ไม่ได้มาอวด อยากมาแชร์เป็นกำลังใจให้ทุกคน

อย่าดูแค่ปัจจุบันว่าทำไมเราถึงมีทุกอย่าง

#แต่ อยากให้ดูว่าเราผ่านอะไรมาบ้างถึงมีวันนี้

เรา 2 คนใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 7 ปี และการเดินทางแต่ละก้าวของเราเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันทั้ง 2 คน ซึ่งการตัดสินใจแต่ละครั้งในทุกๆก้าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะถูกหรือผิด เราจะไม่เคยโทษว่าใครคิดผิดหรือใครถูก แต่จะร่วมกันแก้ปัญหาให้ผ่านไปให้ได้ #จะหาคนผิดเพื่อให้อีกฝ่ายถูกเพื่ออะไร

วันนี้เราจะมาแชร์นะครับ ว่าในแต่ละปีเราผ่านอะไรมาบ้าง? และเราทำอะไรมาบ้าง? ทำไมเราถึงมีแบบทุกวันนี้ได้ เราไม่ได้มาโชว์รวยหรือโอ้อวดให้ใครดูนะครับ แต่เรามาสร้างกำลังใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง เพราะครั้งหนึ่งเราก้อเคยท้อแท้และสิ้นหวังเหมือนกันครับ

✅ปี 2556 เราทั้ง 2 คน ทำงานธนาคารที่ อ.หาดใหญ่ (ตามรูปบนขวามือเลยครับ) เงินเดือนรวมกันก็ประมาณ 50,000++ มีรถ 2 คัน บ้าน 1 หลัง (ผ่อนนะครับ) เงินไม่พอครับ เรา2คนเลยตัดสินใจออกจากงานธนาคาร คิดว่ามาทำธรุกิจส่วนตัวน่าจะดีกว่าก็เลยออกมาทั้งคู่เพื่อมาทำธรุกิจครับ

✅ปี 2557-2559 ของเรา เราตัดสินใจย้ายตัวเองมาอยู่ จ.ภูเก็ต ขายบ้านที่หาดใหญ่และขายรถไป 1 คัน เพื่อมาเปิดธรุกิจร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ พร้อมกับเปิดบิลตัวแทนทำธุรกิจขายออนไลน์กับแบรนด์อีฟส์ไปด้วยซึ่ง ณ ตอนนั้นน้องเอมทำคนเดียวทำแค่ขำๆ ไม่ได้คิดจริงจังเลย

👉มีหลายคนถามว่าทำไมไม่เปิดที่หาดใหญ่ คำตอบคือร้านเตี๋ยวเรือเราซื้อแฟรนไชส์มา ที่หาดใหญ่มีแล้วเค้าไม่ให้เปิดครับ ตอนเปิดร้านเตี๋ยวเรือปีแรกเรายังมีเงินเก็บที่เหลือจากขายบ้านพอสมควรนะครับ เก็บไว้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน

👉ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ขายเตี๋ยวเรือถึงแม้เราจะเจอปัญหาต่างๆมากๆมาย ไม่ว่าจะโดนคนโกง ปัญหาเด็กที่ร้านหยุดงาน เงินไม่พอจ่ายค่าเช่า ค่ารถ และที่สำคัญเรามีหนี้บัตรเครดิตมากกว่า 6 แสนบ้านตลอดระยะที่เราทำร้านเตี๋ยวเรือแต่เราไม่เคยทะเลาะกันเลยนะครับ เราก็มีความสุขในแบบที่เราเป็น ณ ตอนนั้น (รูปประกอบรูปที่2ทางขวาครับ) 3 ปีที่ผมขายเตี๋ยวเรือ ผมไม่ประสบความสำเร็จในธรุกิจด้านนี้เลยครับ จึงตัดสินใจเซ้งกิจการต่อให้คนอื่นครับ

✅ปี 2560 การที่เราตัดสินใจเซ้งกิจการไป ไม่ใช่ว่าเซ้งแล้วเราว่างงานนะครับ แต่เรามีงานที่เราคิดว่าดีกว่ามาทดแทน และผมเองไม่คิดเลยว่า จากปี 2557 ที่ผมตัดสินใจทำธุรกิจร้านเตี๋ยวเรือ และน้องเอมตัดสินใจเปิดบิลขายออนไลน์แบรนด์อีฟส์ สิ่งที่น้องเอมตัดสินใจทำวันนั้น มันทำให้เรามีได้อย่างทุกวันนี้เลยครับ เราลุยขายออนไลน์แบรนด์อีฟส์แบบ 100% เราใช้เวลา 6 เดือนแรกของปี สามารถปิดหนี้บัตรเครดิต 6 แสนบาทได้หมด และช่วงปลายปี 2560 เราได้ซื้อบ้านหลังแรกที่ภูเก็ตได้สำเร็จบ้านหลังแรกมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทครับ

✅ปี 2561 เรา2คนขายออนไลน์อีฟส์แบบจริงจังๆมากๆเลยครับช่วงปีนี้ ทำให้ยอดของเราโตขึ้นแบบก้าวกระโดน สร้างยอดขายทำให้เราได้รางวัลไปเที่ยวมัลดีฟฟรี และได้เงินสดอีก 3 แสนบาทเป็นของรางวัล พอยอดขายเราโตทีมโตทำให้เราตัดสินใจซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่นนทบุรีบ้านหลังนี้มูลค่ากว่า 7 ล้านบาทครับ และช่วงปลายปีเราก็ย้ายมาอยู่นนทุบรี เพื่อสะดวกในการขนส่งและการทำงานมากยิ่งขึ้นครับ ส่วนบ้านที่ภูเก็ตเราก็ประกาศขาย

✅ปี 2562 ปีนี้ เป็นปีที่ดีที่สุดในการขายออนไลน์แบรนด์อีฟส์เลยครับ เราสร้างยอดขายในปี 2561 ทำให้เราได้รางวัลเป็นรถเบนซ์ 1 คัน จากบริษัทอีฟส์ (รูปประกอบที่3ทางขาวครับ) และในปีนี้เราสามารถมีเงินเก็บในบัญชีเป็นตัวเลข 7 หลักเป็นที่เรียบร้อยครับ

✅ปี 2563 ปีปัจจุบัน ปีนี้เรา2คนตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างคนสร้างทีมให้ทุกคนมีเหมือนเราให้ได้ มีหลายคนอาจจะมองว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว แต่ส่วนตัวเราเองเราถือว่า เราพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง หลายคนอาจจะบอกว่าไม่จริงมั่งมีทุกอย่างแล้วจะพึ่งเริ่มต้นได้ไง ใช่ครับในมุมคนที่มองเราคือว่าประสบความสำเร็จแล้วอันนี้เรื่องจริง แต่ในมุมมองของเราการที่เราจะประสบความสำเร็จได้ คือ เราต้องสร้างทุกคนที่อยู่ภายใต้VIP10 มีเหมือนเราให้ได้ครับ นี่คือเป้าหมายของเราในปีนี้และปีต่อๆไป

❤นี่คือเรื่องราวของเราโดยประมาณนะครับ เห็นไหมครับเรา 2 คนไม่ได้มีเงินทุนหรือต้นทุนทางสังคมอะไรเลย เราก็แค่เด็ก2คนที่ไม่เคยยอมแพ้ในทุกๆสิ่งที่เข้ามา คิดบวกในทุกๆเรื่องแล้วชีวิตจะบวกตลอดครับ

👉หลายคนอยากประสบความสำเร็จแบบเรา ได้อ่านเรื่องราวของเราแล้ว จะรู้ว่ามันไม่ง่ายเหมือนที่ทุกคนเห็นเราในตอนนี้ ในตอนที่เรามีทุกอย่างแล้ว

😊รอบหน้าผมจะไลฟ์สดให้ทุกคนได้ฟังชีวิตของเรานะครับ บทความนี้เป็นแค่สรุปส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง เรื่องราวของเรามีเยอะกว่านี้มากๆครับ

#เราไม่ใช่คนรวยมาก่อน

#เราไม่ใช่คนดังหรือเน็ตไอดอลมาก่อน

#เราไม่มีต้นทุนทางสังคมอะไรเลย

#เราเป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง

เป็นกำลังใจให้กับคนที่รู้สึกท้อแท้นะครับ สู้ๆคร้าป