💐ควรมิควรแล้วแต่จะรัก💐 รักของผมกับเจ้าชาย RWARB

สวัสดีคะทุกคน เนื่องจากเราไปดู Red White and Royal Blue มันติดตาตรึงใจไม่หยุด ขอพูดก่อนว่าผู้เขียนก็เป็นนักอ่านนิยาย yaoi คนหนึ่งแต่อิ่มตัวมานานหลายปีแล้ว เรื่องนี้มันกับทำให้ผู้เขียนกลับมาใจเต้นอีกครั้ง เรามาทำความรู้จัก Red White and Royal Blue กันดีกว่าค่ะว่าเขามีความเป็นมายังไง

Red White and Royal Blue เป็นนิยายรักโรแมนติก-คอเมดี้ที่ขายดีที่สุดของนิวยอร์กไทมส์ และเป็นนิยายขายดีของ amazon มียอดการสั่งซื้อถึงมากกว่า 40,000 ใน amazon แต่งโดย เคซีย์ แมคควิสตัน เป็นเรื่องของลูกชายประธานาธิบดีอเมริกาและเจ้าชายของอังกฤษได้ทักทอสายสัมพันธ์จะเกิดเป็นความรัก

ตอนผู้เขียนได้อ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรกผู้เขียนรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก ตั้งแต่ตอนเข้ามาในร้านหนังสือคิโนะ แต่ยั้งใจไว้ก่อน รอเก็บเล่มไทยและอังกฤษทีเดียว จนกระทั่ง Prime Video ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ตอนดูทีเซอร์เขียนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและคิดว่า Red White and Royal Blue คงทั้งจะต้องน่าดูและน่าอ่านเป็นแน่ พอได้ดูแล้วก็ประทับมากจริงๆใจ

ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าใครเป็นเจ้าของประโยค “ควรมิควรแล้วแต่จะรัก” แต่ต้องขอขอบคุณและขอบอกไว้เลยว่าชื่อนี้เพราะจับใจมากๆเลยทีเดียว เป็นประโยคที่ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจซื้อหนังสือและเข้าไปดู Red White and Royal Blue

ความรู้หลังจากดูภาพยนตร์จบมีบ้างที่จะเอ๊ะกับจุดเริ่มต้นบางอย่างโดยเฉพาะจนเริ่มต้นความรักของทั้งสองคน งั้นเราจะค่อยๆพูดไปนะคะ

จุดแรกที่รู้สึกว่าดำเนินเรื่องเร็วไปคือช่วงของการมาพบกันอีกครั้งในงานปีใหม่ เฮนรี่ดูแปลกไปเพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยทะเลาะและแค่คุยกันผ่านแชทเหมือนเพื่อนคุยกัน จู่ ๆเฮนรี่เกิดไม่สบอารมณ์อะไรบางอย่างขึ้นมาแล้วเดินหนีออกไป(เราเชื่อว่าคนดูจับสังเกตเฮนรี่ได้ตั้งแต่ในงานแล้ว)

อเล็กซ์เดินตามออกไปเพราะกลัวว่าตนจะไปทำเรื่องอะไรให้เจ้าชายไม่พอใจอีก ด้วยความเป็นเจ้าอ่ะเน่าะเขาพอทุกอย่างในใจคิดไม่ได้ ได้แต่พูดอ้อมๆและแล้วเฮนรี่ก็จรงเข้าไปจูบอเล็กซ์ ผู้เขียนร้องเอ๊ง ด้วยความงงว่าเกิดอะไรขึ้น? ที่เฮนรี่แปลกไปเพราะรู้สึกกับอเล็กซ์ข้างเดียวใช่รึเปล่า?

ผู้เขียนรู้สึกว่าแค่การคุยแชทก็ทำให้คนเราคิดได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือ จนหลังๆก็มีมาเฉลยว่า จริงๆแล้วเฮนรี่เป็นเกย์และชอบอเล็กซ์มานานหลายปีแล้วแต้องเก็บงำความรู้สึกไว้เพราะความเป็นเจ้าพูดในสิ่งที่คิดทุกอย่างไม่ได้ และคิดว่าการที่อเล็กซ์คุยกับตนทุกวัน อย่างน้อยก็ไม่ได้เกลียดตนและอาจจะมีใจตรงกับตนก็เป็นได้

เป็นซีนที่ผู้เขียนคิดว่าเราคนอ่านต้องปะติปะต่อกันเอง เนื่องจากผู้เขียนเดาว่าน่าจะเป็นความตั้งใจของผู้แต่งหรือไม่ก็ผู้กำกับที่อยากจะให้เราค้นหาว่าความรักของพวกเขามันเกิดขึ้นได้ยังไง โดยซ่อนและเปิดทีละน้อยให้สมกับนิสัยโดยส่วนของเฮนรี่ที่มีความเป็นเจ้า

ในซีนต่อมาคือซีนที่อเล็กซ์เข้าไปปรึกษาพ่อแม่ของพวกเขาหลังจากเริ่มมั่นใจกับความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเฮนรี่ มันแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนก็ยังเด็กอยู่สำหรับโลกใบนี้ การที่พ่อแม่และลูกให้ความสำคัญซึ่งกันละกันเป็นเรื่องที่อบอุ่นมากทีเดียว

พ่อแม่ของเขาก็ทำให้มันชัดเจนและยื่นมุมมองหลายมุมให้เขาได้คิดและเข้าใจในตัวเฮนรี่มากขึ้น เป็นฉากที่ฮามากที่แม่แนะนำลูกในเรื่อของการป้องกันแต่แฝงไปด้วยความรู้

ในซีนต่อมาคือซีนที่มีนักข่าวซึ่งเป็นกิ๊กเก่านางอเล็กซ์ได้ออกมาแฉความสัมพันธ์ระหว่างอเล็กซ์และเฮนรี่ อเล็กซ์พูดปราศรัยออกไปอย่างตรงไปตรงมา ตรงกับความรู้สึก ผู้เขียนรู้สึกว่าถ้าตัวตัวเองเป็นเฮนรี่คงจะภูมิใจในตัวอเล็กซ์มากๆ แค่เป็นคนดูผู้เขียนก็ภูมิใจค่ะ อร๊ายย(เขิน)

และฉากที่ทำได้ดีมากๆในสายตาของผู้เขียนคือตอนนที่ทั้งสองได้มาพบเจอกันตรงทางเดินบันได เป็นการกอดที่คนดูอย่างเรารู้สึกได้แน่นอนว่า “มันสัมพันธ์ของทั้งสองมันช่างดีเหลือเกิน”

สุดท้ายดีแนะนำให้ทุกคนไปดูค่ะ นักแสดงทุกคนเล่นออกมาสมูทมาก นักแสดงนำหลักหล่อและยิ้มมีเสนห์มาก บรรยากาศในเรื่องให้ความรู้สึกอบอุ่น มันไม่ใช่แค่ความอบอุ่นจากแสงแดดแต่มันยังรวมไปถึงความอบอุ่นในจิตใจคน

เพลงประกอบไพเพราะเข้ากับภาพยนตร์ดูแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง มีเพลงนึงที่ประทับใจและเคยฟังมาจากภาพยนตร์อีกเรื่องมาก่อนแต่ในเรื่องนี้ใช้เวอร์ผู้ชาย คือเพลง Can't Help Falling In Love

ปล.ส่วนต้นทวิตอย่าง "ควรมิควรแล้วแต่จะรัก" เป็นของคุณฐา @taa_pana ผู้เขียนได้ทำการขออนุญาตนำมาประกอบการรีวิวและได้รับอนุญาติเรียบร้อยแล้วค่ะ

#หนังจบแต่เราไม่จบ #หนังดีบอกต่อ #ฟิลกู๊ด #RWARB #primevideo