ภาวะซีดในเด็ก ส่งผลเสียต่อลูก พ่อแม่ต้องระวัง‼️

บ้านนี้หมอนัดฉีดวัคซีน ถึงอายุพอดีเลยเจาะเลือดด้วย เจอภาวะซีดมาตามคาดเลยค่ะ หมอจ่ายธาตุเหล็กมาให้ทานต่อเนื่อง 1 เดือน ละนัดเจาะเลือดซ้ำ รอลุ้นกันอีกค่าาา😂

⚠️สังเกตว่าลูกมีภาวะซีดได้อย่างไรนะ?? ⚠️

-ดูจากการมีสีผิวซีด ตัวเหลือง ไม่มีเลือดฝาด

-ในรายที่มีภาวะซีดรุนแรง เด็กจะมีผิวขาวซีด

-อ่อนเพลีย

-กินอาหารน้อยลง

-เหนื่อยง่าย ไม่ร่าเริง

-ทำกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันได้น้อยลง

‼️เด็กที่มีภาวะซีดนานเรื้อรังจะส่งผลถึงพัฒนาการทางสมอง

❌ มีสมาธิสั้น เรียนไม่ทันเพื่อน

❌สติปัญญาไม่ดี

❌ไม่กระฉับกระเฉง

❌การเจริญเติบโตไม่สมวัย ตัวเล็ก โตไม่ทันเพื่อน

❌ไม่สามารถเข้าวัยรุ่นวัยหนุ่มสาวได้อย่างปกติ

⚠️วิธีตรวจวินิจฉัยภาวะซีดในเด็ก⚠️

-ตรวจเลือดดูภาวะความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด และหาภาวะการขาดธาตุเหล็กในร่างกายของเด็ก

⚠️ภาวะซีดในเด็ก…รักษาได้✅

-แพทย์จะรักษาด้วยการให้รับประทานธาตุเหล็ก ซึ่งหลังจากรับประทานธาตุเหล็กแล้ว 1-2 วัน เด็กมักจะมีความสดใสร่าเริง ความอยากทานอาหารจะเริ่มกลับมาเป็นปกติ

-เมื่อทานธาตุเหล็กไปเรื่อยๆ ความเข้มข้มของเลือดจะกลับมาดีขึ้นภายใน 1 เดือน

-ต้องรับประทานธาตุเหล็กต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน เพื่อให้ร่างกายมีธาตุเหล็กที่เพียงพอ

ปล.แพทย์จะนัดให้มาติดตามการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะซีดของเด็กแต่ละคน

⚠️ป้องกันเด็กจากภาวะซีดได้อย่างไร⚠️

-เด็กที่คลอดก่อนกำหนด แพทย์จะแนะนำให้รับประทานธาตุเหล็กเสริม

-เด็กที่คลอดครบกำหนดและทานนมแม่ ในช่วงอายุ 6 เดือนที่เด็กเริ่มทานอาหารได้ อาหารตามวัย

✅ควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กประกอบ เช่น ผักใบเขียว เครื่องใน ไข่แดง เนื้อสัตว์ที่มีเนื้อแดง โดยรับประทาน 1-2 มื้อต่อวัน เพื่อให้มีปริมาณธาตุเหล็กเพียงพอต่อร่างกาย

-พาเด็กมาคัดกรองภาวะซีด เพื่อตรวจหาธาตุเหล็กในร่างกาย และพิจารณาว่าอาหารที่เด็กทานตามวัยนั้นมีปริมาณธาตุเหล็กที่เพียงพอหรือไม่ โดยแนะนำให้พาเด็กมาคัดกรองเมื่ออายุ 9 เดือน-1 ปี

#ไดอารี่มนุษย์แม่ #สตอรี่ของคนมีลูก #เลี้ยงลูก #ขาดธาตุเหล็ก #แม่และเด็ก

#เทศกาลข้ามปี