แชร์ประสบการณ์ลุยเดี่ยวเที่ยวไต้หวันฉบับไม่ง้อใคร EP1

สวัสดีจร้าทุกคน ที่เราห่างหายไปเพราะเพิ่งกลับจากทริปแบคแพคลุยเดี่ยวที่ไต้หวันสดๆร้อนๆ เอาเป็นว่าทริปรีวิวนี้เราขอแชร์เรื่องเล่าประสบการณ์ฉายเดี่ยวไปไต้หวันคนเดียวแบบไปครั้งแรก ใครสายกิน สายมู เที่ยวที่ไหนบ้าง ตลอด5วัน4คืนทำอะไรบ้างของเรา ให้กับเพื่อนๆที่อยากไปไต้หวันแต่ไม่รู้เริ่มยังไงกัน เราหวังว่ารีวิวจากประสบการณ์เรียวๆของเรานี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวไต้หวันกัน เราจะมาบอกมุกเม็ด ทุกเรื่องราว อย่าเพิ่งหนีหายตามเรามาอ่านก็จะไปเองได้ง่ายๆจร้า โดยช่วงที่เราไปได้เช็คอุณหภูมิในเวปภูมิอากาศของไต้หวัน ซึ่งค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ16-19องศา และมีฝนทุกวันเราเลยต้องพกร่มไปด้วย

เราขอเริ่มEPแรกจากสนามบินเถาหยวนสู่เมืองไทเปกัน

ด้วยเริ่มต้นทริปจากการหยุดยาว ไม่รู้ไปไหนก็เลยมาตกอยู่ที่ไต้หวัน ไหนๆก็ไม่เคยไป อยากกิน อยากมู ขยายฟรีวีซ่าแบบไม่ต้องขอช่วงนี้ด้วย เราก็เริ่มลงมือจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปBooking กันไปเลย โดยสายการบินที่เราเลือกคือการบินไทย ✈️ เราเลือกจองไฟล์ทแบบอยากเที่ยวตั้งแต่วันแรกเลยจะได้ไม่เหนื่อยตอนวันกลับที่ต้องรีบกลับไปสนามบิน เราว่าจริงๆเราก็ค่าตั๋วก็แพงนะหมื่นกว่าบาทถ้าเทียบกับสายการบินอื่นที่เพื่อนๆอาจจะหาได้ถูกกว่าแต่เรามองว่าเวลาที่เราอยากได้รวมกับไม่ต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เน้นไปคนเดียวครั้งแรกขอแบบสบายๆไว้ก่อนเราเลยสบายใจในราคานี้ ก็อย่าเพิ่งดราม่าเรื่องราคาหละกัน เอาที่สบายใจแต่ละคนไม่เท่ากันเนอะ เราเลยเลือกไฟล์ทเช้าบิน8.15น ถึงสนามบินเถาหยวนตอน 12.45น ลงTerminal1 ซึ่งเวลาเลือกสายการบินแต่ละสายก็จะลงTerminal ที่ต่างกันไป เมื่อถึงสนามบินเรียบร้อยเราก็จะไปรับบัตรโดยสารต่างๆที่เราได้จองทั้งEasycard กับ Taoyuan Airport MRT ผ่านจากแอปKlook ที่เราจองตั้งแต่ที่ไทยแล้ว แต่ถ้าใครไม่อยากจองผ่านแอปแบบเราก็สามารถไปซื้อที่จุดตู้จำหน่ายบัตรที่สนามบินได้เช่นกัน ซึ่งคนที่จองแอปแบบเราๆก็จะต้องเช็คจุดรับบัตรด้วยเพราะลงต่างTerminal จุดรับจะต่างกันด้วย จุดรับบัตรของTerminal 1 จะเลยไปห่างจากป้ายนำทางไปนั่งรถMRTฝั่งซ้ายมือไปนิดเดียวเลย แค่มองหาป้าย ezfly ไว้เราก็ยื่นแอปแสดงเลขที่จองให้พนักงานได้เลย ซึ่งเราเลือกซื้อeasy cardแบบเลือกให้เติมเงินไปเลย โดยจะมีค่ามัดจำบัตร100ส่วนนี้เราจะขอคืนไม่ได้ แต่ถ้าเงินในบัตรเหลือ ก่อนเรากลับเราจะสามารถขอเงินตรงนี้คืนได้ที่จุดจำหน่ายเลยโดยบัตรจะมีอายุการใช้งานต่อ1-2ปี ถ้าใครคิดว่าจะไปอีกก็เก็บไว้ได้เลย จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่อีก พอได้บัตรครบแล้วก็เดินตามทางป้ายที่เขียนว่าไป Taoyuan Airport MRT เพื่อนั่งรถไปยัง Teipai Main Station กัน เพราะสถานีนี้คือสถานีหลักใหญ่ที่เป็นจุดกลางในการไปตามเขตต่างๆแต่ละสายของไทเปกันจร้า โดยเพื่อนๆต้องสังเกตป้ายไฟสถานีดีๆตรงนี้เพราะรถด่วนที่จะเข้าตัวเมืองไทเปจะจอดแค่3สถานี แต่เราด้วยความที่รถมาก็ขึ้นเลยจร้าตามนิสัยจนลืมดูว่าที่เรานั่งมันเป็นขบวนปกติที่จอดทุกสถานี 😱😱

ข้อเสียของการลืมดูตารางขบวนรถ คือเราจะเสียเวลาในการนั่งรถไฟนานมากขึ้น แนะนำว่าดูที่เขียนว่าExpressไว้นะ ส่วนอีกวิธีที่สะดวกขนาดคนไต้หวันยังแนะนำเราแต่ไม่ทันหละจร้า ฉันยืนอยู่ที่สถานีแล้วนั่นคือการนั่งแท็กซี่ ซึ่งจะสะดวกสุด แต่ต้องแลกกับราคาที่ค่อนข้างสูงประมาณ 1100-1200บาท เอาเป็นว่าถ้าใครมองว่าไปคนเดียว กระเป๋าไม่หนัก ช่วงเวลาที่ไปยังมีรถและอยากลองนั่งMRTแบบเราก็ตามมา แต่ถ้าใครเลือกไฟล์ทดึกและเดินทางหลายคนการนั่งแท็กซี่จะดีกว่ามากจร้าเพราะMRTจะมีรอบหมดเวลารถวิ่งด้วย

โดยรวมบ้านเมืองของไต้หวันสะอาดมากๆ เวลาจะขึ้นหรือลงบันไดเลื่อนตามที่สาธารณะ หรือสถานีรถไฟฟ้าเราจะต้องยืนชิดขวาเพราะข้างซ้ายจะเว้นไว้สำหรับคนที่รีบเลยเลือกที่จะเดินเพราะงั้นอย่ายืนขวางกันนะจร้า อ้อ! แล้วกฎหมายที่นี่เค้าก็ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะงั้นห้ามพกกันนะ ต่อมาเรื่องห้องน้ำในไต้หวันคือสะอาดมากกกก ขนาดว่าเราเป็นคนซีเรียจเรื่องห้องน้ำคือไม่สะอาดจะไม่เข้าเลย แต่ตลอดทริปเราเข้าได้สบายไม่ต้องมาอุดจมูกเลย แถมเป็นโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติทำให้พื้นแห้งไม่เลอะเลย ขนาดที่จิ่วเฟิ่นก็ยังไม่เหม็นคือผ่านมากๆค่ะ

รีวิวหน้าจะพักที่ไหนดี เที่ยวไหนบ้างจะมาเล่าต่อในEP2 ให้นะจร้า

#เที่ยวหน้าหนาว #เที่ยวไหนดี #เที่ยวไต้หวัน #รีวิวไต้หวัน #เที่ยวหน้าหนาว #ติดเทรนด์ #เที่ยวกับlemon8 #ไต้หวัน #เช็คอินกินเที่ยว #ติดเที่ยว