🏔️บินไปจีนไม่ถึง 5 ชั่วโมงก็ได้เห็นภูเขาหิมะเหมือนอยู่สวิสเซอร์แลนด์

✈️รู้ไหม บินแค่ไม่ถึง 5 ชั่วโมงก็ไปเที่ยวภูเขาหิมะเหมือนกับสวิสเซอร์แลนด์ได้แล้วแถมยังมีที่เที่ยวฟีลยุโรปเยอะมาก ทั้งหมดนี้อยู่แค่ประเทศจีนเท่านั้น แอดมินได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้คะแนน 4A และ 5A ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และวิวสวยๆมาให้ในโพสต์นี้แล้ว เตรียมเก็บกระเป๋าและออกเดินทางได้เลย

📍ทุ่งหญ้าน่าลาถี (Nalati Grassland)

📍ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

📍หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

📍ทะเลสาบห้าสี (Five-Color Lake)

📍ประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan)

📍ทะเลสาบเกลือฉาข่า (Chaka Salt Lake)

💗ประเทศจีนมีความหลากหลายทางภูมิประเทศ และมีการเปลี่ยนแปลงของอากาศบ่อย อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย การมีประกันเดินทางจะช่วยให้อุ่นใจขึ้น ไม่ว่าเดินทางไปเที่ยวประเทศจีน หรือประเทศไหนๆ เพราะประกันเดินทาง Sompo TravelJoy คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วโลก* พร้อม Sompo Assist บริการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อคุณเลือกซมโปะ คุณเลือกมืออาชีพ เพราะเราคิดให้ชีวิตคุณง่าย™️

รู้หรือไม่ ? นอกจากเอกสารยื่นประกอบการเคลมปกติแล้ว เอกสารที่ต้องใช้ตัวจริงจากโรงพยาบาลในประเทศจีน มีดังนี้

1.ใบรับรองแพทย์ตัวจริง ที่ระบุถึงชื่อผู้เอาประกัน วันที่เข้ารับการรักษา และอาการเจ็บป่วย พร้อมกับลายมือชื่อของแพทย์ผู้รักษา

2. ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลตัวจริง จากโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา

Tip: เลี่ยงวันหยุดยาวของจีน เช่น วันชาติของจีน (1-7 ตุลาคม) และเทศกาลตรุษจีน (ช่วงปลายมกราคมถึงกลางกุมภาพันธ์) เพราะว่าชาวจีนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ความหนาแน่นของย่านที่เที่ยวและที่พักอาจมีราคาสูงขึ้น

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์ฯ กำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ทุ่งหญ้าน่าลาถี (Nalati Grassland)

https://maps.app.goo.gl/b5T68qqn2SdgzhmWA

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

สถานที่สุดท้ายนี้แอดมินจะพาหนีความวุ่นวาย วางโทรศัพท์ลง มาเดินเล่นพักผ่อนสมอง และดูวิวสุดอลังการที่ทุ่งหญ้าน่าลาถี เป็นที่ราบกว้างสุดลูกหูลูกตา ทุ่งหญ้าสีเขียว และสัตว์เลี้ยงของคนในท้องถิ่นอย่าง ม้า แพะ และแกะ เดินเล่นบนทุ่งหญ้า ที่มีวิวเทือกเขายาวมองไปทางไหนก็สวยไปหมด

มุมถ่ายรูปสุดฮิต:

แอดมินแนะนำให้ขึ้นกระเช้าไปที่จุดชมวิวที่เป็นที่ราบสูง ขึ้นมาเพื่อที่จะได้วิวที่กว้างขึ้น และได้เข้าใกล้กับเทือกเขามากขึ้น และแอดมินแนะนำให้คุณลองขึ้นไปขี่บนหลังม้าและถ่ายรูป รับรองเลยได้ภาพสวยจนเพื่อนถามว่า “แกไปยุโรปมาหรอแน่นอน”

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

ทุ่งหญ้าน่าลาถี ควรเดินทางไปเที่ยวช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ ประมาณช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน เพราะว่าเป็นช่วงที่ใบหญ้าจะมีสีเขียวขจี และมีดอกไม้บาน และอากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย ประมาณ 10-25 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การเดินเล่น ถ่ายรูปสวยมาก ๆ

เขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

https://maps.app.goo.gl/FDw9pPjPWyrj5Axh7

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

เพียงบินแค่ไม่ถึง 5 ชั่วโมงจากไทยไปที่ภูเขาหิมะมังกรหยก คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสวิสเซอร์แลนด์ของเอเชียเลย เพราะว่าหิมะที่นี่ขาวสะอาดมาก ๆ และยังปกคลุมตลอดทั้งปี บนยอดเขาประกอบไปด้วย 12 ยอด และที่มาของภูเขาหิมะมังกรหยก ชื่อนี้ได้มาจากความเชื่อของชาว น่าซี ที่เป็นชนเผ่าพื้นเมือง ที่เขามองจากภูเขานี้จากไกล ๆ จะดูเหมือนมังกรเลื้อยอยู่บนฟ้า

มุมถ่ายรูปสุดฮิต:

แอดมินแนะนำให้ไปช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพราะที่นี่เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจะเห็นแสงสีส้มกระทบกับยอดเขาทั้ง 12 ยอด ทำให้ได้ภาพที่สวยมาก ๆ (กระเช้าขึ้นไปข้างบนเปิดทำการตั้งแต่ตี 5) อีกจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด ก็คือขณะนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังยอดเขา ตรงนี้ก็เป็นอีกมุมที่ต้องถ่ายรูปให้ได้เพราะจะเห็นวิวธารน้ำแข็งและหิมะ ให้ฟีลไปสวิตเซอร์แลนด์มาก ๆ

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

แอดมินแนะนำให้เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จนถึงฤดูใบไม้ร่วง

(มีนาคม-พฤศจิกายน) เพราะว่าในฤดูหนาวอากาศจะเย็นจนถึงติดลบ และยังเสี่ยงที่จะเกิดหมอกบนยอดเขา ทำให้ไม่เห็นวิวทิวทัศน์ และอาจจะมีหิมะตกหนักอีกด้วย

Tip: แนะนำให้พกออกซิเจนกระป๋อง ขั้นต่ำ 2 กระป๋อง เพราะที่ยอดภูเขามังกรหยกมีความสูง 4,506 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีออกซิเจนเจือจาง และเสี่ยงจะเกิดอาการแพ้ความสูง (High-altitude illness*)

Tip: ควรเช็กสภาพอากาศก่อนเดินทางไปเที่ภูเขาหิมะมังกรหยก เพราะหากอุณหภูมิติดลบเยอะ ๆ ก็เสี่ยงจะเจอหมอกลงหนา หรือหิมะตกหนัก จากนักท่องเที่ยวจะกลายเป็นผู้ประสบภัยได้

*อ้างอิงอาการแพ้ความสูง https://www.praram9.com/high-altitude-illness-and-cold-injury/

หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

https://maps.app.goo.gl/9bHzVJBEB8zm21Qy9

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

ความสวยของทะเลสาบสีครามใส ๆ ตลอดทั้งปีที่มีแหล่งกำเนิดน้ำจากภูเขาหิมะมังกรหยกที่ตั้งล้อมรอบอยู่เป็นพื้นหลังของทะเลสาบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีทางเดินธรรมชาติ ยาวถึง 3 กิโลเมตรให้คุณได้เดินเล่นถ่ายรูป ได้ทุกมุม สวยแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ใด ๆ

มุมถ่ายรูปสุดฮิต:

จุด White Water ที่อยู่ข้างบนสุดของทะเลสาบทั้งหมด ที่จะเห็นน้ำตกลักษณะกลม ๆ เรียงอยู่สูงต่ำ และอีกจุดคือ Yuye Lake ที่อยู่ถัดลงมาข้างล่าง จุดนี้จะเห็นน้ำสีครามที่มีพื้นหลังเป็นน้ำตกเล็ก ๆ พร้อมกับวิวภูเขาหิมะมังกรหยกได้ชัดที่สุด

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินจะถ่ายรูปได้สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) และฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) เพราะว่าอากาศจะไม่หนาวเกินไปทำให้ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวที่หนา และอากาศยังเย็นพอที่จะเห็นหิมะสีขาวโพลนบนภูเขาหิมะมังกรหยก และยังได้วิวของดอกไม้ที่กำลังผลิใบ แอดมินบอกเลยมู้ดมันสดใสมาก ๆ

ทะเลสาบห้าสี (Five-Color Lake)

https://maps.app.goo.gl/BGXwhe1yY7yiWBRi6

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

ทะเลสาบสีรุ้ง อยู่ตรงใจกลางต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและสีเหลือง เหมือนหลุดเข้าไปในโลกเทพนิยาย ที่ทะเลสาบห้าสีนี้ มีสีของน้ำไล่ระดับสีจากสีฟ้าไปเป็นสีเขียว และในน้ำจะมีเลเยอร์ของซากต้นไม้เก่า ทำให้ในน้ำดูมีเลเยอร์สวยงาม และล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากชนิด และช่วงฤดูหนาวอาจจะได้เห็นวิวภูเขาหิมะที่อยู่ด้านหลังอีกด้วย

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

ทะเลสาบห้าสีจะถ่ายรูปได้สวยที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เพราะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบ ๆ จะมีสีสันสวยงาม ทั้งเหลือง เเดง เขียว สลับกันไป พร้อมกับน้ำที่สะท้อนสีของต้นไม้ แอดมินบอกเลยว่าจะต้องได้ภาพที่สวยมาก ๆ

ประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan) https://maps.app.goo.gl/6LWJhkCExoHD5zFP8

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

ประตูสวรรค์ เขาเทียนเหมินซาน ที่เขาลูกนี้มีช่องตรงกลางระหว่างเขา และมีทางเดินให้ขึ้นไปชมวิว ด้วยทางเดินที่ทอดยาวขึ้นไปทำให้มองดูเหมือนทางเดินขึ้นสู่สวรรค์ ซึ่งจุดข้างบนจะเป็นจุดพักให้ชมวิว และภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย ด้วยความสูง 1,518 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ระดับออกซิเจนที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่คุณเคยชิน พร้อมกับการเดินขึ้นบันไดที่มีความชันและยาวอาจจะทำให้คุณหายใจลำบากขึ้นได้

มุมถ่ายรูปสุดฮิต:

ลานบันไดก่อนขึ้นประตูสวรรค์ และบริเวณข้างบนประตูสวรรค์ที่มีบ่อน้ำ และวิวข้างหลังเป็นโค้งของอุโมงค์ผ่านไปเห็นท้องฟ้า

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) และ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) เพราะอากาศจะเย็น ประมาณ 13-25 องศาเซลเซียส ทำให้เที่ยวสบาย และมีโอกาสที่หมอกจะปกคลุมบริเวณปากประตูสวรรค์

ทะเลสาบเกลือฉาข่า (Chaka Salt Lake)

https://maps.app.goo.gl/821TanLMchGMcVi96

จุดไฮไลท์ของที่นี่:

ทะเลสาบเกลือฉาข่า เป็นทะเลสาบคล้ายกระจกแผ่นใหญ่ที่สะท้อนท้องฟ้าลงมา สามารถเดินเล่น ถ่ายรูป หรือถ่ายวีดีโอก็ยังได้ เพราะที่นี่กว้างมาก ๆ ไม่มีคนติดในภาพแน่นอน และยังมีมุมถ่ายรูปอีกหลายมุม ทั้งมุมที่เป็นทะเลสาบสะท้อนท้องฟ้าสุดลูกหูลุกตา หรือมีวิวแนวเทือกเขาสวยๆที่เป็นพื้นหลัง

มุมถ่ายรูปสุดฮิต:

แอดมินแนะนำให้คุณไปยืนอยู่ตรงใจกลางของทะเลสาบด้านที่โล่ง ๆ และใช้มุมกล้องที่ต่ำเล็กน้อย เพื่อที่จะได้เห็นการสะท้อนของน้ำเยอะ ๆ และมีคุณยืนอยู่ตรงกลางเหมือนยืนอยู่บนเมฆเลย

ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว:

แอดมินแนะนำให้มาเที่ยว ทะเลสาบเกลือฉาข่า ในช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน เพราะในช่วงเดือนนี้ท้องฟ้าจะสดใส และอากาศจะเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส

Tip: ถ่ายในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตกตอนเย็นก็จะสวยไปอีกแบบนะ

#ซมโปะคิดให้ชีวิตคุณง่าย

#ซมโปะประกันภัย

#ประกันเดินทาง

#ประกันเดินทางออนไลน์

#แดงๆกลมๆซมโปะประกันภัย

#TravelJoy

#SompoThailand

#SompoInsurance