อยากป้ายยา(ซีรีส์&หนัง+รีวิว)EP.4 Society of the Snow ❄️

❄️ สวัสดีครับผม ทุกคนที่ติดตาม ที่ผ่านมาอ่านทุกท่านนะครับ มาพบกับการรีวิวซีรี่ย์และหนังจากทางสตรีมมิ่งอีอีกครั้ง เป็น EP.ที่ 4 รอบนี้เป็นหนังจากทาง NETFLIX เป็นหนังที่มีชื่อเข้าชิงรางวัล ‘’ ออสการ์ 2024 ‘’ ถึง 2 รางวัลด้วยกัน เช่น รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมและรางวัลการแต่งหน้า-ออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม เช่นกันเลยทีเดียวเป็นภาพยนตร์จากประเทศ สเปน โดยหนังเรื่อง Society of the Snow (หิมะโหด คนทรหด) หนังสร้างจากเรื่องจริงของผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก หนึ่งในหนังดีที่ทุกคนไม่ควรพลาด! [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflix บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อและรายละเอียดของหนังกันก่อนดีกว่า เรามาชมกันเลยครับ :

❄️ ชื่อเรื่อง : Society of the Snow (หิมะโหด คนทรหด)

❄️ ประเภทของหนัง : กระตุกขวัญ/ผจญภัย

❄️ ความยาว : 144 นาที ( 2 ชม. 24 นาที )

❄️ ผู้กำกับ : เจ.เอ.บาโยนา

❄️ คะแนนจาก IMDB : 7.9

❄️ คะแนนจาก Rotten Tomatoes 🍅: 90 %

❄️ คะแนนจาก อยากดูต้องได้ดู : 10/10 คะแนน 🔥

❄️ นักแสดงนำ : เอนโซ โวกรินชิด , อากุสติน ปาร์เดลยา , มาติอัส เรกัลต์

❄️ เรื่องย่อ : หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในปี ค.ศ.1972 ติดตามเรื่องราวของเที่ยวบิน 571 ที่สมาชิกทีมรักบี้ชาวอุรุกวัยจำนวน 40 คนเช่าเหมาลำเพื่อเดินทางไปยังประเทศชิลี แต่โชคไม่ดีที่ในระหว่างทางเครื่องบินลำนี้ได้ชนเข้ากลับธารน้ำแข็งใจกลางเทือกเขาแอนดีส เหล่าผู้รอดชีวิตจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดจนกว่าการช่วยเหลือจะมาถึง ซึ่งพวกเขาจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและบททดสอบอะไรบ้าง ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Society of the Snow (หิมะโหด คนทรหด) สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix

❄️ รีวิวจากอยากดูต้องได้ดู : สำหรับหนังเรื่องนี้ส่วนตัวคือผมไม่ได้ได้เห็นตัวอย่างมาก่อน พึ่งมาเห็นจากการประกาศรายชื่อเข้าชิงออสการ์พอดี ซึ่งประกอบกับที่ผมรู้จะดูและรีวิวอะไรดีจึงมาลองหาจากในนี้ และเจอว่ามีใน NETFLIX จึงเลือกตัดสินใจดูเเละรีวิวเรื่องนี้โดยทันทีซึ่งผมยอมรับว่าชอบหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงอยู่แล้ว และพอได้ดูจนจบก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง ยิ่งกว่านั้นคือมันดีเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้ด้วย ตัวหนังถ่ายทอดความสิ้นหวังของเหล่าผู้รอดชีวิตออกมาได้ดีมากๆ มันดีในทุกภาคส่วนจริงๆ ทั้งบทที่เขียนมา ไปจนถึงการดำเนินเรื่อง หนังดำเนินเรื่องรวดเร็วมาก เริ่มต้นด้วยการให้เราได้เห็นเหล่านักกีฬารักบี้วัยรุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความหวังว่าจะได้ไปเที่ยวอุรุกวัย แต่ความสุขมันอยู่ได้ไม่นาน เพราะตัวหนังดำเนินไปเร็วมาก แปปๆ ก็ขึ้นเครื่อง รู้ตัวอีกทีก็เครื่องบินตกแล้ว ซึ่งตัวหนังเขาจะมุ่งเน้นไปที่การถ่ายทอดเอาชีวิตรอด ดังนั้น ช่วงต้นจึงปูสั้นๆ และเอาเวลาเกือบทั้งหมดให้เราได้เห็นความทรหดของผู้รอดชีวิต ตัวผมขอชมฉากเครื่องบินตกก่อนเลย เขาทำฉากเครื่องบินตกออกมาได้ดีมากๆ ดูสมจริงและดูสยดสยองสุดๆ คือมันสมจริงมากจนเป็นภาพติดตาไปเลย พอหลังจากเครื่องบินตกแล้ว หนังก็จะพาเราไปสู้ความสิ้นหวังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เล่าเรื่องผ่านตัวละครหลายตัว เขาเลือกเล่าเรื่องผ่านข้อความในจดหมายที่ผู้รอดชีวิตจดบันทึกไว้ ช่วงวันแรกๆ พวกเขาก็ยังพยายามอดทนเพื่อนั่งรอการช่วยเหลือ แต่หลังจากผ่านไปได้ประมาณ 10 วัน จากนั้นหนังก็มอบความหวังเล็กๆ ให้คนดูด้วยการให้เราเห็นตัวละครพยายามซ่อมวิทยุ แต่พอซ่อมวิทยุได้เขาก็มอบความสิ้นหวังให้อีกครั้งด้วยการให้รู้ว่าทีมค้นหาเลิกค้นหาไปแล้ว และจุดนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะหากพวกเขาอยากรอดต่อ ทางเดียวที่จะทำได้คือพวกเขาต้องกินเพื่อนและครอบครัวของตัวเอง มันคือการก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ไปแล้ว และหนังได้ถ่ายทอดความทรหดออกมาได้อย่างดีมากเสียจนตอนผมดูผมอินมากและคิดตามตลอดเวลาว่า ถ้าเป็นผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ผมจะทำยังไง ผมคงไม่รอดแน่ๆๆ555 และความสิ้นหวังมันยังไม่จบแค่นั้น เพราะหลังจากนั้นยังจะมีทั้งพายุหิมะ และใครที่เป็นแผลก็จะติดเชื้อจนเสียชีวิต คนรอดก็น้อยลงเรื่อยๆ การกินเพื่อนจากที่ยากก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆ เอาเป็นว่าทุกคนที่รอดกลับมาไม่มีใครเหมือนเดิมอีกเลย คือมันทรหดและสิ้นหวังขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายเรื่องเลย ก่อนจะจบด้วยการให้เห็นว่าพวกเขารอดมาได้ด้วยความพยายามของตัวเองล้วนๆ ต้องเดินเท้านานกว่า 10 วันเพื่อไปขอความช่วยเหลือ และพอรอดมาได้ฉากสุดท้ายเราก็จะเห็นว่าแววตาพวกเขาว่างเปล่ามาก มันเป็นเหตุการณ์ที่จะติดในใจพวกเขาไปตลอดชีวิต อีกซีนที่ชอบเลยคือตอนพวกเขามาถึงและมีแม่ของตัวละครหนึ่งมากอดพร้อมพูดว่า "ปาฏิหาริย์มีจริง" ก่อนตัวละครจะสวนไปว่า "ปาฏิหาริย์อะไร?" ซึ่งเราคนดูที่เห็นความพยายามเอาตัวรอดของพวกเขาจะเข้าใจคำพูดนี้ดีเลยว่ามันไม่ใช่ ปาฏิหาริย์ แต่มันคือการดิ้นรนต่างหาก สรุปเลยก็คือ หนังเรื่องนี้ดีมาก อยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ต้องเตือนก่อนว่าไม่เหมาะกับคนที่จิตใจอ่อนไหว เพราะหนังมันค่อนข้างดาร์กและหม่นมากๆ 10/10 ไปเลย ผมบอกเลยเหมาะสมแล้วที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ แต่จะได้หรือไม่นั้นรอติดตามการประกาศกันอีกทีในวันที่ 10 มีนาคม 2024 กันได้เลย ❄️ โดยการรีวิวครั้งนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ อย่าลืมไปพิสูจน์หนังที่มีเข้ารางวัลกันด้วยกันได้ที่ NETFLIX กันได้เลย มีพากย์ไทยด้วยครับ

❄️ และสุดท้ายนี้ผมขอรบกวนกดไลค์ กดคอมเม้น กดติดตามให้ด้วยนะครับ หรือจะเสนอให้ทำอะไร หรืออยากให้แก้ ให้เพิ่มอะไร เสนอได้เลยนะครับ ผมยินดีที่จะนำคำติชมทั้งข้อดีข้อเสียหรือข้อเสนอแนะนั้นๆ นำทุกคำคอมเม้น คำแนะนำ มาใช้ในการปรับปรุงการทำคอนเทนท์ของผมในครั้งต่อไป สวัสดีครับ 🙏🏼

#ติดเทรนด์ #อยากดูต้องได้ดู #รีวิวหนังและซีรีส์ #Netflix #societyofthesnow #lemon8review

#Lemon8#หิมะโหดคนทรหด #รีวิวNetflix