ลาออกจากงาน มาเป็นแม่ค้า✨

สวัสดีค่ะวันนี้เจอมาแชร์ประสบการณ์ ลาออกจากงานมาเป็นแม่ค้า

ให้ทุกคนฟังกันนะคะ (อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัว งดดราม่า)

มีคนเคยบอกว่าถ้าเกิดว่าจะลาออกลองชั่งน้ำหนักดูข้อดีและข้อเสีย

ว่าอันไหนมันมากกว่ากันเราก็คิดพิจารณามาโดยตลอด

💡เหตุผลหลักๆเลยคือ

1. ทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ (ถ้าเกิดวันอาทิตย์มีงานด่วนก็ต้องทำ)

ในข้อนี้ตอนที่สัมภาษณ์งาน เรายอมรับเงื่อนไขนี้แต่ไม่คิดว่าวันอาทิตย์จะต้องมาทำ ข้อนี้สำหรับบางคนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะว่ามันเป็นงานของเราเนาะที่เราต้องรับผิดชอบแต่ที่เนี่ยมันบ่อยขึ้นก็เลยคิดว่ามันไม่ปกติ

2. เลิกงานไม่ตรงเวลา

เข้าใจค่ะว่าบางบริษัทเค้าอาจจะมีการเลิกงานไม่ตรงเวลาบ้างอาจจะเลทไปประมาณ 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงอะไรเงี้ยค่ะมีโอทีให้ แต่อันนี้คือเลิกงานไม่เคยตรงเวลาเลยสักครั้งหนึ่งลุกเร็วไม่ได้ สมมุติถ้า 6 โมงจะลุกเลยและกลับบ้านเลยมันเป็นเรื่องแปลกสำหรับที่นี่ค่ะ ถ้าถามว่าแล้วทำไมถึงไม่ลุกแล้วออกไปเลย เช้าวันรุ่งขึ้นโดนหัวหน้าเรียกไปคุยค่ะ เพราะเรื่องกลับบ้านเร็ว

3. งานด่วน

คือเรามีงานหลักของเราที่จะทำเป็นรูทีนทุกวันอยู่แล้วค่ะแต่ทีนี้มีงานด่วนเข้ามาบ่อยมากจนทำให้เราอ่ะงานมันโหลดไปเยอะมาก มันเลยทำให้เรารู้สึกกับตัวเองว่าประสิทธิภาพการทำงานของเรามันต่ำมันแย่ แล้วงานด่วนก็เข้ามาตลอดนะคะซึ่งไม่มีการชั่งน้ำหนักเลยว่าอันไหนสำคัญอันไหนไม่สำคัญเพราะถามหัวหน้าเค้าบอกว่าทุกอย่างสำคัญหมดเลยต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้วันนี้อะไรเงี้ยค่ะ

4. เวลาให้กับตัวเองและครอบครัวไม่มี

วันนั้น พ่อกับแม่จะชวนไปกินข้าวแล้วก็ออกไปเที่ยวกันวันอาทิตย์ แต่พ่อแม่กลับมาถามเราว่าวันนี้ว่างไหมวันนี้ทำงานหรือเปล่าจริงๆถ้าเกิดว่าเค้าชวนเราก็ต้องอยากไปอยู่แล้วใช่ไหมคะแต่อันนี้ต้องมานั่งทำงานก็เลยไม่มีเวลาให้เค้าเลย วันจันทร์ถึงวันเสาร์ก็ต้องทำงานที่ออฟฟิศแล้วกลับบ้านมาพ่อแม่ก็นอนกันหมดแล้วเวลาจะกินข้าวด้วยกันยังไม่มีไม่มีเลยค่ะ

5. ลา ที่ไม่ได้ลา

คือไม่สบายก็ต้องเรียกมาประชุมไม่สบายก็ต้องมาทำงานเพราะว่าไม่มีใครสามารถทำงานแทนได้

6. บริษัทเป็นระบบทำงานยาก

การประสานงานภายในองค์กร คือแย่มากคือฟิวแบบทำไปก่อนมีปัญหาค่อยแก้ทีหลังไม่มีการแก้ไขปัญหาตอนวางแผนเลย แล้วพอมีปัญหาพวกเราก็ต้องเป็นคนคิดที่จะแก้

7. เป็นที่รองรับอารมณ์ของหัวหน้า

อันนี้เชื่อว่าหลายหลายคนต้องเจอกันมาเยอะแน่ๆเลย บทที่เขาวีนเค้าด่าคือเค้าด่าแรงมาก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไม่ว่าเราจะถูกหรือเราจะผิดก็โต้แย้งไม่ได้โมโหอะไรก็ต้องมาลงตลอด คือมันทำให้รู้สึกแย่อ่ะ

🩵หลังจากนั้นเราก็เริ่มวางแผน การลาออกจากงานเลย

เราโชคดีตรงที่พ่อกับแม่เราทำอาชีพค้าขาย เราเลยสนใจที่อยากจะมาขายของและได้ช่วยแม่ด้วย เราก็เริ่มจากการเจาะตลาดว่า คนที่นี่ชอบกินอะไร อะไรจะขายได้ ก็เลยคิดได้มาว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นก็น่าจะขายได้ ก็เลยตัดสินใจไปเรียนค่ะ พอเรียนแล้วก็เริ่มลงทุน พอเข้าแล้วก็แจ้งลาออกค่ะ การออกมาขายของไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ เราต้องวางแผนการเงินใหม่ทั้งหมด เพราะว่าจากปกติแล้วเราจะได้เงินก้อนทุกเดือน แต่มาขายของเงินเราอาจจะไม่ได้เท่ากับเงินเดือน และเดือนบางเดือนก็อาจจะมีไม่มาก ขายของก็ขายได้ทั้งดีและไม่ดีค่ะ แต่ก็ต้องสู้นะคะ ท้อไม่ได้เลย

🗣️แนะนำเพิ่มเติม:

สุดท้ายนี้อยากจะบอกทุกคนว่าไม่ต้องกลัวการเริ่มต้นใหม่ การเริ่มต้นใหม่มักดีเสมอ เราจะได้มีการเติบโตไปอีกก้าวหนึ่ง เรามีเวลาให้กับคนที่เรารักและตัวเราเอง อย่ามองแต่คนอื่นมองตัวเราเองด้วยว่าวันนี้เรามีความสุขหรือยัง

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ ใครที่กำลังลังเลลองถามใจตัวเองดูนะ🤍

#ลาออก #ลาออกจากงานประจำ