Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

"แฟชั่นสไตลิสต์เส้นทางแซ่บ! เรียนอะไร จบมาถึงได้ทำ

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
JPEG Download

ในช่วงนี้มีน้องๆ หลายคนที่กำลังตัดสินใจเลือกคณะที่ใช่ เพื่อก้าวไปสู่เส้นทางอาชีพในฝัน หนึ่งในอาชีพที่ได้รับความสนใจมากคือ แฟชั่นสไตลิสต์ หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแต่งกายที่เป๊ะปังของเหล่าดารา คนดัง หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างบุคลิกภาพผ่านการแต่งตัว แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่า ถ้าอยากเป็นแฟชั่นสไตลิสต์ต้องเรียนอะไร หรือจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? วันนี้ พี่จะมาบอกน้องๆ ถึงสิ่งที่ต้องรู้และคุณสมบัติที่ควรมีเพื่อก้าวเข้าสู่วงการนี้อย่างมั่นใจ!

น้องๆ อาจกำลังอินกับอาชีพแฟชั่นสไตลิสต์กันแบบสุดๆ ใช่มั้ยล่ะคะ? พี่เข้าใจเลยค่ะ อาชีพนี้มันทั้งชิค ทั้งคูล ดูเปรี้ยวแบบตัวแม่สุดๆ แต่บอกเลยค่ะว่าในวงการนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคะ มีอะไรหลายอย่างที่น้องๆ ต้องรู้ก่อนจะก้าวขาเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องของ "นิสัย" บอกเลยว่าเจอมากับตัว! ย้อนกลับไปสมัยพี่เริ่มทำงานนะคะ อู้วววว เจอรุ่นพี่ที่เป็นแฟชั่นสไตลิสต์ตัวแม่ระดับป้าเลยค่ะ! พี่ขอเรียก "ป้านิสัยแรง" นะคะ เพราะนางแรงจริง! คือแบบ งานดีนะคะน้อง แต่นิสัยไม่ไหว บรีฟงานทีคือเสียงดังลั่นสตูฯ ด่าทีไม่เว้นคน น้องคนไหนพลาดมีโดนเหวี่ยงชุดใหญ่ไฟกะพริบ บอกเลยว่าแสบถึงทรวง!

สิ่งที่พี่อยากจะเตือนน้องๆ ที่กำลังสนใจอยากจะเป็นแฟชั่นสไตลิสต์เลยคือ อย่าทำตัวแบบป้านิสัยแรงเด็ดขาด! เพราะไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ถ้านิสัยไม่ดี ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วยค่ะ!สิ่งที่น้องๆ ควรมีคือ ความเป็นมืออาชีพ และนิสัยที่น่ารัก เพราะในวงการนี้มันต้องทำงานเป็นทีมค่ะ ไม่ใช่แค่เลือกเสื้อผ้าสวยๆ แล้วจบ เราต้องทำงานกับช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ช่างภาพ และต้องคุยกับลูกค้าให้รู้เรื่องด้วย! ถ้าใครคิดจะเหวี่ยง จะวีนแบบป้านิสัยแรงนะคะ บอกเลยว่า ล่มจ้า

ดังนั้นถ้าน้องอยากก้าวสู่การเป็นแฟชั่นสไตลิสต์ที่เก่งจริงๆ นะคะ พี่ขอแนะนำเลยว่า ฝึกฝนทั้งฝีมือและนิสัยไปพร้อมกันค่ะ เก่งแล้วต้องนิสัยดีด้วย แค่นี้วงการนี้จะรักน้อง หยิบงานมาให้ทำแบบไม่ขาดสายแน่นอน!สาวๆ อย่าลืมนะคะ อยากเป็นสไตลิสต์ตัวแม่ ต้องแซ่บแบบพอดี นิสัยดีไปยาวๆ ค่ะ!

มาทำความรู้จักอาชีพนี้กันค่ะ

การทำงานของแฟชั่นสไตลิสต์มีหลายด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลายส่วนเพื่อสร้างสรรค์ลุคที่สมบูรณ์แบบ

หน้าที่ของแฟชั่นสไตลิสต์

❤️ค้นหาและติดตามเทรนด์แฟชั่น (Trend Research)แฟชั่นสไตลิสต์ต้องคอยติดตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ การเข้าร่วมแฟชั่นโชว์ อ่านนิตยสาร หรือค้นหาจากสื่อออนไลน์เป็นวิธีสำคัญในการรับรู้แนวโน้มแฟชั่นที่กำลังมาแรง

❤️ทำงานร่วมกับลูกค้า (Client Collaboration)แฟชั่นสไตลิสต์ต้องทำความเข้าใจความต้องการและสไตล์ส่วนตัวของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวในชีวิตประจำวัน หรืองานสำคัญ เช่น งานถ่ายแบบ งานเปิดตัวสินค้า หรือพรมแดง งานสไตลิสต์เริ่มต้นจากการพูดคุยวิเคราะห์สไตล์และรูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ที่ลูกค้าต้องการ

❤️เลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ (Wardrobe Selection)หนึ่งในหน้าที่หลักของสไตลิสต์คือการเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงการประสานงานกับดีไซเนอร์ แบรนด์เสื้อผ้า หรือตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอยืมชิ้นงานที่ต้องการมาใช้ในการถ่ายทำหรืออีเวนต์ต่างๆ

❤️จัดหรือตกแต่งเสื้อผ้า (Wardrobe Styling and Fittings) หลังจากเลือกเสื้อผ้าแล้ว สไตลิสต์ต้องนำมาทดลองกับลูกค้าเพื่อดูความเหมาะสม จัดทรง ตัดแต่ง หรือปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พอดีตัว การมีความสามารถในการปรับแก้ไขเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับรูปร่างลูกค้าคือสิ่งสำคัญมาก

❤️ทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพ (On-Set Styling)ในงานถ่ายแบบหรือการถ่ายทำภาพยนตร์ สไตลิสต์จะต้องอยู่ที่สตูดิโอหรือสถานที่ถ่ายทำเพื่อจัดเตรียมลุค ดูแลการแต่งตัวของลูกค้า และปรับเปลี่ยนชุดหรือเครื่องประดับระหว่างการถ่ายทำ

นอกจากนี้ยังต้องดูแลการจัดเสื้อผ้าให้เข้ากับการจัดแสง ฉาก และบรรยากาศของภาพรวมทั้งหมด

❤️ประสานงานกับทีมงาน (Team Collaboration)แฟชั่นสไตลิสต์ต้องทำงานร่วมกับช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม รวมถึงทีมโปรดักชั่นอื่นๆ เพื่อให้การถ่ายแบบหรืออีเวนต์ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ความสามารถในการสื่อสารและทำงานเป็นทีมจึงมีความสำคัญมาก

❤️จัดการงบประมาณ (Budget Management)ในการทำงานสไตลิสต์ คุณต้องจัดการงบประมาณให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าหรือซื้อเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์เสริม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องคำนึงถึงการคุ้มค่าและความต้องการของลูกค้า

❤️วางแผนและจัดการลุค (Look Planning)การจัดการลุคต้องมีการวางแผนล่วงหน้า บางงานอาจต้องเตรียมหลายชุดหรือหลายสไตล์ตามความต้องการของลูกค้า เช่น งานพรมแดง งานถ่ายโฆษณา หรือคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ การจัดการเวลาจึงเป็นทักษะสำคัญ

❤️พัฒนาพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Development)การสร้างพอร์ตโฟลิโอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อแสดงผลงานและทักษะของน้องๆ การรวบรวมรูปภาพจากงานที่ทำมาแล้วไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ การจัดลุคให้กับลูกค้า หรือการทำงานร่วมกับนิตยสาร จะช่วยให้น้องมีเครื่องมือในการโปรโมตตัวเอง

การเป็นแฟชั่นสไตลิสต์ต้องอาศัยทั้งความสามารถในการวิเคราะห์ รสนิยมที่ดี และความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าและทีมงาน การทำงานที่ละเอียดถี่ถ้วนและความเป็นมืออาชีพจะทำให้น้องโดดเด่นในวงการ

❓❓❓แล้วที่น้องอยากรู้คือ ต้องเรียนจบอะไรมา?

จริงๆ แล้วไม่มีกฎตายตัวว่าน้องต้องจบคณะไหนเท่านั้นถึงจะเป็นแฟชั่นสไตลิสต์ได้นะคะ แต่ถ้าอยากได้พื้นฐานที่แน่นปึ้ก พี่แนะนำคณะที่เกี่ยวข้องกับ แฟชั่นดีไซน์ หรือ การออกแบบเสื้อผ้าเลยค่ะ เช่น

✅คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่น

✅คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและการออกแบบแฟชั่น

✅คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารแฟชั่น

หรือถ้าน้องไม่ได้เรียนตรงสายก็ไม่เป็นไรนะคะ หลายคนก็จบคณะอื่นมา เช่น นิเทศศาสตร์ หรือ ศิลปศาสตร์ ที่ช่วยเสริมทักษะด้านการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ และการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งจำเป็นมากในยุคนี้ที่แฟชั่นต้องควบคู่กับการทำสื่อออนไลน์ บล็อกเกอร์ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ค่ะ

แล้วต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้าง?

💋รสนิยมและเซ้นส์แฟชั่นต้องดี

น้องต้องมีเซ้นส์แฟชั่นที่ชัดเจน รู้จักเลือกและจับคู่เสื้อผ้าให้เหมาะกับลูกค้าได้ ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์อย่างเดียวนะคะ แต่ต้องรู้จักปรับให้เข้ากับบุคลิกและความต้องการของลูกค้าด้วย

💋ความคิดสร้างสรรค์ อันนี้สำคัญมาก! แฟชั่นคือการสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ การคิดนอกกรอบจะช่วยให้งานสไตลิสต์ของน้องโดดเด่นและไม่ซ้ำใคร

💋ทักษะการสื่อสาร น้องต้องสื่อสารเก่งมากค่ะ! ทั้งการพูดคุยกับลูกค้า การเจรจากับทีมงานต่างๆ รวมถึงต้องอธิบายไอเดียของตัวเองได้อย่างชัดเจน

💋ทำงานเป็นทีม อย่างที่พี่บอกไปค่ะ วงการนี้ไม่ใช่เล่นเดี่ยวๆ ต้องทำงานร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ช่างภาพ รวมถึงดีไซเนอร์ น้องต้องมีความสามารถในการประสานงานและทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดี

💋รู้จักอดทนและยืดหยุ่น

งานสไตลิสต์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะคะ มีทั้งงานเร่ง งานด่วน งานกลางคืน งานที่ต้องแก้ไขแบบนาทีต่อนาที น้องต้องมีความอดทนสูง และพร้อมปรับตัวได้ทุกสถานการณ์

💋เรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

แฟชั่นมันเปลี่ยนแปลงเร็วมากค่ะ วันนี้เทรนด์นี้พรุ่งนี้อาจจะตกแล้ว น้องต้องติดตามเทรนด์ตลอดเวลา และต้องพัฒนาฝีมือให้ทันโลกแฟชั่นเสมอสรุปง่ายๆ นะคะ

ถ้าน้องอยากเป็นแฟชั่นสไตลิสต์ ไม่จำเป็นต้องเรียนตรงสายเสมอไป แต่ถ้าเรียนด้านแฟชั่นมาก็จะช่วยเสริมพื้นฐานได้เยอะ ส่วนที่สำคัญคือ น้องต้องมีใจรักในแฟชั่น มีทักษะรอบด้าน และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดค่ะ

โอเค๊ จบนะคะ!

#อาชีพ #เรียน #ติดเทรนด์ #เรียนแฟชั่น #สอบเข้ามหาวิทยาลัย