สิ้นเปลืองแบบผู้ดีอังกฤษ เที่ยวอังกฤษ&สกอตแลนด์ 15 วัน

วันนี้มารีวิวเที่ยวประเทศอังกฤษ & สกอตแลนด์ ทั้งหมด 15 วัน

ตอนแรกคิดว่าจะไม่ชี้แจงเรื่องงบ เนื่องจากทะลุเป้าไปไกล และไปกับพี่สาวแค่ 2 คน (ตัวหารน้อย) บอกเลยว่าการจะไปเที่ยวยุโรปให้ประหยัด ควรต้องไปกันหลายคน เพราะจะมีคนช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่เอาหน่อยแล้วกัน 🎊 เผื่อใครไปได้ถูกกว่า เนื่องจากทริปนี้จะไม่คุยเรื่องการประหยัดใดๆ แต่คิดว่าสำหรับ 15 วัน

ที่งบประมาณ 140,000 บาท 💸

สำหรับอังกฤษก็ถือว่าไม่แรงมาก

มีค่าอะไรบ้างมาดูกัน 🌟🌟🌟🌟🌟

💵ค่าตั๋วเครื่องบิน 47,000 บาท (ไปกลับ กรุงเทพ - อังกฤษ - สกอตแลนด์ - อังกฤษ - กรุงเทพ)

💵ค่าที่พัก 49,000 บาท

💵ค่าวีซ่า 6,000 บาท

💵ค่าบัตร Britrail Pass 8,500 บาท (ใช้เดินทางระหว่างเมืองต่อเนื่อง 4 วัน)

💵ค่าเดินทาง 10,000 บาท

💵ค่าอาหาร 20,000 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ไม่รวมกับที่ช้อปปิ้งซึ่งเราอย่าไปพูดถึงเลย เดี๋ยวเศร้า 🥹💸

👍🏻ข้อดีของลอนดอนคือ Cashless 100% ไม่ว่าคุณจะขึ้นรถรถไฟ เข้าซุปเปอร์ ซื้อของตามร้านเล็กๆ ข้างทาง ก็ใช้บัตรเดบิต หรือเครดิต จ่ายได้สบาย ทริปนี้เราไม่มีเงินสดติดตัวเลย

📍Day 1 สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยไฟลท์กลางคืน บิน 6 ชั่วโมง และมาต่อเครื่องที่ Abudabi 3 ชั่วโมง เพื่อบินต่ออีก 6 ชั่วโมง

📍Day 2 ถึง London Heathrow Airport แล้วจ้า เราเลือกที่พักอยู่แถว Earls Court เนื่องจากเราหารีวิวมาค่อนข้างเยอะ ปรากฏว่าได้ที่นี่ และบอกเลยไม่ผิดหวัง ที่พักห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 400 เมตร และเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย แถมอยู่ใกล้แหล่งของกินสุดๆ มีให้เลือกทุกเชื้อชาติ ไปถึงก็ตกเย็นแล้ว เข้าที่พักเก็บของ แผนของเราคือเที่ยวรอบนอกให้เรียบร้อยก่อน เนื่องจากเราซื้อบัตรรถไฟระหว่างเมืองแบบ 4 วันติดกัน ราคา 8,500 บาท แล้วค่อยกลับมาเก็บในละแวกลอนดอน วันนี้

ขอกินแบบง่ายๆด้วยเบอร์เกอร์ Jimmy’s Burger แถวบ้านแล้วกัน ที่พักจองเป็น Airbnb เหมือนเดิมเพราะต้องการครัว ไว้สำหรับทำกับข้าวกินเองบ้างบางมื้อ

📍Day 3 มุ่งหน้าสู่เมือง York ห่างจากเมืองลอนดอนประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ เมืองนี้น่ารักร้านกาแฟอร่อย แวะไปดื่มช็อกโกแลตร้อนที่ร้าน Coco Joe’s แล้วจะไม่มีวันผิดหวัง 👍🏻 นอกจากไปถ่ายโบสถ์ยอร์คมินสเตอร์ (York Minster) แล้ว อย่าลืมแวะตรอกไดแอกอนด้วย ตรงนี้เป็นจุดที่เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายหนังแฮร์รี่พอตเตอร์ ร้านกาแฟเยอะน่ารัก เราแวะกิน Brunch แบบ Afternoon tea ที่ Bettys Cafe Tea Rooms มันจะมีที่นั่งมุมดีๆถ่ายรูปสวยอยู่ 1 มุม ต้องรอจังหวะ ถ้ามีคนลุกเมื่อไหร่ก็ขอย้ายโต๊ะเลย

📍Day 4 วันนี้เดินทางไป 2 ที่คือเมือง Bath คนชอบไปเที่ยวโรงอาบน้ำกัน แต่ต้องจองไปล่วงหน้า ไม่งั้นจะไม่ได้เข้าแบบเรา ซึ่งก็ไม่เป็นไรไปเดินเล่นรอบๆแทน เจอร้านช็อกโกแลตร้านหนึ่งชื่อว่า Mrs. Pott Chocolate House เป็นร้านช็อกโกแลตที่อร่อยมาก จนใครไปลอนดอนแล้วแวะไปเมืองนี้เราจะฝากซื้อกลับมาทุกครั้งเลย

📍เนื่องจากวันนี้เราซื้อ Half Day Trip เอาไว้ช่วงบ่ายเพื่อที่จะไป Stonehenge 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ไม่ไปคงไม่ได้ ใครสนใจเราแนะนำเลยให้ซื้อทัวร์กับ Scarper Tour สะดวกมาก เราอ่านเจอในพันทิป ราคาคนละ 50 ปอนด์ ไปกลับรวมค่าเข้าชม และบัสนั่งเข้าไปข้างใน ทัวร์ใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง กลับมาถึงก็เย็นพอดี จุดรับส่งอยู่ที่เมือง Bath นี่แหละ แล้วพอกลับมาก็ขึ้นรถรถไฟกลับลอนดอน เราว่าสะดวกและคุ้มมาก สำหรับเรา Stonehenge โคตรสวยอ่ะ แต่ใครไปแล้วเจอฝนตกก็แย่หน่อย อาจจะไม่ได้รูปดีๆกลับมา คนเยอะมากถ่ายๆไปเหอะอย่าคาดหวังว่าจะไม่ติดคนเลย พยายามเข้าไปยืนใกล้กับที่กั้นก็จะมองไม่ค่อยเห็นคนแล้ว

📍Day 5 Go to Oxford กันค่ะ สำหรับเราเมืองนี้ไม่ได้มีอะไรมากมาย แค่แวะไปเที่ยวมหาลัยที่อยากเรียนที่สุดในชีวิต แต่ตอนเด็กดันไม่ตั้งใจเรียน 😂😂 นั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ แต่อยู่แค่ครึ่งวันก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อแล้ว เลยตัดสินใจนั่งรถไฟต่อไป outlet ที่ Bicester Village สอยกระเป๋าเดินทาง Samsonite กลับมาในราคาไม่ถึงหมื่น ถือว่าว่าคุ้มแล้ว 🤗

📍Day 6 ออกนอกเมืองวันสุดท้ายที่ Seven Sisters Country Park โดยนั่งรถไฟไปลงที่ Brighton และนั่งรถเมล์ต่อเข้าไป รวมรวมแล้วใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงกว่าต่อเที่ยว สำหรับเราคิดว่าถ้าจะไป seven sisters แนะนำให้เช่ารถน่าจะดีกว่า เพราะตอนกลับออกมาแทบตกรถรอบสุดท้ายเกือบไม่ได้กลับแล้ว และประเด็นสำคัญคือแทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย ลำบากมากเพราะไม่รู้ว่ารถเมล์จะมาตอนไหน สำหรับเราที่นี่มันเป็นแค่ผาหิน แล้วก็ทะเลสาบ แต่มันสวยมากๆเลย และมีคนไปนอนอาบแดดกัน บางคนก็มาแค่นั่งคุยกัน แต่ถือว่าคุ้มค่าแก่การมา เพราะสวยมากจริงๆ

📍Day 7 Britrail Pass หมดพอดี ถึงเวลาเที่ยวในเมืองลอนดอนกันบ้าง แพลนไว้ว่าจะเป็น Museum Day แต่ไม่ได้วางแผนจองมาซักอัน เลยไม่ได้เข้าที่ไหนเลย แถมฝนตกตลอด หมดกัน 🥺 เลยแวะไปช้อปปิ้งที่ Regent Street บอกเลยว่าเราหมดตัวกับที่นี่ จริงๆแล้วทริปนี้จะไม่แพงเลยถ้าไม่ช้อปปิ้ง และไปกินเป็ดย่างโฟร์ซีซั่น ต้นตำหรับในเรื่องเป็ด อร่อยแบบให้ 🌟🌟🌟🌟 ดาว

📍Day 8 Tower of London เพื่อจะไปดูหอนาฬิกา Big Ben สถานที่ในฝันที่อยากจะมาตั้งนานแล้ว แต่ปิดซ่อมอยู่ตั้งหลายปี พอเสร็จปุ๊บก็มาปั๊บเลย London Eye ที่คิดว่าอยากจะขึ้นไปนั่งสักครั้ง ก็ดันกลัวความสูงไปอีก จบกัน ช่วงบ่ายแวะไปเที่ยว Convent Garden รู้สึกแถวนี้จะเป็น Old town และแวะกินข้าวที่ Bill’s Restaurants เชื่อเถอะทุกร้านที่พิมพ์ชื่อขอตามไป จะไม่ผิดหวังเลย

📍Day 10 สะพาน Tower Bridge เก็บภาพหน่อยเดี๋ยวมาไม่ถึง และแวะไปต่อที่ตลาด Borough Market ใครไปแล้วอย่าลืมแวะไปกินไอติมโฮมเมด Gelateria 3Bis และ ซาลาเปาขาหมู BAO Borough มันดีมากกกกก แต่คืนนี้มี Dinner เป็นร้านที่จองมาตั้งแต่เมืองไทยคือร้าน duck and waffle อร่อยแบบ: 🌟🌟🌟🌟🌟 แต่ต้องจองมาล่วงหน้านะทุกคนไม่งั้นไม่มีคิว อยู่บนชั้นสูงแต่งตัวสวยๆไปถ่ายรูปเลย อร่อยจนอยากซ้ำ ซึ่งเราได้ซ้ำจริงๆแต่เป็นอีกสาขาหนึ่งที่เอดินบะระ สกอตแลนด์ 😂😂

📍Day 11 เราแวะไปเที่ยวทาง South Kensington เหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ และกลับมาเที่ยวย่าน Soho เพื่อมาลองเป็ดย่างอีกร้านนึงชื่อว่า Goldmine Restaurants เราว่าอร่อยกว่าเยอะเลย แต่มาถึงวันนี้มื้อเย็นต้องขอล้างท้องด้วยส้มตำแล้วแหละ เอาจริงๆอยากกินอาหารไทยแบบไม่ไหวแล้ว เป็นอาหารไทยมื้อละ 3,000 บาท ที่มีแค่ส้มตำปลาร้า ไก่ย่าง ยำมาม่า และกระเพรา แพงมากแต่อดไม่ไหวเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย

📍Day 12 ต้องบอกลาลอนดอนกันแล้ว เก็บกระเป๋าออกจากบ้าน AF และแวะย่าน Notting Hill กันก่อน ระหว่างทางไปสนามบิน แต่ยังไม่กลับนะ เราจะไปสกอตแลนด์กันต่อ เนื่องจากไปไฟลท์ Low Cost เราเลยเอากระเป๋าไปฝากที่สนามบิน และถือกระเป๋า Carry On ใบเดียวเพื่อบินต่อไปยัง Edinburgh ประเทศ Scotland โดยค่าฝากกระเป๋าสามวันประมาณ 1,600 บาท ถือว่าคุ้มอยู่

📍Day 13 ที่ Edinburgh Castle และ Diagon House Victoria Street ตรอกไดแอกอน ของจริงอยู่ที่นี่ค่ะ สำหรับเราเอดินบะระ เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักมาก แต่เราว่ามาประมาณ 3 วันคือพอแล้ว ด้วยความที่เป็นคนชอบที่ที่สนุกๆ ที่นี่อาจจะเงียบเกินไปสำหรับเรา ประมาณทุ่มกว่าๆ ก็เงียบกันแล้ว เอาจริงเหงาเหมือนกันหรือเพราะเริ่มคิดถึงบ้านไม่รู้

📍Day 14 ไปที่หมู่บ้าน Dean Village เป็นหมู่บ้านเล็กๆน่ารักมาก เหมาะแก่การมาเดินเล่นแล้วก็นั่งชิลๆ ซึ่งเรามาแค่นั้นจริงๆคือมานั่งชิล และหาอะไรร้อนๆดื่มซะหน่อย หลังจากนั้นก็กลับไปเดินซื้อของฝากในเมือง และซื้อเนื้อหมูมาทำสเต็กกินที่ห้องแบบเหงาๆ เหมือนคิดถึงบ้านสุดๆ

📍Day 15 อยู่มาแล้วครึ่งเดือน อยากกลับบ้านแล้ว แวะ Princes Street Gardens ซะหน่อย มุมนี้จะถ่ายขึ้นไปเห็นปราสาทด้วย หลังจากนั้นไปอำลามื้อสุดท้ายที่ duck and waffle สาขาเอดินบะระ 😂😂😂 ถ้าถามเราคือที่ลอนดอนอร่อยกว่า รู้สึกว่าเป็ดที่นี่มีกลิ่นคาวกว่าที่ลอนดอน แต่ก็ถือว่าภาพรวมสนุกมาก เป็นทริปที่ดีที่สุดตั้งแต่เราไปไปเที่ยวมาเลย

ถึงเวลาต้องบอกลาอังกฤษแล้ว แต่ก็อยากกลับบ้านเต็มทน มีหลายวันที่นอนเหม่อตื่นสาย ขี้เกียจออกไปข้างนอก 😂 คงเป็นเพราะมานานเกินด้วย แต่สำหรับเราถือว่าสนุกมาก ยอมจ่ายตั๋วแพง เนื่องจากจองกระชั้นชิด และกินดีอยู่ดีเกิน ไม่แคร์เงินในกระเป๋า ซื้อของฉ่ำ จนกระเป๋าเกินต้องส่งทางเรือกลับมาก่อน เพราะน้ำหนักเกินไปเยอะเลย จนกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว กระเป๋าที่ส่งทางเรือ ตามมาอีกเดือนให้หลัง 🤣 แต่สำหรับเราชอบลอนดอนมากเลย คิดว่าหลังจากไปเที่ยวที่อื่น คงจะต้องแวะกลับไปอีกสักครั้งนึง แล้วเดี๋ยวไว้ครั้งหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนฝากติดตามกันด้วยนะคะ 🥰🙏🏻

#เที่ยวอังกฤษ #สก็อตแลนด์ #ลอนดอน #เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง #เที่ยวไหนดี #ยัยเนลิน #ยัยเนลินจะบินไปไหนอีก