รีวิวนิยายY📚เมื่อร่วงหล่นจึงร่วงหล่นใส่คุณอีกครั้ง

เรื่อง 💀เมื่อร่วงหล่น จึงร่วงหล่นใส่คุณอีกครั้ง

ผู้แต่ง 💀LLwuda

สำนักพิมพ์ OnederWhy

จำนวน 326 หน้า

📚อ่านแล้วอ่านเล่า

แรกเริ่มที่เลือกเรื่องนี้มาอ่าน เพราะสะดุดใจกับชื่อเรื่องเลยค่ะ “เมื่อร่วงหล่น จึงล่วงหล่นใส่คุณอีกครั้ง” เป็นชื่อที่มีความหมาย และ ไม่มีควาหมายในเวลาเดียวกัน

มันเป็นการตั้งชื่อนิยายที่เรียกคนขี้เสือกอย่างเราดีจริงๆนะ คือตอนนั้นไม่สนสิ่งใด เห็นแค่ชื่อนิยาย ก็ซื้อเลย ไม่อ่านปกหลังใดๆเลยนะ เอาจริง

ตัวเรื่องราวเป็นแนว ไทยแฟนตาซี Setting กรุงเทพฯยุคปัจจุบัน ที่ตัวละครก้าวข้ามผ่านกาลเวลามานับร้อยปีเคียงคู่กับมหานครแห่งนี้

เป็นการอ้างอิงเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานการสร้างศาลหลักเมือง ดวงวิญญาณที่เฝ้าปกปักษ์รักษาประตูทางเข้าออกระหว่างสองโลก ของบรรดาดวงวิญญาณ ระหว่างเมืองมนุษย์และยมโลก

ทวิน ชายหนุ่มกำพร้า ที่สามารถมองเห็นดวงวิญญาณได้มาตั้งแต่เด็ก ได้เข้าไปทำงานในบริษัทฯสายบันเทิง ผลิตรายการและคอนเทนต์แนวผีสางสิ่งลี้ลับชื่อดังแห่งหนึ่ง

ที่พนักงานแต่ละคนดูเหมือนจะใช้ชีวิตกันแปลกๆ ไม่กิน ไม่นอน แถมยังชอบพาเขาไปออกภาคสนาม ท่ามกลางผีสางวิณญาณอาฆาตที่ต้องพบเจอทุกครั้งเวลาต้องไปถ่ายรายการตามบ้านผีสิง

จนกระทั้งเขาได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ เพื่อนร่วมงาน ยันประธานบริษัท แห่งนี้ ไม่มีใครเลยสัก “ตน” ที่เป็นมนุษย์คนธรรมดาเดินดินเหมือนเขา

เพราะนี้มันดงที่ทำการชั่วคราวของยมบาล homesick ที่รอวันได้ก้าวผ่านระหว่างประตูกรุงเทพและยมโลกรอวันกลับบ้านกันทุกตน

เมศ บอสใหญ่ของบริษัท ซึ่งแน่นอนว่า บอสหนุ่มไฮโซ รูปงามของเขาคนนี้ ก็ไม่ใช่คนเช่นเดียวกัน อีกฝ่ายมีฐานะเป็นผู้พิทักษ์ดวงจิตของประตูเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อร้อยปีก่อน ยอมเสียสละตัวเองยอมสะกดผีร้ายตนหนึ่งไว้ใต่ศาลหลักเมือง จนดวงจิตสูญสลาย ไปเกิดใหม่ ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังตามหาดวงจิตของประตูดวงนั้นไม่พบ

เพราะผิดต่อหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์ประตู ทำให้สมดุลระหว่าง 2 โลกผิดเพี้ยน ดวงวิญญาณไม่มีประตูสู่ยมโลก บรรดายมบาลผู้นำทางก็ไม่สามารถกลับไปยังดินแดนของตัวเองได้ ต้องตกค้างอยู่บนโลกมนุษย์

ทุกวันนี้ จึงต้องเปิดบริษัทฯ ขึ้นมาบังหน้า เพื่อคอยตรวจหาความผิดปกติของบรรดาดวงวิญญาณ ที่ตกค้างบนโลกมนุษย์ ที่พร้อมจะก่อความเดือดร้อนให้คนเป็นตลอดเวลา เป็นทั้งหน้าที่ และ บทลงโทษในเวลาเดียวกัน

เป็นนิยายที่ซื้อเพราะชื่อ แบบไม่ได้คาดหวังความสนุกหรือเนื้อเรื่องใดๆทั้งสิ้น แต่ที่ไหนได้ล่ะแก มันสนุกมากกกกก

เป็นแฟนตาซีแนวไสยเวทแบบไทยๆ ที่มีฉากหลังเป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน นักเขียนเลือกฉากของเรื่องราวเป็นแถบย่านเมืองเก่า เสาชิงช้า วัดวาอารามย่านนั้น

เวลาเราอ่านมันเลยสัมผัสได้ถึงมนตร์ขลังความลี้ลับ โบร่ำโบราณของย่านดังกล่าว อ่านไปก็นึกภาพตามไป ร้านข้ามต้มข้างกำแพงวัด ร้านนั้น ที่นายเอกได้ไปกิน แล้วเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด เพราะเป็นร้านข้าวต้มขายผี มันจะใช่ร้านเดียวกับที่ชั้นเคยไปกินไหมนะ

หรือแม้แต่การใช้ฉากของสวนรมณีนารถมาเป็นสนามรบประลงอาคมระหว่างพระเอกกับตัวร้าย

คือถ้าใครเคยไปสวนรมฯ พวกเธอจะนึกภาพออกเลยว่า สวนนั้น ขนาดตอนกลางวัน มันยังให้ความรู้สึกหลอกหลอนแบบแปลกๆ แถมยังเป็นคุกโบราณสมัยก่อนอีก อยู่ใกล้ประตูผี อะไงงี้ …. โอ้ยยย อ่านแล้วนึกภาพตามจนหลอนไปหมด

แล้วปกติ เราชอบไปเที่ยวย่านนั้นตอนกลางคืนด้วยนะ ไปหาหนมกิน ไปร้านน้ำเต้าปูปลา บ้าง เอาเป็นว่า หลังจากได้อ่านนิยายเรื่องนี้ เราคงต้องงดท่องราตรีย่านนั้น ซัก เดือน 2 เดือนแล้วกัน เพราะภาพจำจากนิยายมันติดตาเกินจริงไปนะแก

เอาเป็นว่าใครเล็งเจ้าเรื่องนี้อยู่ ก็ขอแนะนำเลย อ่านเหอะ สนุกมากจริงๆ หลอนนิดๆ พอเป็นกระไสยตามประสา เพราะสถานที่ใดๆในเรื่อง มันใกล้ตัวเรา

แต่มันปฏิเสธไม่ได้นะ มันทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับตัวนิยาย เพราะจะว่าไป ในฐานะคนที่เกิด โต และใช้ชีวืตในกรุงเทพมาโดยตลอดแบบเรา มันคล้อยตามและมีอารมณ์ร่วมไปกับนิยายจริงๆ

นักเขียนก็ทำการบ้านได้ดีมาก ๆ เสียดายตัวนิยายไม่หนา 300 หน้านิดๆ ทำเอาเรารู้สึกว่ามันไม่พอเอาซะเลย อยากให้หนากว่านี้อีกหน่อย มันไม่จุใจ อะ

สุดท้ายละ จากที่เราได้ลองสังเกตเทรนด์นิยาย bl ช่วงนี้จากบรรดานักเขียนไทย เหมือนจะหันมาเขียนแนว Setting ไทยๆ มากขึ้นนะ

ไม่ว่าจะเป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ หรือแนวไสยศาสตร์โบราณ และทำออกมาได้สนุกหลายเรื่องเลย

โดยส่วนตัวแล้ว เวลาเราอ่านงานแนวนี้ เราเลยค่อนข้างจะอินกว่าแนวแฟนตาซี setting ของชาติอื่น (ก็ของบ้านเรา soft power นิ)

อาจจะเป็นเพราะว่ามันใกล้ตัวเราก็ได้ แล้วยิ่งภาพจำตัวละคร แบบหนุ่มไทยบ้าน หน้าคม กล้ามแน่น ผิวแทนๆ แผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยสักไรงี้ ชั้นว่ามันกร้าวใจแปลกใหม่ จากหนุ่มร่างบางที่เราๆคุ้นเคยอยู่เหมือนกันนะว่าไม่ได้

#อ่านตามlemon8 #Lemon8Club #รีวิวนิยายวาย #นิยายวายไสยศาสตร์ #รีวิวนิยาย #นิยายวายน่าอ่าน #นิยายวาย #ป้ายยานิยาย