STEMI in the young

เมื่อคืนนี้อยู่เวรห้องฉุกเฉิน...

ตี 5:15 โทรศัพท์ดังขึ้น

"หมอคะ ... มีคนไข้ Chest pain มาคนนึงค่ะ"

ผมก็เดินออกมาดู แบบชิลล์ๆ

เพราะเสียงที่ Notified ดูไม่ได้ตื่นเต้นมาก

ดูเผินๆ จากอายุอานามก็ยังไม่มาก

38 ปี วัยฉกรรจ์ ทำงานรับจ้างแทงปาล์ม

แต่พอดู EKG ปุ๊ป ....

"เชรดดด ST - elevation V2-V4 "

"มี Reciprocal change III , aVF ด้วย"

ผมทัก น้องพยาบาลซ้ำ อีกที

"อายุ 38 ปี เองเหรอครับ??"

น้องพยาบาล ตอบ "ใช่ค่ะ"

ปาดเหงื่อ ... งานเข้า

ต้องรีบเร่ง แข่งกับเวลาอีกแล้ว

ปรึกษาอายุรแพทย์ และ ประสานกับ CCU

เพื่อทำ Cath Lab ที่ รพ.ศูนย์ประจำจังหวัด

และได้รับการส่งต่อ ภายใน 45 นาที

หลังจากคนไข้ถึงห้องฉุกเฉิน

ประเด็นคือ ... ทำไมเจอ STEMI in the young บ่อยจัง

ช่วงหลังๆ คนไข้ STEMI เกือบครึ่ง ที่ผมเจอ

อายุเริ่มน้อยกว่าผมอีก

(หรือว่าเราแก่แล้ว 😅😅😅)

รายนี้ ผู้ชาย 38 ปี ร่างกายกำยำ

ทำงานแทงปาล์มได้

ดังนั้นต้องแข็งแรงพอสมควร

แต่ประวัติเสี่ยงที่เห็นชัดๆคือ

"Heavy smoking"

สูบใบจากวันละ เกือบ 20 มวน

สูบมาเป็นเวลา มากกว่า 10 ปี

อันนี้เป็นเหตุผลว่า ทำไม อายุเกิน 35 ปี

ผมจึงมักจะแนะนำตรวจสุขภาพประจำปี

อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

เพราะสิ่งนึงที่ ผมแนะนำเหมือนๆกันทุกคน

ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ คือ

งดสูบบุหรี่ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

หมั่นออกกำลังกาย

รวมทั้งมีการพักผ่อนที่เพียงพอ

เพราะปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้

แต่ละอย่างล้วนส่งผลให้เกิด NCDs ไม่ทางใดก็ทางนึง

แต่ก็มักจะมีคนไข้บอกผมบ่อยๆว่า

"ผมไม่เห็นเป็นอะไรเลยคุณหมอ"

หรือ

"ผมยังไม่มีอาการอะไรเลยคุณหมอ"

และทุกครั้งผมมักจะตอบว่า

"ไม่มีนั้นแหละครับดีแล้วครับ

ดีกว่ามีอาการแล้วต้องมานั่งรักษาหรือแก้ไขทีหลัง"

และคำพูดมักพูดติดปากเสมอว่า

"เราควรดูการรักษาสุขภาพ

ตั้งแต่ตอนที่ ร่างกายยังแข็งแรงอยู่

เพราะเราก็ไม่รู้หรอกว่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว

บางครั้งเราก็ไม่สามารถกู้กลับมาให้เหมือนเดิมได้อีก"

ดังนั้นอยากให้ทุกคนเริ่มต้นดูแลสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้

เพราะ "สุขภาพ" เป็นของเรา

ถ้าแม้แต่ตัวเรายังไม่ยอมดูแล "เค้า" แล้ว

แล้วใครล่ะจะมาดูแล "เค้า" แทนเรา

* STEMI (ST elevation Myocardial Infarction)

เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรง