แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักผิดวิธี สุขภาพพัง

#รีวิวชีวิตผู้ใหญ่

จริงๆเรื่องนี้เกิดได้หลายปีแล้ว แต่ยังคงจำความพยายามลดน้ำหนักในตอนนั้นได้ และเป็นสิ่งเตือนใจเรา ว่าจะไม่กลับไปทำอีกครั้ง

เหตุผลทำไมถึงต้องลดน้ำหนัก?

ตอนนั้นน้ำหนักเราขึ้นมา 56 กิโลกรัมจาก 48 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักที่มากที่สุดในชีวิตเราแล้ว เนื่องจากหลังเรียนจบเราอยู่บ้านเฉยๆ และกินตามใจปากสุดๆ ชาเขียววันละ 2 แก้ว กินจุกจิกสุดๆ แต่อีก 2 เดือนเราต้องรับปริญญาแล้ว ทำให้อยากถ่ายรูปออกมาสวยๆ เพราะถ่ายรูปช่วงนั้นตัวดูบวมมากๆ ไม่มั่นใจที่จะลงรูปเลย

วิธีการลดน้ำหนัก [อย่าทำตาม‼️]

1. ออกกำลังกายทุกวัน วันละ 30 นาที เช่น ว่ายน้ำและวิ่ง

แต่ถ้าชั่งน้ำหนักแล้ว น้ำหนักไม่ลดลงเลย เราจะปรับไปออก 1 ชั่วโมง ทำงานมาเหนื่อยแค่ไหนก็จะกลับมาออกกำลังกาย

2. กินคลีน 2 มื้อ นอกจากว่าหิวจริงๆเราจะกิน 3 มื้อหรือกินขนมคลีนลองท้อง แต่ส่วนใหญ่จะกินแค่ 2 มื้อ

ผลลัพธ์:

- น้ำหนักลดจริง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 45 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน

แต่⁉️

มีช่วงที่เราย้ายที่ทำงาน ซึ่งงานหนักกว่าที่เดิมมากๆ และพี่คนเก่าทิ้งงานของเดือนก่อนๆไว้ให้เราเคลียเยอะมากๆ ทำให้เราเครียดและทำงานหนัก พักผ่อนน้อย แต่ยังจะแบ่งเวลาไปออกกำลังกายอีก

สิ่งที่ได้❓

- ประจำเดือนมาไม่ปกติ มา 14 วัน หายไป 1 สัปดาห์ มาต่ออีก 14 วัน หายไป 1 เดือน

- เลือดกำเดาไหลบ่อยมาก แทบทุกวัน นั่งๆทำงานอยู่ก็ไหล เดินไปถ่ายเอกสารอยู่ อยู่ๆก็ไหล แม้กระทั่งๆนอนๆอยู่ก็ไหล

ไปหาหมอ หมอว่าไง:

สาเหตุมาจากน้ำหนักที่เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ทำให้ฮอร์โมนปรับไม่ทัน ประจำเดือนเลยมาไม่ปกติ อีกสาเหตุคือพักผ่อนน้อย ความเครียดสะสม

💬สิ่งที่อยากฝากไว้:

- พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง งานอ่ะทำได้ แต่ต้องนอนให้พอด้วย

- ไม่ว่าเราจะลดน้ำหนักยังไง แต่ควรทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ แต่อาจจะต้องลดปริมาณการทานลง ลดของหวาน ลดของทอด ไม่กินจุกจิก การอดอาหารอาจจะทำให้ระบบของร่างกายเราพังได้ หรือแม้กระทั่งระบบเผาผลาญของเรา ถ้ากินน้อยมากๆแล้วพอมากินเยอะ อาจจะทำให้ท้องอืดได้ เนื่องจากระบบเผาผลาญเราทำงานน้อย

#ติดเทรนด์ #แชร์ประสบการณ์ #อุทาหรณ์เตือนใจ #ลดน้ําหนัก