Der einfachste Weg, Videos und Galerien von der Lemon8-App herunterzuladen
Desktop: Klicken Sie mit der rechten Maustaste und wählen Sie zum Herunterladen "Link speichern unter...".
PHOTOS | |||
JPEG | Herunterladen | ||
JPEG | Herunterladen | ||
JPEG | Herunterladen | ||
JPEG | Herunterladen | ||
JPEG | Herunterladen | ||
JPEG | Herunterladen |
" ติดรสเปรี้ยว "
โรคที่มากับ ความเปรี้ยว รสชาติความเปรี้ยวที่หลายคนโปรดปราน หากบริโภคมากเกินความต้องการ ก็อาจส่งผลเสียต่อระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ทำให้บาดแผลหายช้า เกิดอาการเสียวฟันแบบเฉียบพลัน หรือ มีภาวะกระดูกผุก่อนวัยอันควร ซึ่งอันตราย เพราะความเปรี้ยวที่ได้จากน้ำส้มสายชู ที่หลายคนชอบปรุงเพื่อช่วยขจัดกลิ่นคาวและลดแบคทีเรียในอาหาร หากกินมากเกินสัดส่วนที่ร่างกายควรจะได้รับ อาจเป็นอันตรายต่อกระดูกได้เช่นกัน
---------------------------
" ติดเค็ม "
หนีแค่ไหนก็ไม่พ้น ถ้าพฤติกรรมการชอบกินเค็มมากเกินความต้องการของร่างก่าย โรคไตถามหาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสายปรุงเก่ง ชอบเติมเกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอส หรือชอบกินสาหร่ายทะเลบางชนิด อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ไส้กรอก ลูกชิ้น หรือผักผลไม้ดอง บอกเลยว่าแต่ละอย่างรสชาติอูมามิถูกปากเหล่าสายกินทั้งหลาย แต่ลำบากไต เนื่องจาก “ไต” ทำหน้าที่กรองของเสียรวมทั้งโซเดียมที่เป็นส่วนเกินออกทางปัสสาวะ การกินเค็ม หรือกินเกลือหวาน และเกลือจืดมาก ทำให้ไตทำงานหนัก เพราะต้องขับโซเดียมส่วนเกินออก เมื่อกินเค็มเป็นนิสัย ไตก็ทำงานหนักพูดไม่ได้ ก็เลยส่งสัญญาณเตือนผ่านอาการ จากเบาไปหาหนักจนเกิดภาวะ ไตเสื่อม ที่นี้หน้าที่ของไตในการกรองและขับของเสียออกมาทางปัสสาวะก็ทำได้น้อยลง ส่งผลให้คนไข้มีอาการตัวบวม ถ้าไตวายหมอก็ต้องใช้เครื่องฟอกเลือดล้างไตช่วยคนไข้ ไม่เช่นนั้นคนไข้จะเสียชีวิตได้
------------------------------
" ติดหวาน "
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม/วัน และกลุ่มคนวัยทำงานเป็นคนกลุ่มหลักที่บริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก เพราะมีศักยภาพในการใช้จ่ายด้วยตนเอง ทั้งไลฟ์สไตล์ และลักษณะการทำงานในปัจจุบันยังเอื้อต่อการกินอาหารและเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลเข้าไป ซึ่งเครื่องดื่มและน้ำผลไม้เติมน้ำตาลอย่างน้ำอัดลม น้ำหวาน กาแฟ หรือชานมไข่มุก ถือเป็นแหล่งที่มาของน้ำตาลในอันดับต้นๆ หากเมื่อกินน้ำตาลเข้าไปแล้ว ร่างกายจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน และถ้ามีปริมาณที่มากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ดังนั้น การบริโภคน้ำตาลมากๆ ส่งผลให้มีน้ำหนักเกิน อ้วน ซึ่งโรคและปัญทางสุขภาพหากบริโภคความหวานมากเกินไป มีดังนี้โรคหัวใจ
- โรคเบาหวาน
- โรคซึมเศร้า
- ไขมันพอกตับ
- เสี่ยงโรคมะเร็ง
นอกจากนี้อาจเสี่ยงกับการเกิดปัญหาสุขภาพตามมาในด้านอื่นๆ เช่น เสี่ยงเกิดสิว ระดับพลังงานแปรปรวน หน้าแก่ก่อนวัย และน้ำหนักเพิ่ม
-----------------------------
" ติดมัน "
“มัน” มากับโรค ถูกต้องครับ คุณอ่านไม่ผิด อาหารมันต้นตอของโรคร้าย โดยเฉพาะโรคในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคเบาหวาน กลุ่มโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคมะเร็ง โรคถุงลมโป่งพอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง
ไก่ทอดเอย เฟรนช์ฟรายส์ ปาท่องโก๋เอย น้ำมันเยิ้มๆ ฉ่ำๆ แค่นึกก็อร่อยแล้ว แต่...อาหารประเภทนี้แหละที่เป็นศัตรูตัวร้ายกับร่างกาย หากกินมากเกินไป ร่างกายก็จะรับเอา “ไขมัน” เกินความจำเป็น
มัน ทำให้หัวใจขาดเลือด ไขมัน ผู้ร้ายในคราบความอร่อย ตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งไขมันจะค่อยๆ สะสมอยู่ในผนังด้านในของหลอดเลือด เป็นผลให้ทางที่เลือดไหลผ่านแคบลง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลงหรือไม่มีเลย กล้ามเนื้อหัวใจจึงได้รับเลือดน้อยกว่าปกติ นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากเกร็ดเลือดและลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย
----------------------------
" ติดรสชาติเผ็ด "
หากใครกำลังมีพฤติกรรมชอบกินอาหารเผ็ด รสจัดจ้าน ปรุงพริกเยอะๆ ไม่เผ็ดถือว่าไม่เด็ด บอกได้เลยว่าคุณกำลังก้าวขาหนึ่งข้างเข้ามาสู่โซนอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย หรือโรคร้ายได้ในเร็ววันแล้ว โดยอาการเจ็บป่วยและโรคที่มาจากพฤติกรรมการกินเผ็ด มีดังนี้
- ช่องปาก
หลายคนอาจรู้สึกแสบร้อนภายในปากหลังจากกินอาหารเผ็ด ซึ่งอาจส่งผลต่อลิ้น เหงือก ริมฝีปาก แก้ม และบริเวณอื่นๆ ภายในช่องปากด้วย รวมทั้งอาจทำให้ปากแห้ง รู้สึกหิวน้ำ อาจสูญเสียการรับรส หรือทำให้ลิ้นรับรสชาติผิดเพี้ยน
- ระบบทางเดินอาหาร
สารแคปไซซินในพริกอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียน หลังจากทีกินเผ็ด นอกจากนี้ การกินเผ็ดก็อาจส่งผลให้อาการของโรคแผลในกระเพาะอาหารรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคนี้จึงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารเผ็ด เพื่อลดความเสี่ยง
- ระบบทางเดินหายใจ
การกินเผ็ดอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้จมูกจากอาหาร ซึ่งเป็นโรคจมูกอักเสบชนิดที่ไม่ได้เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ แต่มีสาเหตุมาจากอาหารที่กิน โดยอาจทำให้มีอาการน้ำมูกไหลหรือมีเสมหะในคอหลังจากกินอาหารเผ็ด
- ปัญหาสุขภาพอื่นๆ
เสี่ยงเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เกิดอาการแสบร้อนกลางทรวงอก ส่งผลให้อาการของโรคบางชนิดอย่างโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบรุนแรงขึ้นได้ เนื่องจากอาหารเผ็ดอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง ซึ่งอาจมีการติดเชื้อบริเวณอวัยวะของระบบทางเดินปัสสาวะด้วย อย่างไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ
*ไม่ว่าจะชอบรสชาติไหน แต่อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ