Descargador de videos Lemon8

La forma más fácil de descargar videos y galerías desde la aplicación Lemon8

แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน

แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน

Escritorio: haga clic con el botón derecho y seleccione "Guardar enlace como..." para descargar.

PHOTOS
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar
แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิส สำเร็จภายใน 4 วัน JPEG Descargar

แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิสสำเร็จภายใน 4 วัน

(ภายใต้คำแนะนำจากคุณหมอเด็กประจำตัวลูก)

ขอเกริ่นก่อนว่า การเลิกแพมเพิสไม่ใช่เรื่องง่าย โดยความสำเร็จอยู่ที่ (คุณแม่และผู้ที่ช่วยเลี้ยงเด็ก 80% ลูกต้องมีความพร้อม 20%)

คุณแม่และผู้ที่ช่วยเลี้ยงเด็ก 80% คือต้องมีความตั้งใจ ใส่ใจ สังเกตพฤติกรรม มีเวลาคอยเช็ดทำความสะอาดและเปลี่ยนกางเกง ซักเสื้อผ้า ผ้ารองกันเปื้อน ผ้าห่ม คอยปลอบใจให้กำลังใจ เมื่อลูกฉี่รดกางเกง “ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูก็ทำได้” “เดี๋ยวเราช่วยกันเช็ดทำความสะอาด แล้วไปซักผ้า ตากผ้ากันนะครับลูก” และมอบรางวัลให้เมื่อลูกทำสำเร็จ อาจมีการตกลงกันก่อนว่าถ้าลูกทำสำเร็จต้องการอะไรเป็นรางวัล

ลูกต้องมีความพร้อม 20% คือสามารถสื่อสารได้ และมีพร้อมที่อยากจะเลิกแพมเพิส

เมื่อลูกอายุ 1 ขวบ คุณแม่ได้ปรึกษาคุณหมอว่าสามารถเลิกแพมเพิสได้กี่ขวบ?

คุณหมอแนะนำว่า สามารถเลิกแพมเพิสได้เมื่อลูกพร้อม หมายถึง ลูกสามารถสื่อสารได้

บอกเราได้ว่า หนูปวดฉี่ ปวดอึแล้ว

ถ้าลูกไม่พร้อมส่งผลเสียอย่างไรคะ? ส่งผลให้ลูกเกิดความเครียด และจะมีอาการอั้นฉี่ อั้นอึ จนกลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

หลังจากนั้น คุณแม่ก็จะคอยสังเกต และถามลูกมาตลอดว่าปวดฉี่ไหม ปวดอึไหม?

ลูกตอบว่าไม่ปวด และไม่เคยบอกเราเลย หลังจากที่ฉี่หรืออึแล้ว

คุณแม่ใช้วิธีสังเกตเองว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกปวดอึ จะหยุดทำทุกอย่าง แล้วมีการเกร็งตัว คุณแม่จะรีบให้พี่เลี้ยงเข้าไปดูว่าน้องอึไหม ถ้าอึก็ให้พาไปล้างก้น โดยใช้บันไดชักโครกฝึกนั่งให้คุ้นชิน ฝึกนั่งเฉพาะตอนล้างก้นมาเรื่อยๆ โดยที่ยังสื่อสารกับเราไม่ได้ วิธีนี้ช่วยให้เราประหยัดค่าทิชชู่เปียกไปได้มากโข แต่ฉี่ยังจับจังหวะเวลาไม่ได้ว่าฉี่ไปตอนไหน ถ้าไม่ได้ดูที่แถบสีของแพมเพิส

เมื่อลูกอายุ 2 ขวบ 3 เดือน (ช่วงนี้ได้ซื้อกางเกงในมารอไว้แล้ว) คุณแม่ก็ถามน้องสฒรองว่าพร้อมที่จะเลิกแพมเพิสหรือยัง คำตอบที่ได้คือ “ยังไม่พร้อม”

เมื่อลูกอายุ 2 ขวบ 6 เดือน ให้ลองใส่กางเกงใน แล้วถามว่าชอบไหมมันโล่งก้นไหมลูก มันดีกว่าใส่แพมเพิสไหมครับ?

คำตอบคือ ใส่กางเกงในสบายกว่าใส่แพมเพิส และช่วงนี้มีอาการชอบดึงแพมเพิสออก คงเพราะร้อน และอึดอัดจู๋กับก้น

มีวันนึงเดินมาถามคุณแม่ว่า ตองไม่ใส่เพิสได้ไหมครับ?

คุณแม่ตอบว่า ได้ครับ แต่ลูกต้องช่วยบอกให้ได้ก่อนว่าลูกปวดฉี่ปวดอึแล้ว พาเข้าห้องน้ำหน่อย

หลังจากที่คุยกัน ลูกก็เริ่มบอกคุณแม่กับพี่เลี้ยงได้ว่า คุณแม่ๆ ตองปวดอึ ทางเราก็รีบพาขึ้นนั่งชักโครกเลย แต่ฉี่นี่ยังไม่บอก ก็เลยยังให้ใส่แพมเพิสต่อไป

จนเมื่อวันที่ 4 กย. ที่ผ่านมามีนัดพบคุณหมอและฉีควัคซีน เลยถามคุณหมอว่า สฒรองบอกได้ว่าปวดอึ แต่ปวดฉี่ยังบอกไม่ได้ คุณหมอเลย ให้คำแนะนำว่า สฒรองมีความพร้อมที่จะเลิกเพิสแล้วค่ะ ให้เปลี่ยนมาใส่กางเกงในได้เลย ขอที่เป็นกางเกงในธรรมดา (ไม่ใช่กางเกงในซับฉี่นะคะ เพราะมันไม่ต่างกับการใส่แพมเพิส และไม่ระบายความร้อนทำให้เด็กอึดอัดได้)ให้ใส่กางเกงในทั้งวันไปเลยค่ะ กลางคืนไม่ใส่แพมเพิสนอนแล้วนะคะ สู้ๆ ครับสฒรอง

หลังจากพบคุณหมอแล้ว ขอเวลาคุณแม่ คุณพ่อ คุณตา คุณยาย พี่เลี้ยง ทำใจสองสามวัน

มาค่ะ เริ่ม พวกเราพร้อมแล้ว

วันที่ 7 กย. (วันแรก) ของการเลิกแพมเพิส โดยมีคุณแม่ คุณตา คุณยาย เท่านั้น (พี่เลี้ยง ขอลาไปทำธุระพอดี)

ช่วงเช้า เราทุกคนไม่มีใครรู้เลยว่า สฒรองจะฉี่ตอนไหน ฉี่ตอนกี่โมง เราใช้วิธีถามทุกชั่วโมงหลังจากที่เริ่มใส่กางเกงในตัวแรก เราเริ่มต้นใส่กางเกงในตัวแรกหลังจากที่ทานข้าวเช้า อาบน้ำ แปรงฟันเรียบร้อยแล้ว

ผ่านไป 1 ชม. ก็ถามว่าปวดไหม? ตอบ ไม่ปวด ถามกันจนเครียด บางทีก็ฉี่ก่อนครบชม.

ช่วงกลางคืน ให้งดดื่มน้ำ ดื่มนม ก่อนเข้านอน 1-2 ชม. ถ้าหิวให้แค่จิบๆ เท่านั้น และให้ฉี่ก่อนเข้านอน จากนั้นแม่จะคอยถามทุกชั่วโมงตั้งแต่เริ่มเข้านอนถึงเช้า

ปวดบ้างไม่ปวดบ้าง ลุกไปฉี่เองบ้าง ให้แม่จับจู๋ใส่กระบอกฉี่บ้าง ตอนถามไม่ปวด พอแม่หลับเท่านั้น ลูกก็ฉี่รดผ้ารองกันเปื้อนเฉย ช่วงประมาณตี 3 กว่าๆ แม่ก็จับเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้ารองกันเปื้อนผ้าห่มให้ใหม่ เช้ามาแม่ตาโบ๋เลยค่ะ แต่แม่ยังรักษาที่นอนไว้ได้ ต้องขอบคุณผ้ารองกันเปื้อนมากๆ ค่ะ

สรุปวันแรก

ช่วงเช้า (รวมถึงการนอนกลางวัน ตอนบ่ายโมง) ให้ใส่แต่เสื้อกล้าม+กางเกงใน มีเปลี่ยนเฉพาะกางเกงใน 3 ตัว

ช่วงกลางคืน ให้ใส่ชุดนอน มีเปลี่ยนกางเกงใน กางเกงนอน ผ้าห่ม ผ้ารองกันเปื้อน 1 set

ฉี่ในโถทันบ้างไม่ทันบ้าง

วันที่ 8 กย. (วันที่สอง) ของการเลิกแพมเพิส

ช่วงเช้า เราก็ยังทำเหมือนวันแรก เพราะยังจับทางไม่ได้ ทีมดูแลเด็กหันมาคุยกันว่าเราจะไม่ถามแล้วเพราะรู้สึกว่าจะเครียดเกินไป ถ้าลูกฉี่รดกางเกง ให้บอกลูกว่า “ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูก็ทำได้” “เดี๋ยวเราช่วยกันเช็ดทำความสะอาด แล้วไปซักผ้า ตากผ้ากันนะลูก” ลูกได้เรียนรู้ว่าถ้าไม่บอกหรือไม่ไปฉี่ในโถ กางเกงก็จะเปียก ต้องไปล้างตัว ต้องทำความสะอาด ต้องซักผ้า ตากผ้าเอง

ช่วงกลางคืน ให้งดดื่มน้ำ ดื่มนม ก่อนเข้านอน 1-2 ชม. ถ้าหิวให้แค่จิบๆ เท่านั้น และให้ฉี่ก่อนเข้านอน จากนั้นแม่จะคอยถามทุกชั่วโมงตั้งแต่เริ่มเข้านอนถึงเช้า

สรุปวันที่สอง

ช่วงเช้า (รวมถึงการนอนกลางวัน ตอนบ่ายโมง) ให้ใส่แต่เสื้อกล้าม+กางเกงใน มีเปลี่ยนเฉพาะกางเกงใน 1 ตัว เพราะวิ่งไปที่โถฉี่ไม่ทัน เปลี่ยนกางเกงน้อยลงเพราะเริ่มเดินไปฉี่ที่โถเองได้

ช่วงกลางคืน ให้ใส่ชุดนอน ไม่ฉี่รดผ้ารองกันเปื้อน ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย คงจะกลัวเปียกเลยอั้นฉี่ช่วงที่แม่ไม่ได้ปลุกให้ลุกไปฉี่

วันที่ 9 กย. (วันที่สาม) ของการเลิกแพมเพิส

ช่วงเช้า ทุกครั้งที่ปวดฉี่จะวิ่งไปฉี่เองได้ทัน

ช่วงกลางคืน ให้งดดื่มน้ำ ดื่มนม ก่อนเข้านอน 1-2 ชม. ถ้าหิวให้แค่จิบๆ เท่านั้น และให้ฉี่ก่อนเข้านอน จากนั้นแม่จะคอยถามเฉพาะช่วงที่ลูกเริ่มไม่สบายตัว ผลิกตัวไปมา หรือร้องไห้ ไม่ถามทุกชั่วโมงแล้วค่ะ แม่ไม่ไหว

สรุปวันที่สาม

ช่วงเช้า (รวมถึงการนอนกลางวัน ตอนบ่ายโมง) ให้ใส่แต่เสื้อกล้าม+กางเกงใน ไม่มีฉี่รดกางเกงแล้วค่ะ ไปฉี่ที่โถเองได้แล้ว

ช่วงกลางคืน ให้ใส่ชุดนอน มีเปลี่ยนกางเกงใน กางเกงนอน ผ้าห่ม ผ้ารองกันเปื้อน 2 set เป็นเพราะเหนื่อยกันทั้งแม่ทั้งลูก แม่ปล่อยจอย

วันที่ 10 กย. (วันที่สี่) ของการเลิกแพมเพิส

ช่วงเช้า ทุกครั้งที่ปวดฉี่จะวิ่งไปฉี่เองได้ทัน ขนาดเล่นน้ำในสระยังขอวิ่งออกมาฉี่ข้างนอกสระน้ำได้เลย

ช่วงกลางคืน ให้งดดื่มน้ำ ดื่มนม ก่อนเข้านอน 1-2 ชม. ถ้าหิวให้แค่จิบๆเท่านั้น และให้ฉี่ก่อนเข้านอน จากนั้นแม่จะคอยถามเฉพาะช่วงที่ลูกเริ่มไม่สบายตัว ผลิกตัวไปมา หรือร้องไห้ ไม่ถามทุกชั่วโมงแล้วค่ะ แม่ขอนอนยาวๆ

สรุปวันที่สี่

ช่วงเช้า (รวมถึงการนอนกลางวัน ตอนบ่ายโมง) ให้ใส่แต่เสื้อกล้าม+กางเกงใน ไม่มีฉี่รดกางเกงแล้วค่ะ ไปฉี่ที่โถเองได้แล้ว

ช่วงกลางคืน ให้ใส่ชุดนอน ไม่มีฉี่รดผ้ารองกันเปื้อน ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย

และแล้วลูกก็เลิกแพมเพิสสำเร็จ วันต่อๆ มา ก็ใส่เสื้อผ้าปรกติค่ะ สิ่งที่ขาดหายไปคือแพมเพิสค่ะ

ยินดีด้วยกับน้องสฒรอง เลิกแพมเพิสได้ในวัย 2 ขวบ 7 เดือน

แพมเพิสที่เหลือ 1 ลัง คุณแม่ก็ไปโพสต์ขายในกลุ่มคุณแม่ป้ายยา ขอบคุณคุณแม่ในกลุ่มมากๆค่ะที่อุดหนุนกัน

หมายเหตุ

1.เทคนิค หากถ้าลูกไม่สบายตัว ผลิกตัวไปมา หรือร้องไห้ ให้ถามว่าปวดฉี่ไหม แล้วพาไปฉี่

2.การพาอึ สฒรองบอกได้และวิ่งพากันเข้าห้องน้ำได้แล้วจึงไม่ได้ลงรายละเอียดไว้ให้นะคะ

มาถึงตัวช่วยเสริมที่ทำให้เลิกแพมเพิสสำเร็จมีดังนี้ (สำหรับเด็กผู้ชาย) คุณแม่แปะ link ให้แล้วค่ะ ตามไปตำกันได้เลย📍พิกัดร้านโปรด:

1.เปลี่ยนจากแพมเพิส เป็นกางเกงใน ที่ไม่ใช่ กางเกงในซับฉี่

https://shope.ee/5fMuAk9BIb

2.โถฉี่

กลางวันช่วงแรก จะวางไว้ใกล้ๆ ที่ลูกทำกิจกรรม พอเริ่มเก่งจะย้ายไปวางหน้าห้องน้ำ ถ้าเก่งมากขึ้นจะย้ายเข้าไปในห้องน้ำ เพราะลูกยังอั้นไม่เก่ง บอกปวดปุ๊บไหลปั๊บ

ช่วงกลางคืนจะวางไว้ใกล้เตียง

โถฉี่เจ้าชาย

https://shope.ee/6Kcaqmk0rS

โถฉี่น้องหมี

https://shope.ee/6Uw13BTgeE

3.กระบอกฉี่แบบพกพา (ใช้กลางคืนในช่วงแรก และกรณีอยู่ระหว่างเดินทาง)

https://shope.ee/3fbpex4KG6

4.บันไดชักโครก วางไว้ในห้องน้ำ

https://shope.ee/10b4Ucmji7

5.กระโถนแบบพกพา (กรณีอยู่ระหว่างเดินทาง)

https://shope.ee/8KNfDrMLCZ

6.ผ้าปูรองฉี่

https://shope.ee/8zdM5QYKiQ

7.ทิชชู่เปียก

https://shope.ee/2An235ex5p

8.ผ้าเช็ดมือ

https://shope.ee/6pYrbWV9Xs

9.ที่ใส่ถุงเก็บอึ

https://shope.ee/1fqlHMaO3B

-ข้อมูลน้อง Strong

อายุ 6 เดือน ทานข้าวได้เอง (BLW)

อายุ 8 เดือน เริ่มเดินได้

อายุ 11 เดือน เริ่มพูดอ้อแอ้ ฟังคำสั่งให้หยิบโน้นนี่นั่นให้ได้ เริ่มใช้การใช้งานได้บ้างแล้ว

อายุ 2 ขวบ พูดได้แบบสื่อสารได้รู้เรื่อง ที่สำคัญเถียงแม่เก่ง

อายุ 2 ขวบ 7 เดือน เลิกแพมเพิสสำเร็จ

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ คุณพ่อ ทุกท่านที่พยามจะเลิกแพมเพิสให้กับลูกๆ ให้สำเร็จนะคะ