Tips การใช้ British National Railway

1. การจองตั๋วให้ได้ราคาถูก🚉🎟️

- วางแผนการเดินทางล่วงหน้า (Advance tickets) 📱

การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าในราคาที่ถูกกว่าได้ โดยทั่วไปแล้ว National Railway จะออกโปรโมชั่นตั๋วรถไฟล่วงหน้าในช่วง 12 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง ราคาของตั๋วล่วงหน้ามักจะมีส่วนลด 30-50% จากราคาปกติ ส่วนตัวเคยจองล่วงหน้าช้าสุดที่ได้ราคาดีคือก่อนเดินทางจริง 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ หากเป็นการเดินทางระยะสั้น เช่น จากเดอรัม ไปนิวคาสเซิล ซื้อก่อนเดินทางในวันเดียวกันก็อาจจะได้ราคาถูกถ้าวันนั้นเป็นช่วงคนไม่หนาแน่น (Super off-peak) แต่ถ้ารู้ตารางการเที่ยวซื้อล่วงหน้าดีกว่าค่ะ ไม่ต้องเสี่ยงหน้างาน

- ขึ้นรถไฟในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off-Peakand Super Off-Peak fares)

การเดินทางในช่วง Off-Peakand Super Off-Peak จะได้ราคาตั๋วถูกกว่าราคาปกติ ซึ่งโดยทั่วไปช่วง Off-Peak จะเริ่มต้นตั้งแต่ 09:30 น. ถึง 16:00 น. ในวันธรรมดาในเมืองใหญ่ และตั้งแต่ 09:00 น. ถึง 16:00 น. ในเมืองอื่นๆ รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดธนาคารตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามควรเช็คช่วงเวลา Peak หรือ Off-Peak กับทางบริษัทผู้ให้บริการรถไฟอีกครั้งค่ะ เพราะในแต่ละเมืองจะมีข้อมูลที่แตกต่างกัน ส่วนมากตั๋วจะระบุเลยว่าเราเดินทางได้ช่วงไหน

- สมัครสมาชิก National Railcard เพื่อรับส่วนลดค่าโดยสาร ⅓ 💳

กรณีนี้เหมาะกับคนที่อยู่อังกฤษนาน เนื่องจากต้องเสียค่าสมัครบัตร National Railcard รายปี รายละเอียดตามนี้ค่ะ :

📍Saver Railcard สำหรับอายุ 16-25 ปี ราคา 30 ปอนด์ต่อปี (หากอายุเกินแต่เป็นนักเรียนอยู่สามารถทำเรื่องขอสมัครบัตรนี้ได้ค่ะ โดยต้องกรอกแบบฟอร์มที่ขอจากเคาเตอร์สถานีและนำไปประทับตราของมหาวิทยาลัย)

📍Two Together Railcard สำหรับการเดินทางเป็นคู่อายุ 16-30 ปี ราคา 30 ปอนด์ต่อปี

📍Senior Railcard สำหรับอายุ 60 ปีขึ้นไป ราคา 30 ปอนด์ต่อปี

⭐⭐การใช้ส่วนลดของบัตรประเภทนี้จะต้องมีการโชว์บัตรให้พนักงานตรวจตั๋วดูประกอบการตรวจตั๋วทุกครั้งค่ะ หากไม่มีจะโดนปรับเอาได้นะคะ ฉะนั้นถ้าตอนซื้อกรอกไปว่าใช้สิทธิ National Railcard จะต้องพกบัตรไปด้วยทุกครั้ง!!!!!!!⭐⭐

2. จองที่นั่งไว้สะดวกกว่า💺💺

เนื่องจากในการเดินทางโดย National Railway จะเป็นการเดินรถไฟข้ามเมืองยาวๆ ดังนั้น จะมีผู้โดยสารที่เดินทางสั้นๆ ระหว่างเมืองขึ้นมาด้วย ซึ่งถ้ามีคนขึ้นรถไฟฟ้าเยอะบางทีต้องแย่งที่นั่งกันหากไม่ได้จองเลขที่นั่งเอาไว้ ดังนั้น ทุกครั้งในการเดินทางเราแนะนำให้จองเลขที่นั่งไว้เลยจะสะดวกกว่ามากๆ ค่ะ และหากนำกระเป๋าเดินใบใหญ่ไป ระบุตอนจองตั๋วด้วยนะคะ สามารถดูได้ตามภาพเลยค่ะ ในภาพเป็นตั๋วอย่างการจองตั๋วรถไฟสาย LNER

❌ข้อควรระวัง : หากขึ้นรถไฟช่วง peak และมีคนเยอะมากๆ บางครั้งการรถไฟจะยกเลิกการจองที่นั่งค่ะ กว่าจะรู้บางทีก็ตอนขึ้นรถไฟไปแล้วเพิ่งมีป้ายยกเลิกค่ะแต่ไม่บ่อยค่ะ ส่วนมากเราจองไปก่อน มีที่นั่งสบายใจกว่า มีโต๊ะมีที่ชาร์จด้วย ถ้าชอบเงียบๆ สามารถจองเป็นตู้ห้ามใช้เสียงก็ได้ค่ะ ❌

3. ใช้สิทธิส่วนลดค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยวผ่านตั๋วรถไฟ🤹

สิทธินี้เพิ่งเคยใช้ตอนจะกลับจากอังกฤษเลยค่ะ ถ้าคุณวางแผนซื้อตั๋วล่วงหน้า คุณสามารถใช้ตั๋วซื้อบัตรเข้าแหล่งท่องเที่ยวในราคาที่ถูกลงได้ค่ะ แต่ต้องไปเที่ยวที่ที่จองไว้วันเดียวกับวันบนตั๋วเดินทางนะคะโดยสามารถดูโปรโมชั่นได้ตามลิ้งนี้ค่ะ หรือ เสิร์ชคำว่า National rail's Days Out Guide ก็ได้ค่ะ

https://www.daysoutguide.co.uk/?_gl=1*16rpwz8*_ga*MTg0MzM3MzYzLjE3MDAxNDY1NTE.*_ga_9XZQ64P5VS*MTcwMDE0NjU1My4xLjEuMTcwMDE0ODQwMy4wLjAuMA..

โดยเราจะต้องเข้าไปเลือกโปรของสถานที่ที่เราจะเข้าชม ระบุผู้เข้าชม สถานีที่เราขึ้น และต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวของผู้เข้าชมค่ะ จากนั้นจ่ายเงินและปริ๊นบัตรออกมา

อย่างรูปตัวอย่าง เราเดินทางไปลอนดอนกับคุณพ่อจากเมืองเดอรัม ในวันที่ 5 กันยายน ดังนั้น เราจะต้องเข้าชมโบสถ์ St. Paul’s ในวันนั้นซึ่งคือ 5 กันยายนค่ะ โดยโปรที่เราได้คือ 2 For 1 หมายถึงมาสองคนจ่ายราคา 1 คนค่ะ แบบนี้ก็สามารถประหยัดเงินได้มากเลยค่ะ

#ท่องเที่ยว #เดินทาง #อังกฤษ #UK