทนการกำหนด “เงินลงทุน”

ตัวอย่าง

เป้าหมายการลงทุนคือ มูลค่าเงินในพอร์ตจะเพิ่มขึ้นปีละ 10,000 บาท ไม่ขาด ไม่เกิน

ปีแรก มูลค่าของพอร์ตเรายังคงเป็น 0 ดังนั้นเราต้องลงทุนเพิ่ม 10,000 บาทเพื่อที่จะให้มูลค่าพอร์ตก็จะเท่ากับ 10,000 บาท

ปีที่สอง, สมมุติว่าหุ้นราคาขึ้น ทำให้มูลค่าพอร์ตเดิมจากเดือนที่แล้ว 10,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 บาท ตามกลยุทธ์นี้ในปีที่ 2 เราจะต้องลงทุนเพิ่มเพียง 8,000 บาท เพื่อที่จะให้มูลค่าพอร์ตของเราเป็น 20,000 บาท ตามแผนที่จะให้มูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้น 10,000 บาททุกปี

แล้วถ้ามูลค่าก่อนปรับพอร์ตนั้นเกินเป้าที่เราตั้งไว้ ต้องทำอย่างไร?

ยกตัวอย่างเช่น ในปีที่ 5 เป้าหมายมูลค่าพอร์ตการลงทุนของเราคือ 50,000 บาท แต่มูลค่าพอร์ตการลงทุนของเราก่อนปรับพอร์ตคือ 51,000 บาท สิ่งที่เราต้องทำคือ ขายสินทรัพย์ออกมูลค่า 1,000 บาท เพื่อให้มูลค่าพอร์ตเราเป็นไปตามเป้านั่นเอง

ดังนั้นจะสรุปได้ว่า

หากมูลค่าพอร์ตเกินที่กำหนดไว้ = ขาย

หากมูลค่าพอร์ตต่ำกว่าที่กำหนดไว้ = ซื้อเพิ่ม

ทำไปเรื่อยๆเพียงเท่านี้เราก็จะได้ซื้อหุ้นมากในช่วงที่ตลาดตก และซื้อน้อยลงหรือได้ขายในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังขึ้น

แล้วผลตอบแทนเป็นอย่างไร?

หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทน, ในระยะเวลาเท่ากัน การลงทุนแบบ VA ค่อนข้างจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนแบบ DCA

แต่! หากเปรียบเทียบผลตอบแทนเป็นจำนวนเงินระยะยาวแล้วมักจะน้อยกว่าวิธีการ DCA, เพราะการลงทุนแบบ DCA เราจะได้ใส่เงินเข้าไปทุกๆเดือนทำให้มี position และการถือครองหุ้นที่เยอะกว่า ต่างจาก VA ที่หากพอร์ตขึ้นไปเยอะ การซื้อหุ้นเพิ่มก็จะน้อยตาม

แล้ว VA จะเหมาะกับใคร?

แน่นอนว่าวิธีการนี้คงไม่เหมาะกับการเทรดหรือถือระยะสั้นๆ หากจะให้ผลตอบแทนออกดอกออกผลมากที่สุดจะต้องเป็นการลงทุนระยะยาว และวิธีนี้เองก็เหมาะกับคนที่วินัยในการลงทุนสูง

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง!

1. สินทรัพย์ที่ลงทุนนั้นจะต้องเป็นขาขึ้นในระยะยาว, หากเป็นหุ้นควรเป็นหุ้นพื้นฐานดี เพราะหากเป็นขาลงยิ่งร่วง เราต้องยิ่งซื้อเพิ่ม หากร่วงไปเรื่อยๆ ดูไม่จืดแน่ๆครับ

2. อาจจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องของเราเอง เพราะบางครั้งหากสินทรัพย์ที่เราลงทุนราคาร่วงหนัก ซึ่งทำให้มูลค่าพอร์ตเราต่ำกว่าที่เป้าหมายที่ตั้งไว้มาก เราก็จำเป็นจะต้องใส่เงินเยอะเพื่อที่จะให้มูลค่าพอร์ตเรากลับไปเป็นตามเป้าหมาย

#การเงินการลงทุน #ทริคบริหารเงิน #หุ้น #VA